ข่าวในประเทศ - ค่าย “นิสสัน” ฮึกเหิม! หลังทำยอดขายพุ่งพรวด ขึ้นมาติดท็อปทรีสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว ปีหนูไฟนี้ประกาศเดินหน้าลุย เข็นรถใหม่รุกตลาดต่อเนื่อง เริ่มจากมีนาคมเอาใจแฟนประจำ เปิดตัวปิกอัพรุ่นซิงเกิลแค็บ “ฟรอนเทียร์ นาวารา” สู่ตลาดเสียที จากนั้นคาดว่าจะปัดฝุ่นแผนส่งรถโมเดลใหม่รุกตลาดมินิเอ็มพีวีอีกครั้ง ในชื่อรุ่น “แกรนด์ ลิวิน่า” ซึ่งนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย และปิดท้ายปีเบรกยอดขายเก๋งขนาดกลางคู่แข่ง “ฮอนด้า แอคคอร์ด” และ “โตโยต้า คัมรี่” ด้วยการแย้มโฉมใหม่ “นิสสัน เทียน่า” เรียกความสนใจลูกค้าในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 ก่อนจะขายจริงช่วงต้นปี 2552
นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของปิกอัพ “นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา” ในปีที่ผ่านมา เมื่อสามารถทำยอดขายได้มากถึง 31,980 คัน หรือเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ทำได้ 21,888 คัน มีอัตราการเติบโตถึง 46.1% ซึ่งเป็นปิกอัพยี่ห้อเดียวที่มียอดขายเติบโต ในสภาวะตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากความผันผวนทางการเมืองและเศรษฐกิจ จนทำให้ปิกอัพยี่ห้ออื่นๆ ยอดขายร่วงระนาวหมด ส่งผลภาพรวมตลาดปิกอัพติดลบถึง 9.8%
จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา บรรลุเป้าหมายทางการตลาดตามที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาเป็น 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดปิกอัพ 1 ตัน ดังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะจากยอดขายทำให้ตำแหน่งพุ่งจากอันดับ 4 เมื่อปี 2549 ที่ชนะเชฟโรเลต โคโลราโด อันดับ 5 เพียงกว่า 30 คัน ทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 3 เบียดมิตซูบิชิตกลงไปแทน
ที่พิเศษมากกว่านั้นเห็นจะเป็นการปรับฐานลูกค้า และภาพลักษณ์ของปิกอัพนิสสันใหม่ จากเดิมที่จะเป็นกลุ่มใช้งานเพื่อการบรรทุก ซึ่งมีสัดส่วนตลาดอยู่ที่ 70% มาเป็นกลุ่มใช้งานอเนกประสงค์ หรือรถส่วนตัวของคนทั่วไป 60% แทน จากเดิมที่มีเพียง 30% ด้วยการปรับกลยุทธ์เปิดตัว ฟรอนเทียร์ นาวารา เฉพาะรุ่นคิงแค็บ(มีแค็บ) และดับเบิลแค็บที่เคยเป็นจุดอ่อนออกมาก่อน
โดยไม่มีรุ่นซิงเกิลแค็บ หรือปิกอัพตอนเดียวสู่ตลาด จึงนับเป็นอีกความสำเร็จตามเป้าหมาย ที่นิสสันต้องการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มใช้งานบรรทุก ให้ครอบคลุมกลุ่มหลักที่ใช้งานอเนกประสงค์และใช้เป็นรถส่วนตัว
มาปีหนูไฟ 2551 ถึงคราวที่นิสสันจะกลับมาเอาใจขาประจำเสียที เมื่อถึงเวลาจะแนะนำปิกอัพ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา รุ่นซิงเกิลแค็บสู่ตลาด โดยมีกำหนดเปิดตัวกับสื่อมวลชนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเริ่มส่งรถลงสู่โชว์รูมประมาณกลางเดือนมีนาคม เพื่อเข้าร่วมเวทีงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ที่ไบเทค บางนา ช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนนี้
ส่วนเป้าหมายทางการตลาดของ ฟรอนเทียร์ นาวารา รุ่นซิงเกิลแคบ แม้นิสสันจะปรับสัดส่วนปิกอัพตอนเดียวเหลือเพียง 40% แต่เป้าหมายฟรอนเทียร์ นาวารา 61% ของยอดขายปิกอัพตอนเดียว ยังคงเป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ และ 25% ดึงลูกค้ามาจากผู้นำตลาดโตโยต้าและอีซูซุ ส่วนอีก 14% เป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถคันแรก เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและภาพลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับเรื่องความทนทานและการบรรทุก
โดยปิกอัพนิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา รุ่นซิงเกิลแค็บ (T-cut) ยังคงเน้นจุดเด่นที่ขนาดตัวถังใหญ่มากที่สุดในปิกอัพปัจจุบัน พร้อมกับปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับการบรรทุกหนัก ขณะที่ขุมกำลังเป็นบล็อก YD25DDTi เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที
เช่นเดียวกับรุ่นคิงแค็บ แต่ได้มีการปรับลดแรงบิดลงจาก 356 นิวตัน-เมตร เป็น 294 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที พร้อมปรับช่วงให้เหมาะสมกับการบรรทุกหนัก รวมถึงเปลี่ยนขนาดล้อจาก 16 นิ้ว เป็น 15 นิ้วแทน ส่วนสนนราคายังไม่เคาะเป็นทางการ แต่ไม่น่าจะสูงกว่าปิกอัพตอนเดียวฟรอนเทียร์มากนัก
นั่นคือหมัดเด็ดแรกของนิสสันที่จะถูกส่งลงทำตลาดในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้ปิกอัพนิสสันมีสินค้าครบทุกเซกเมนต์ตลาด ผลักดันให้นิสสันกลับมาติดท็อปทรีได้อย่างมั่นคง
ขณะที่ตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง ได้มีการชิงตอบสนองความต้องการของตลาด ด้วยการปรับเครื่องยนต์เก๋งทุกรุ่นให้สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา พร้อมกับลดราคาตามสิทธิประโยชน์ทางภาษีของรถที่ใช้น้ำมัน E20 โดยนิสสัน เทียน่า ปรับลดราคาลง 6.6-8.6 หมื่นบาท
ส่วนเก๋งนิสสัน ทีด้า ทั้งแบบ 4 และแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ปรับลดราคาลง 3.5-4.6 หมื่นบาท พร้อมกับเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “ปลื้ม 2” ออกมาตอกย้ำ และที่สำคัญลูกค้ายังจะได้รับดอกเบี้ยพิเศษ 2.99% เมื่อซื้อรถภายใต้เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อนนาน 36 เดือน
อย่างไรก็ตาม ที่เป็นหมัดเด็ดของนิสสันอีกรุ่นในปีนี้ คือการเปิดตัวรถโมเดลใหม่สู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี ตามที่ผู้บริหารเคยเกริ่นเอาไว้ แต่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดชัดเจน แต่จากตรวจสอบคาดว่าจะรุกตลาดมินิเอ็มพีวีตามที่ได้มีการศึกษามาก่อนหน้านี้ และชะลอแผนไประยะหนึ่งช่วงเปลี่ยนแปลงผู้บริหารใหม่ แต่ล่าสุดมีแนวโน้มจะปัดฝุ่นแผนส่ง “นิสสัน แกรนด์ ลิวินา” (Grand Livina) หรือในตลาดโลกเรียกรุ่น Livina Geniss บุกตลาดมินิเอ็มพีวีในไทยอีกครั้ง
โดยแกรนด์ ลิวินา เป็นรถมินิเอ็มพีวี 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ภายใต้กรอบข้อตกลงอาฟตา ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์เสียภาษีนำเข้าเพียง 5% ราคาจึงไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกันที่ผลิตในประเทศ ซึ่งคู่แข่งหลักในไทยจริงๆ จะเป็น เชฟโรเลต ซาฟิร่า เพียงแต่ได้เลิกทำตลาดไปแล้ว และที่มีขายอยู่ปัจจุบันเฉพาะโตโยต้า วิช เท่านั้น
นิสสัน แกรนด์ ลิวิน่า ที่ขายอยู่ในอินโดนีเซียมีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ เป็นบล็อกเดียวกับที่วางใน นิสสัน ทีด้า คือเครื่องยนต์เบนซิน HR15DE ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 15.1 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และอีกรุ่น MR18DE ขนาด 1.8 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC 126 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 17.7 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
โดยรุ่นที่นำเข้ามาทำตลาดในไทยน่าจะเป็นขนาด 1.8 ลิตรเท่านั้น ส่วนรถรุ่นอื่นๆ ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะทำตลาดในปีนี้ทันหรือเปล่า รวมถึงนิสสัน จีที-อาร์ รถสปอร์ตที่บรรดาเกรย์มาร์เก็ต หรือผู้นำเข้ารถยนต์อิสระจากต่างประเทศ ที่ชิงนำเข้ามากวาดยอดขายอยู่ขณะนี้
