ข่าวในประเทศ - ตลาดปิกอัพปีหนูยังร้อนแรง!! จากการมีแบรนด์ใหม่ “ตาต้า” เข้ามาชิงตลาด รวมถึงการเปิดตัวรุ่นใหม่ของค่ายรถหน้าเก่า ทำให้ “ฟอร์ด” ต้องขยับตัวรับมือ โดยกุมภาพันธ์นี้จะปรับโฉมให้กับปิกอัพ “เรนเจอร์” ด้วยการแต่งหน้าทาปากใหม่ พร้อมผสมผสานรูปแบบรุ่นตกแต่งพิเศษ เพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปให้เหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อสร้างความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ หวังเรียกความสนใจและเปิดฐานลูกค้าของตนเอง ก่อนจะมีหมัดเด็ดอีกระลอกช่วงปลายปี เตรียมชนกับ “ไฮลักซ์ วีโก้” รุ่นใหม่
ขณะที่รถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “เอเวอเรสต์” มีการเสริมหล่อเช่นเดียวกัน แต่จะเปิดตัวในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 เพื่อชิงกวาดยอดขายก่อนที่พีพีวีใหม่ “มิตซูบิชิ” และ “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” จะถูกส่งมาเขย่าตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ตลาดรถยนต์ไทยปีนี้ไฮไลต์คงจะอยู่ที่กลุ่มเก๋งเป็นหลัก เพราะมีการเปิดตัวรถโมเดลใหม่สู่ตลาด ครอบคลุมทุกเซกเม้นท์ โดยเฉพาะจากค่ายแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็นคอมแพ็กคาร์อย่าง โตโยต้า อัลติส และซับคอมแพ็กต์ที่ฮอนด้าจะส่งแจ๊ซโฉมใหม่บุกตลาด แต่ใช่ว่าปีหนูไฟตลาดสำคัญอย่างปิกอัพจะเงียบเหงาเสียทีเดียว เนื่องจากมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่สนามแข่งขันเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่รายเดิมก็มีการปรับโฉมสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าเช่นกัน แม้ช่วงต้นปีบรรดาค่ายยักษ์ใหญ่จะยังไม่มีการขยับตัวก็ตาม
โดยในปีหนูไฟนี้ตลาดปิกอัพจะมีแบรนด์ใหม่ “ตาต้า” จากอินเดียเข้าสู่ตลาดไทย ตั้งแต่ออกสตาร์ทโค้งแรกของปีเลย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีทางเลือกเพิ่มอีก แต่หากใครที่กำลังมองหาปิกอัพใหม่แบรนด์เดิมในตลาดช่วงต้นปีนี้ ค่ายนิสสันได้เวลาตอบสนองผู้ต้องการปิกอัพเพื่อใช้งานบรรทุก
ด้วยการส่ง “ฟรอนเทียร์ นาวารา” รุ่นซิงเกิลแค็บ หรือปิกอัพตอนเดียวบุกตลาดเสียที หลังจากการเปิดตัวนาวาราครั้งแรก มีเฉพาะรุ่นมีแค็บและปิกอัพ 4 ประตูให้เลือกเท่านั้น และหากผู้ที่ชื่นชอบสไตล์สปอร์ตปิกอัพ ยังมีทางเลือกใหม่กับ “มาสด้า บีที-50” ที่ได้มีการไมเนอร์เชนจ์ให้โฉบเฉี่ยวมากขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อคู่แข่งขยับตัวมีหรือที่ค่าย “ฟอร์ด” จะนิ่งดูดายอยู่ได้ โดยประมาณเดือนกุมภาพันธ์เตรียมพบกับปิกอัพ “เรนเจอร์” ใหม่ ซึ่งถือเป็นการไมเนอร์เชนจ์เช่นเดียวกับ มาสด้า บีที-50 แต่แว่วว่าจะมีการปรับเปลี่ยนที่มากกว่าแต่งหน้าทาปากพอสมควร
ทั้งนี้การเปิดตัวของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะเน้นการสร้างความแตกต่างที่เห็นชัดเจน เพื่อตอบสนองและสร้างกลุ่มลูกค้าของตนเอง นั่นคือผู้ที่ชื่นชอบความแตกต่าง มีความมั่นใจในตนเอง และไม่ยึดติดแบรนด์ตามตลาด แต่ต้องการรถที่มีสมรรถนะตอบสนองการขับขี่ได้เต็มที่ ทั้งเรื่องของความแรง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แต่ก็ยังคงมีอัตราสิ้นเปลื้องน้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดไม่แตกต่าง หรือเหนือกว่าคู่แข่ง
ดังนั้นปิกอัพเรนเจอร์ใหม่จึงได้มีการปรับเปลี่ยนตามคอนเซ็ปต์ดังกล่าว ด้วยการปรับโฉมตามรูปแบบของการไมเนอร์เชนจ์ทั่วไป ด้วยการเปลี่ยนกระจังหน้า ไฟหน้า และท้าย รวมถึงเบาะนั่งภายในห้องโดยสาร แต่ที่มีความพิเศษกว่าคู่แข่งทั่วไป ตรงที่ได้มีการผสมผสานรูปแบบของรถลิมิเต็ดเวอร์ชั่น โดยการเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษเข้าไป จนมีความแตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด
