ยุติการรอแบบไม่รู้อีกต่อไปสำหรับแฟนๆ ของ “ฮอนด้า แจ๊ส” หลังจากได้ยินข่าวการเปิดตัวของฝาแฝด “ฮอนด้า ฟิต” ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดกระแสการถามว่า เมื่อไหร่ฮอนด้าจะเปิดตัวในเมืองไทย คำตอบ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” มีเฉลยเรียบร้อย
“กลางเดือนมีนาคม 2551” จะเร็วหรือช้ากว่านั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์พร้อมกับการตั้งธงตะลุยขายในงานมอเตอร์โชว์ ณ ไบเทคบางนา ด้วยสนนราคาใกล้เคียงกับรุ่นเดิม อาจจะถูกหรือแพงกว่าเล็กน้อย เนื่องจากตัวรุ่นใหม่สามารถใช้เชื้อเพลิงชนิด E20 ได้ ทำให้ได้รับอัตราภาษีลดต่ำลง
และตามสไตล์ของฮอนด้า เพื่อปูทางก่อนรถรุ่นใหม่เปิดตัว ฮอนด้าจัดทริปทดลองขับสั้นๆ ในกรุงเทพฯ โดยนำเจ้า “ฮอนด้า ฟิต” มาเป็นโจทย์
สำหรับ ฮอนด้า ฟิต ตัวที่เราทดลองขับเป็นรุ่นท๊อป เครื่องยนต์ 1.5 i-Vtec ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD)นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งมีความแตกต่างกับฮอนด้า แจ๊ส ที่จะขายในเมืองไทยเล็กน้อยในเรื่องของออพชั่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ นอกนั้นส่วนใหญ่จะเหมือนกัน
ฮอนด้า เลือกให้เราทดลองขับผ่านเส้นทางด่วนและถนนย่านใจกลางเมืองเช่น อโศก, เพชรบุรี, พระราม4 และสาทร โดยในด้านของการขับขี่ เจ้าฮอนด้าฟิต ทำผลงานเป็นที่น่าประทับใจเราอย่างมากจาก พวงมาลัยน้ำหนักเบา ควบคุมง่ายกว่ารุ่นเดิม, คันเร่งน้ำหนักพอดีเท้า, กระจกหน้าให้ความรู้สึกว่ากว้างขึ้น ทัศนวิสัยชัดเจนทุกมุมมอง
ส่วนการตอบสนองของเครื่องยนต์จากกำลังที่มากกว่าเดิม 10 แรงม้า จังหวะเร่งรู้สึกแตกต่างจากเดิมเล็กน้อยอาจจะเป็นผลจากการเปลี่ยนระบบเกียร์ โดยหันมาคบกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดแทนเกียร์แบบซีวีที(CVT) 7 สปีดในรุ่นก่อนหน้า และเปลี่ยนมาใช้คันเร่งไฟฟ้า (DWB)
ด้านการทรงตัว เรารู้สึกว่า ฟิต คันนี้ช่วงล่างนุ่มกว่าแจ๊สตัวเดิมและความเร็วระดับ 120 กม./ชม. รถยังคงนิ่งมาก จังหวะเปลี่ยนเลนกระทันหันก็ทรงตัวได้ดี ความเร็วสูงสุดเราลองเหยียบ(ตามสภาพการจราจรเอื้ออำนวย)คือ 140 กม./ชม. ฟิตยังให้ความรู้สึกอุ่นใจได้เต็มร้อย
สำหรับเสียงรบกวนจากภายนอกจัดอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก จะมีเพียงเสียงของเครื่องยนต์ขณะกดคันเร่งคิกค์ดาวน์แล้วรอบเครื่องพุ่งขึ้นไปแตะเกือบ 6,000 รอบ/นาที ที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างดังกังวานกว่ารุ่นเดิม ส่วนเสียงลมประทะจะเริ่มได้ยินเมื่อขับด้วยความเร็วเกิน 120 กม./ชม.
แต่มีข้อสังเกตจากสื่อมวลชนบางท่านว่าทำไม ฟิต คันนี้จึงให้ความรู้สึกในการขับขี่ดีอย่างชัดเจน “เป็นเพราะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?” คำตอบคือ “ไม่” จากการอธิบายของสื่อมวลชนอาวุโสระดับอาจารย์ที่ว่า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในฟิตนั้นไม่ใช่แบบฟูลไทม์(Full Time) แต่เป็นแบบ รีลไทม์ (Real Time) เหมือนในซีอาร์-วี
นั่นหมายความว่า รถจะขับเคลื่อน 2 ล้อตลอดเวลา จะเปลี่ยนเป็นขับ 4 ล้อโดยอัตโนมัติ ก็ต่อเมื่อเซ็นเซอร์จับได้ว่า ล้อใดล้อหนึ่งเกิดการสูญเสียกำลัง ฉะนั้นการขับขี่จึงไม่แตกต่างจากรถขับเคลื่อน 2 ล้อทั่วไป จึงตัดประเด็นขับเคลื่อน 4 ล้อออกไปได้
ส่วนประเด็นที่อาจจะทำให้เกิดความแตกต่างได้คือ การเป็นรุ่น อาร์เอส (RS) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นสปอร์ต และมีการปรับแต่งระบบกันสะเทือนใหม่ ประกอบกับมาตรฐานของชิ้นส่วนรถยนต์จากญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าอยู่ในระดับดีเยี่ยม ไม่ด้อยกว่าใครในโลก
เราปิดฉากการทดลองขับเจ้า “ฟิต” ด้วยความประทับใจพร้อมกับขอกระดาษหนึ่งใบมาเขียนและแปะหน้ารถว่า “จองแล้ว” ทว่าเป็นเพียงการล้อกันเล่นเพราะความจริงฮอนด้า ไม่ขายคันนี้ เนื่องจาก ต้นทุนที่นำเข้ามาพุ่งเกินกว่า 1 ล้านบาท ฉะนั้นเราจึงได้แต่รอและหวังว่า “ฮอนด้า แจ๊ส” คงจะไม่แตกต่างจาก “ฮอนด้า ฟิต” นะครับ