ส่วนสาเหตุผู้บริหารของนิสสันระบุว่า จีที-อาร์ตัวที่ขายในตลาดโลก ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเตือนลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นนี้จากเกรย์มาร์เก็ตว่า เป็นรถที่ถูกผลิตเพื่อวิ่งในญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะจะถูกจำกัดความเร็วไม่เกิน 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่สามารถปรับแก้กล่องปลดล็อกความเร็วได้ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกควบคุมความเร็วด้วยระบบ GPS เท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากรุ่นตลาดโลกที่ไม่มีการล็อกความเร็ว และคำสั่งต่างๆ จะเป็นภาษาอังกฤษหมด ไม่ใช่ญี่ปุ่นเหมือนกับที่เกรย์นำเข้ามาทำตลาด
อย่างไรก็ตาม ช่วงโค้งสุดท้ายของปีภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 นิสสันจะเบรกการซื้อเก๋งขนาดกลางของคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ ด้วยการเผยโฉม (หรือปิดบางส่วนเหมือนคราวเปิดตัว ฟรอนเทียร์ นาวารา) นิสสัน เทียน่า รุ่นโมเดลเชนจ์ ก่อนจะเปิดตัวขายจริงในช่วงต้นปี 2009
นิสสัน เทียน่า โฉมใหม่ คาดว่าจะพัฒนามาจากรุ่นต้นแบบ “นิสสัน อินติมา” (Intima) ซึ่งเปิดตัวในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ โดยรุ่นทำตลาดจริงน่าจะเปิดตัวในญี่ปุ่นช่วงเดือนพฤษภาคม 2551 นี้ หลังจากนั้นน่าจะถึงคราวทำตลาดในไทยประมาณต้นปี 2552 ในไทย และขณะนี้ทางทีมการตลาดของนิสสัน ได้เตรียมที่จะสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสมรรถนะและบุคลิกของเทียน่าใหม่ไว้แล้ว เชื่อว่าหลังจากงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 จะมีการจัดกิจกรรมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงการเผยไต๋ช่วงงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 ปลายปีแน่นอน
นั่นคือแผนบุกตลาดของค่ายนิสสันในปีนี้ ซึ่งค่อนข้างมีความชัดเจนเกี่ยวกับตัวโปรดักต์พอสมควร ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าแล้วว่า…จะรักจะชอบ แล้วเลือกซื้อรุ่นไหนเท่านั้น?!!
นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของปิกอัพ “นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา” ในปีที่ผ่านมา เมื่อสามารถทำยอดขายได้มากถึง 31,980 คัน หรือเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ทำได้ 21,888 คัน มีอัตราการเติบโตถึง 46.1% ซึ่งเป็นปิกอัพยี่ห้อเดียวที่มียอดขายเติบโต ในสภาวะตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากความผันผวนทางการเมืองและเศรษฐกิจ จนทำให้ปิกอัพยี่ห้ออื่นๆ ยอดขายร่วงระนาวหมด ส่งผลภาพรวมตลาดปิกอัพติดลบถึง 9.8%
จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา บรรลุเป้าหมายทางการตลาดตามที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาเป็น 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดปิกอัพ 1 ตัน ดังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะจากยอดขายทำให้ตำแหน่งพุ่งจากอันดับ 4 เมื่อปี 2549 ที่ชนะเชฟโรเลต โคโลราโด อันดับ 5 เพียงกว่า 30 คัน ทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 3 เบียดมิตซูบิชิตกลงไปแทน
ที่พิเศษมากกว่านั้นเห็นจะเป็นการปรับฐานลูกค้า และภาพลักษณ์ของปิกอัพนิสสันใหม่ จากเดิมที่จะเป็นกลุ่มใช้งานเพื่อการบรรทุก ซึ่งมีสัดส่วนตลาดอยู่ที่ 70% มาเป็นกลุ่มใช้งานอเนกประสงค์ หรือรถส่วนตัวของคนทั่วไป 60% แทน จากเดิมที่มีเพียง 30% ด้วยการปรับกลยุทธ์เปิดตัว ฟรอนเทียร์ นาวารา เฉพาะรุ่นคิงแค็บ(มีแค็บ) และดับเบิลแค็บที่เคยเป็นจุดอ่อนออกมาก่อน
