ข่าวต่างประเทศ - รัสเซีย, ตะวันออกกลาง และตลาดรถยนต์เกิดใหม่ทั่วโลก กลายเป็นความหวังใหม่สำหรับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน เมื่อแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นประกาศขอเติบโตในตลาดเหล่านี้ และใช้เป็นฐานในการสร้างรายได้ให้เป็นไปตามแผนการระยะเวลา 3 ปีที่วางเอาไว้
เอ็มเอ็มซีเปิดเผยว่าภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า โดยจะสิ้นสุดปีธุรกิจในช่วงเดือนมีนาคม 2011 ทางบริษัทตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องทำผลกำไรจากการประกอบการให้ขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 50,000 ล้านเยน หรือ 15,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปีธุรกิจในปัจจุบันซึ่งตั้งเอาไว้เพียง 20,000 ล้านเยน หรือ 6,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง โดยตลาดรถยนต์เกิดใหม่ถูกวางให้เป็นความหวังในครั้งนี้
‘แผนการในครั้งนี้จะดำเนินการโดยอ้างอิงกับการขยายตัวของตลาดรถยนต์ในบางภูมิภาคของโลก และเราคาดหมายว่าแผนการจะสามารถเดินหน้าได้และสร้างผลลัพธ์ตามที่เราตั้งเอาไว้อย่างแน่นอน’ โฆษกของเอ็มเอ็มซีเปิดเผย
นับจากปี 2000 เป็นต้นมา มิตซูบิชิต้องตกอยู่ในสภาพที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากคดีความในเรื่องของการปกปิดข้อบกพร่องของตัวรถยนต์ที่ขายอยู่ในตลาดญี่ปุ่นมานานกว่า 20 ปีจนทำให้เกิดการเรียกรถยนต์กลับคืนมาซ่อมครั้งใหญ่ แถมในช่วงปี 2004 ก็ยังถูกตัดการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินจากเดมเลอร์ไครสเลอร์ พร้อมกับมีการขายหุ้นที่ถือเอาไว้ออกไปจนนำไปสู่สภาวะวิกฤตครั้งที่ 2
โดยมีการเปิดเผยว่าในช่วงปีธุรกิจ 3 ปีที่ผ่านมา (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2006) มิตซูบิชิมียอดขาดทุนสะสมอยู่ที่ 780,000 ล้านเยน หรือ 234,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
ตามแผนการครั้งนี้ประเด็นหลักคือการเจาะเข้าไปในตลาดรถยนต์เกิดใหม่โดยมิตซูบิชิเล็งไปที่รัสเซีย ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกาเป็นหลัก พร้อมกับตั้งความหวังว่าการเพิ่มยอดขายในตลาดรถยนต์เหล่านี้จะช่วยทำให้ยอดขายรวมทั่วโลกของบริษัทเพิ่มขึ้นอีก 6% จาก 1.34 ล้านคันที่คาดกันไว้ในปีนี้มาเป็น 1.42 ล้านคันเมื่อสิ้นสุดปีธุรกิจในเดือนมีนาคม 2011
เอ็มเอ็มซีเปิดเผยว่าภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า โดยจะสิ้นสุดปีธุรกิจในช่วงเดือนมีนาคม 2011 ทางบริษัทตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องทำผลกำไรจากการประกอบการให้ขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 50,000 ล้านเยน หรือ 15,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปีธุรกิจในปัจจุบันซึ่งตั้งเอาไว้เพียง 20,000 ล้านเยน หรือ 6,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง โดยตลาดรถยนต์เกิดใหม่ถูกวางให้เป็นความหวังในครั้งนี้
‘แผนการในครั้งนี้จะดำเนินการโดยอ้างอิงกับการขยายตัวของตลาดรถยนต์ในบางภูมิภาคของโลก และเราคาดหมายว่าแผนการจะสามารถเดินหน้าได้และสร้างผลลัพธ์ตามที่เราตั้งเอาไว้อย่างแน่นอน’ โฆษกของเอ็มเอ็มซีเปิดเผย
นับจากปี 2000 เป็นต้นมา มิตซูบิชิต้องตกอยู่ในสภาพที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากคดีความในเรื่องของการปกปิดข้อบกพร่องของตัวรถยนต์ที่ขายอยู่ในตลาดญี่ปุ่นมานานกว่า 20 ปีจนทำให้เกิดการเรียกรถยนต์กลับคืนมาซ่อมครั้งใหญ่ แถมในช่วงปี 2004 ก็ยังถูกตัดการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินจากเดมเลอร์ไครสเลอร์ พร้อมกับมีการขายหุ้นที่ถือเอาไว้ออกไปจนนำไปสู่สภาวะวิกฤตครั้งที่ 2
โดยมีการเปิดเผยว่าในช่วงปีธุรกิจ 3 ปีที่ผ่านมา (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2006) มิตซูบิชิมียอดขาดทุนสะสมอยู่ที่ 780,000 ล้านเยน หรือ 234,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
ตามแผนการครั้งนี้ประเด็นหลักคือการเจาะเข้าไปในตลาดรถยนต์เกิดใหม่โดยมิตซูบิชิเล็งไปที่รัสเซีย ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกาเป็นหลัก พร้อมกับตั้งความหวังว่าการเพิ่มยอดขายในตลาดรถยนต์เหล่านี้จะช่วยทำให้ยอดขายรวมทั่วโลกของบริษัทเพิ่มขึ้นอีก 6% จาก 1.34 ล้านคันที่คาดกันไว้ในปีนี้มาเป็น 1.42 ล้านคันเมื่อสิ้นสุดปีธุรกิจในเดือนมีนาคม 2011
