xs
xsm
sm
md
lg

Cadillac CTS-V เมื่อมะกันขอชิงความแรงกับไส้กรอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นตลาดที่มีลูกค้ามากมายนัก แต่กลุ่มรถยนต์คอมแพ็กต์ระดับหรูที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แรงๆ กลับได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์มากขึ้น จากเดิมมีแค่ 3 สิงห์จากเยอรมนีอย่างบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม เพาเวอร์, เมอร์เซเดส-เบนซ์ เวอร์ชันเอเอ็มจี และออดี้ เอส / อาร์เอส ถึงตอนนี้มีเพิ่มมาราย นั่นก็คือ ซีทีเอส-วี จากค่ายแคดิลแล็ก

ความจริงแล้วเวอร์ชันวีของซีทีเอสไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีขายเป็นทางเลือกมาตั้งแต่รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2004 เพียงแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้รับความสนใจมากเท่ากับคู่ปรับจากแดนไส้กรอก แต่สำหรับเวอร์ชันที่ 2 ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐานของซีทีเอสใหม่มาพร้อมกับความเร้าใจแบบสุดๆ ด้วยการยกเครื่องยนต์วี8 รุ่นใหม่มาวางไว้ใต้ฝากระโปรง

เครื่องยนต์วี8 บล็อกนี้ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับรหัส LS9 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกกับเชฟโรเลต คอร์เว็ตต์ ZR1 มีความจุกระบอกสูบ 6,000 ซีซี และพึ่งซูเปอร์ชาร์จในการอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ ทำให้รีดกำลังออกมาได้ 550 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 76.0 กก.-ม. ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะแบบควิกชิฟต์ หรือว่าจะไม่อยากเมื่อยขาซ้ายกับรุ่นคลัตช์ไฟฟ้าแบบ 6 จังหวะเปลี่ยนเกียร์ผ่านแป้น + / -

นอกจากในส่วนของระบบช่วงล่างยังเป็นแบบปรับตัวอัตโนมัติด้วยระบบ Magnetic Ride Control ซึ่งจีเอ็มอ้างว่ามีการทำงานปรับระดับความหนืดของโช้กอัพให้สอดคล้องกับสภาพถนนจริงได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลก

โดยใช้สนามแม่เหล็กเป็นส่วนสร้างความหนืดให้กับน้ำมันที่อยู่ในกระบอกโช้กอัพ ซึ่งในน้ำมันนี้จะมีอนุภาคผงเหล็กผสมอยู่ พร้อมกับใช้เซ็นเซอร์ในการอ่านสภาพถนนทุกๆ 0.001 วินาที เพื่อส่งข้อมูลไปให้กับหน่วยประมวลผลทำการสั่งปรับระบบช่วงล่างให้สอดคล้องกับสภาพถนนที่กำลังขับอยู่

สำหรับตลาดของซีทีเอสดูเหมือนว่าจะออกอาการงงๆ สักนิด เพราะแม้ว่ารุ่นแรกจะถูกวางให้เป็นตัวแทนของแคดดี้ในการสยบความหรูรุ่นเล็กอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3, ออดี้ เอ4 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส แต่พอมาถึงรุ่นนี้ดูเหมือนว่าจีเอ็มจะอัพตลาดขึ้นมาด้วยการขยายขนาดตัวถังจนเกือบๆ จะเป็นรถยนต์ขนาดกลางกึ่งใหญ่ด้วยความยาว 4,866 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,880 มิลลิเมตร แถมยังระบุชัดว่าคู่แข่งคือ เอ็ม5 และอี63เอเอ็มจี

จะว่าแปลกก็แปลก เพราะว่าในตลาดรุ่นใหญ่สำหรับลุยกับซีรีส์ 5 หรืออี-คลาสทางแคดิลแล็กก็มีรุ่นเอสทีเอสอยู่ในตลาดอยู่แล้ว ขณะที่รุ่นบีแอลเอสที่มีขายเฉพาะในยุโรป ก็ยังไม่หรูพอที่จะเทียบชั้นกับ3 สิงห์เยอรมนีได้ จะทำได้ก็แค่ความหรูในกลุ่มรองลงมาอย่างวอลโว่ หรือซาบ

ก็เลยไม่รู้ว่าสุดท้ายถ้ายังกำหนดกลุ่มตลาดแบบงงๆ เช่นนี้แล้วจะไปรอดหรือเปล่า เพราะเหมือนกับมวยแบกน้ำหนักขึ้นไปชกกับรุ่นใหญ่กว่า...ส่วนจะรอดหรือไม่คงต้องรอตามดูในช่วงกลางปีนี้ เพราะแคดิลแล็กส่งขายทั่วโลกแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น