กลยุทธ์การผสมผสานระหว่างการปรับโฉมและรุ่นตกแต่งพิเศษ หรือเวอร์ชั่นลิมิเต็ดเข้าด้วยกัน มาจากความสำเร็จของฟอร์ด เรนเจอร์ ในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไวลด์แทร็ก หรือล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้วกับชุดแต่ง HD Limited
หรือแม้แต่รถยนต์อเนกประสงค์แบบพีพีวี “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ คูลไวท์ ลิมิเต็ด” ที่มาในสีพิเศษ Cool White สีเดียวตลอดคัน พร้อมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงที่ครบครัน จนได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก จากเดิมจำกัดจำนวนขายเพียง 40 คัน เฉพาะในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2007 แต่ที่สุดก็ต้องเพิ่มจำนวนรถตามความต้องการลูกค้าที่มีมากกว่า
เหตุนี้จุดขายของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จึงอยู่ที่ความเพียบพร้อมเทียบเท่าคู่แข่งในทุกจุดสำคัญ แต่ก็โดดเด่นกว่าด้วยความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง โดยเรนเจอร์ใหม่จะมีจำนวนรุ่นให้เลือกมากขึ้น ขณะที่สนนราคาจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ถือว่าราคาคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับมูลค่าอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้าไป
นี่เป็นทีเด็ดของฟอร์ดที่จะชนกับคู่แข่งในตลาด แต่ใช่ว่าจะหมดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะตลอดทั้งปีฟอร์ดจะส่งเวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษออกมาเป็นอีกทางเลือกอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีไฮไลต์ตามออกมาเป็นหมัดเด็ดที่สองส่งท้ายปี เพื่อรับมือกับยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” ที่จะมีการปรับรูปลักษณ์ใหม่แล้ว ยังได้ปรับปรุงขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2500 และ 3000 ซีซี โดยเฉพาะตัวหลังให้มีพละกำลังมากถึง 180 แรงม้า พร้อมกับเพิ่มเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และอาจจะมีลุ้นบานแค็บเปิดได้ด้วย
เมื่อฟอร์ดได้มีการปรับโฉมให้กับเรนเจอร์แล้ว แน่นอนว่าจะต้องส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” รถอเนกประสงค์แบบพีพีวี (PPV : Pick up Passenger Vehicle) ที่ใช้พื้นฐานตัวถังร่วมกันกับเรนเจอร์ด้วย เพียงแต่กำหนดการแนะนำสู่ตลาดอาจจะช้ากว่านิดหน่อยเป็นในช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ระหว่างปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้
การไมเนอร์เชนจ์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไม่เพียงขยับตามปิกอัพเรนเจอร์ แต่ยังเป็นการเตรียมรับมือคู่แข่งรายใหม่ในตลาด นั่นคือการเปิดตัวรถพีพีวีของค่าย “มิตซูบิชิ” ที่หวนกลับมาทำตลาดอีกรอบ หลังจากเลิกขายรุ่นจี-แวกอนไปได้ระยะหนึ่ง ซึ่งคราวนี้กลับมารุกตลาดอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวรถพีพีวีรุ่นใหม่ที่ใช้พื้นฐานตัวถังร่วมกันกับปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” และเอเวอเรสต์ใหม่ยังรับมือกับ “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” ที่จะปรับโฉมตามปิกอัพวีโก้ในช่วงปลายปี 2008 นี้ด้วย
โดยคอนเซ็ปต์ของการปรับเปลี่ยนก็คงจะเช่นเดียวกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ นั่นคือรูปลักษณ์หน้าตาที่ต้องมาแบบเดียวกับเรนเจอร์ เพียงแต่ด้านท้ายที่เป็นรถอเนกประสงค์ ขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มอุปกรณ์ให้สมบูรณ์ และตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว และชื่นชอบแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น
การปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และสร้างจุดขายใหม่ ให้กับ ฟอร์ด เรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ดังกล่าว เป็นเพียงแค่การขยับตัวสร้างแรงดึงดูดใจลูกค้า และรับมือกับคู่แข่งในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ที่จะมาเขย่าตลาดครั้งใหญ่ต้องรอในปี 2010 จากการโมเดลเชนจ์ปิกอัพ “ฟอร์ด เรนเจอร์” ที่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของรถตระกูลนี้
สำหรับการปรับโฉมดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานตัวถังใหม่หมด ไม่ใช่แค่ปรับปรุงเหมือนในรุ่นปัจจุบัน โดยตัวถังของโมเดลใหม่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ระดับเดียวกับปิกอัพนิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา ส่วนเครื่องยนต์ยังจะใช้บล็อกเดิม แต่ปรับปรุงให้มีมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 4 พร้อมกับเพิ่มกำลังให้สูงระดับเดียวกับคู่แข่งในตลาด
อย่างไรก็ตาม กว่าจะถึงเวลาของโมเดลใหม่ “ฟอร์ด เรนเจอร์” ซึ่งต้องรอนานถึงกว่า 2 ปี การไมเนอร์เชนจ์เรนเจอร์และเอเวอเรสต์รุ่นปัจจุบัน จึงยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่า สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้
ขณะที่รถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “เอเวอเรสต์” มีการเสริมหล่อเช่นเดียวกัน แต่จะเปิดตัวในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 เพื่อชิงกวาดยอดขายก่อนที่พีพีวีใหม่ “มิตซูบิชิ” และ “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” จะถูกส่งมาเขย่าตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ตลาดรถยนต์ไทยปีนี้ไฮไลต์คงจะอยู่ที่กลุ่มเก๋งเป็นหลัก เพราะมีการเปิดตัวรถโมเดลใหม่สู่ตลาด ครอบคลุมทุกเซกเม้นท์ โดยเฉพาะจากค่ายแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็นคอมแพ็กคาร์อย่าง โตโยต้า อัลติส และซับคอมแพ็กต์ที่ฮอนด้าจะส่งแจ๊ซโฉมใหม่บุกตลาด แต่ใช่ว่าปีหนูไฟตลาดสำคัญอย่างปิกอัพจะเงียบเหงาเสียทีเดียว เนื่องจากมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่สนามแข่งขันเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่รายเดิมก็มีการปรับโฉมสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าเช่นกัน แม้ช่วงต้นปีบรรดาค่ายยักษ์ใหญ่จะยังไม่มีการขยับตัวก็ตาม
โดยในปีหนูไฟนี้ตลาดปิกอัพจะมีแบรนด์ใหม่ “ตาต้า” จากอินเดียเข้าสู่ตลาดไทย ตั้งแต่ออกสตาร์ทโค้งแรกของปีเลย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีทางเลือกเพิ่มอีก แต่หากใครที่กำลังมองหาปิกอัพใหม่แบรนด์เดิมในตลาดช่วงต้นปีนี้ ค่ายนิสสันได้เวลาตอบสนองผู้ต้องการปิกอัพเพื่อใช้งานบรรทุก
ด้วยการส่ง “ฟรอนเทียร์ นาวารา” รุ่นซิงเกิลแค็บ หรือปิกอัพตอนเดียวบุกตลาดเสียที หลังจากการเปิดตัวนาวาราครั้งแรก มีเฉพาะรุ่นมีแค็บและปิกอัพ 4 ประตูให้เลือกเท่านั้น และหากผู้ที่ชื่นชอบสไตล์สปอร์ตปิกอัพ ยังมีทางเลือกใหม่กับ “มาสด้า บีที-50” ที่ได้มีการไมเนอร์เชนจ์ให้โฉบเฉี่ยวมากขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อคู่แข่งขยับตัวมีหรือที่ค่าย “ฟอร์ด” จะนิ่งดูดายอยู่ได้ โดยประมาณเดือนกุมภาพันธ์เตรียมพบกับปิกอัพ “เรนเจอร์” ใหม่ ซึ่งถือเป็นการไมเนอร์เชนจ์เช่นเดียวกับ มาสด้า บีที-50 แต่แว่วว่าจะมีการปรับเปลี่ยนที่มากกว่าแต่งหน้าทาปากพอสมควร