โดยไม่มีรุ่นซิงเกิลแค็บ หรือปิกอัพตอนเดียวสู่ตลาด จึงนับเป็นอีกความสำเร็จตามเป้าหมาย ที่นิสสันต้องการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มใช้งานบรรทุก ให้ครอบคลุมกลุ่มหลักที่ใช้งานอเนกประสงค์และใช้เป็นรถส่วนตัว
มาปีหนูไฟ 2551 ถึงคราวที่นิสสันจะกลับมาเอาใจขาประจำเสียที เมื่อถึงเวลาจะแนะนำปิกอัพ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา รุ่นซิงเกิลแค็บสู่ตลาด โดยมีกำหนดเปิดตัวกับสื่อมวลชนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเริ่มส่งรถลงสู่โชว์รูมประมาณกลางเดือนมีนาคม เพื่อเข้าร่วมเวทีงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ที่ไบเทค บางนา ช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนนี้
ส่วนเป้าหมายทางการตลาดของ ฟรอนเทียร์ นาวารา รุ่นซิงเกิลแคบ แม้นิสสันจะปรับสัดส่วนปิกอัพตอนเดียวเหลือเพียง 40% แต่เป้าหมายฟรอนเทียร์ นาวารา 61% ของยอดขายปิกอัพตอนเดียว ยังคงเป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ และ 25% ดึงลูกค้ามาจากผู้นำตลาดโตโยต้าและอีซูซุ ส่วนอีก 14% เป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถคันแรก เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและภาพลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับเรื่องความทนทานและการบรรทุก
โดยปิกอัพนิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา รุ่นซิงเกิลแค็บ (T-cut) ยังคงเน้นจุดเด่นที่ขนาดตัวถังใหญ่มากที่สุดในปิกอัพปัจจุบัน พร้อมกับปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับการบรรทุกหนัก ขณะที่ขุมกำลังเป็นบล็อก YD25DDTi เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที
เช่นเดียวกับรุ่นคิงแค็บ แต่ได้มีการปรับลดแรงบิดลงจาก 356 นิวตัน-เมตร เป็น 294 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที พร้อมปรับช่วงให้เหมาะสมกับการบรรทุกหนัก รวมถึงเปลี่ยนขนาดล้อจาก 16 นิ้ว เป็น 15 นิ้วแทน ส่วนสนนราคายังไม่เคาะเป็นทางการ แต่ไม่น่าจะสูงกว่าปิกอัพตอนเดียวฟรอนเทียร์มากนัก
นั่นคือหมัดเด็ดแรกของนิสสันที่จะถูกส่งลงทำตลาดในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้ปิกอัพนิสสันมีสินค้าครบทุกเซกเมนต์ตลาด ผลักดันให้นิสสันกลับมาติดท็อปทรีได้อย่างมั่นคง
ขณะที่ตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง ได้มีการชิงตอบสนองความต้องการของตลาด ด้วยการปรับเครื่องยนต์เก๋งทุกรุ่นให้สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา พร้อมกับลดราคาตามสิทธิประโยชน์ทางภาษีของรถที่ใช้น้ำมัน E20 โดยนิสสัน เทียน่า ปรับลดราคาลง 6.6-8.6 หมื่นบาท
ส่วนเก๋งนิสสัน ทีด้า ทั้งแบบ 4 และแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ปรับลดราคาลง 3.5-4.6 หมื่นบาท พร้อมกับเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “ปลื้ม 2” ออกมาตอกย้ำ และที่สำคัญลูกค้ายังจะได้รับดอกเบี้ยพิเศษ 2.99% เมื่อซื้อรถภายใต้เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อนนาน 36 เดือน
อย่างไรก็ตาม ที่เป็นหมัดเด็ดของนิสสันอีกรุ่นในปีนี้ คือการเปิดตัวรถโมเดลใหม่สู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี ตามที่ผู้บริหารเคยเกริ่นเอาไว้ แต่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดชัดเจน แต่จากตรวจสอบคาดว่าจะรุกตลาดมินิเอ็มพีวีตามที่ได้มีการศึกษามาก่อนหน้านี้ และชะลอแผนไประยะหนึ่งช่วงเปลี่ยนแปลงผู้บริหารใหม่ แต่ล่าสุดมีแนวโน้มจะปัดฝุ่นแผนส่ง “นิสสัน แกรนด์ ลิวินา” (Grand Livina) หรือในตลาดโลกเรียกรุ่น Livina Geniss บุกตลาดมินิเอ็มพีวีในไทยอีกครั้ง
โดยแกรนด์ ลิวินา เป็นรถมินิเอ็มพีวี 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ภายใต้กรอบข้อตกลงอาฟตา ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์เสียภาษีนำเข้าเพียง 5% ราคาจึงไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกันที่ผลิตในประเทศ ซึ่งคู่แข่งหลักในไทยจริงๆ จะเป็น เชฟโรเลต ซาฟิร่า เพียงแต่ได้เลิกทำตลาดไปแล้ว และที่มีขายอยู่ปัจจุบันเฉพาะโตโยต้า วิช เท่านั้น
นิสสัน แกรนด์ ลิวิน่า ที่ขายอยู่ในอินโดนีเซียมีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ เป็นบล็อกเดียวกับที่วางใน นิสสัน ทีด้า คือเครื่องยนต์เบนซิน HR15DE ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 15.1 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และอีกรุ่น MR18DE ขนาด 1.8 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC 126 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 17.7 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
โดยรุ่นที่นำเข้ามาทำตลาดในไทยน่าจะเป็นขนาด 1.8 ลิตรเท่านั้น ส่วนรถรุ่นอื่นๆ ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะทำตลาดในปีนี้ทันหรือเปล่า รวมถึงนิสสัน จีที-อาร์ รถสปอร์ตที่บรรดาเกรย์มาร์เก็ต หรือผู้นำเข้ารถยนต์อิสระจากต่างประเทศ ที่ชิงนำเข้ามากวาดยอดขายอยู่ขณะนี้
ส่วนสาเหตุผู้บริหารของนิสสันระบุว่า จีที-อาร์ตัวที่ขายในตลาดโลก ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเตือนลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นนี้จากเกรย์มาร์เก็ตว่า เป็นรถที่ถูกผลิตเพื่อวิ่งในญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะจะถูกจำกัดความเร็วไม่เกิน 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่สามารถปรับแก้กล่องปลดล็อกความเร็วได้ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกควบคุมความเร็วด้วยระบบ GPS เท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากรุ่นตลาดโลกที่ไม่มีการล็อกความเร็ว และคำสั่งต่างๆ จะเป็นภาษาอังกฤษหมด ไม่ใช่ญี่ปุ่นเหมือนกับที่เกรย์นำเข้ามาทำตลาด
อย่างไรก็ตาม ช่วงโค้งสุดท้ายของปีภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 นิสสันจะเบรกการซื้อเก๋งขนาดกลางของคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ ด้วยการเผยโฉม (หรือปิดบางส่วนเหมือนคราวเปิดตัว ฟรอนเทียร์ นาวารา) นิสสัน เทียน่า รุ่นโมเดลเชนจ์ ก่อนจะเปิดตัวขายจริงในช่วงต้นปี 2009
นิสสัน เทียน่า โฉมใหม่ คาดว่าจะพัฒนามาจากรุ่นต้นแบบ “นิสสัน อินติมา” (Intima) ซึ่งเปิดตัวในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ โดยรุ่นทำตลาดจริงน่าจะเปิดตัวในญี่ปุ่นช่วงเดือนพฤษภาคม 2551 นี้ หลังจากนั้นน่าจะถึงคราวทำตลาดในไทยประมาณต้นปี 2552 ในไทย และขณะนี้ทางทีมการตลาดของนิสสัน ได้เตรียมที่จะสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสมรรถนะและบุคลิกของเทียน่าใหม่ไว้แล้ว เชื่อว่าหลังจากงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 จะมีการจัดกิจกรรมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงการเผยไต๋ช่วงงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 ปลายปีแน่นอน
นั่นคือแผนบุกตลาดของค่ายนิสสันในปีนี้ ซึ่งค่อนข้างมีความชัดเจนเกี่ยวกับตัวโปรดักต์พอสมควร ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าแล้วว่า…จะรักจะชอบ แล้วเลือกซื้อรุ่นไหนเท่านั้น?!!