ทั้งนี้การเปิดตัวของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะเน้นการสร้างความแตกต่างที่เห็นชัดเจน เพื่อตอบสนองและสร้างกลุ่มลูกค้าของตนเอง นั่นคือผู้ที่ชื่นชอบความแตกต่าง มีความมั่นใจในตนเอง และไม่ยึดติดแบรนด์ตามตลาด แต่ต้องการรถที่มีสมรรถนะตอบสนองการขับขี่ได้เต็มที่ ทั้งเรื่องของความแรง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แต่ก็ยังคงมีอัตราสิ้นเปลื้องน้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดไม่แตกต่าง หรือเหนือกว่าคู่แข่ง
ดังนั้นปิกอัพเรนเจอร์ใหม่จึงได้มีการปรับเปลี่ยนตามคอนเซ็ปต์ดังกล่าว ด้วยการปรับโฉมตามรูปแบบของการไมเนอร์เชนจ์ทั่วไป ด้วยการเปลี่ยนกระจังหน้า ไฟหน้า และท้าย รวมถึงเบาะนั่งภายในห้องโดยสาร แต่ที่มีความพิเศษกว่าคู่แข่งทั่วไป ตรงที่ได้มีการผสมผสานรูปแบบของรถลิมิเต็ดเวอร์ชั่น โดยการเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษเข้าไป จนมีความแตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด
กลยุทธ์การผสมผสานระหว่างการปรับโฉมและรุ่นตกแต่งพิเศษ หรือเวอร์ชั่นลิมิเต็ดเข้าด้วยกัน มาจากความสำเร็จของฟอร์ด เรนเจอร์ ในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไวลด์แทร็ก หรือล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้วกับชุดแต่ง HD Limited
หรือแม้แต่รถยนต์อเนกประสงค์แบบพีพีวี “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ คูลไวท์ ลิมิเต็ด” ที่มาในสีพิเศษ Cool White สีเดียวตลอดคัน พร้อมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงที่ครบครัน จนได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก จากเดิมจำกัดจำนวนขายเพียง 40 คัน เฉพาะในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2007 แต่ที่สุดก็ต้องเพิ่มจำนวนรถตามความต้องการลูกค้าที่มีมากกว่า
เหตุนี้จุดขายของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จึงอยู่ที่ความเพียบพร้อมเทียบเท่าคู่แข่งในทุกจุดสำคัญ แต่ก็โดดเด่นกว่าด้วยความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง โดยเรนเจอร์ใหม่จะมีจำนวนรุ่นให้เลือกมากขึ้น ขณะที่สนนราคาจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ถือว่าราคาคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับมูลค่าอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้าไป
นี่เป็นทีเด็ดของฟอร์ดที่จะชนกับคู่แข่งในตลาด แต่ใช่ว่าจะหมดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะตลอดทั้งปีฟอร์ดจะส่งเวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษออกมาเป็นอีกทางเลือกอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีไฮไลต์ตามออกมาเป็นหมัดเด็ดที่สองส่งท้ายปี เพื่อรับมือกับยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” ที่จะมีการปรับรูปลักษณ์ใหม่แล้ว ยังได้ปรับปรุงขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2500 และ 3000 ซีซี โดยเฉพาะตัวหลังให้มีพละกำลังมากถึง 180 แรงม้า พร้อมกับเพิ่มเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และอาจจะมีลุ้นบานแค็บเปิดได้ด้วย
เมื่อฟอร์ดได้มีการปรับโฉมให้กับเรนเจอร์แล้ว แน่นอนว่าจะต้องส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” รถอเนกประสงค์แบบพีพีวี (PPV : Pick up Passenger Vehicle) ที่ใช้พื้นฐานตัวถังร่วมกันกับเรนเจอร์ด้วย เพียงแต่กำหนดการแนะนำสู่ตลาดอาจจะช้ากว่านิดหน่อยเป็นในช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ระหว่างปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้
การไมเนอร์เชนจ์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไม่เพียงขยับตามปิกอัพเรนเจอร์ แต่ยังเป็นการเตรียมรับมือคู่แข่งรายใหม่ในตลาด นั่นคือการเปิดตัวรถพีพีวีของค่าย “มิตซูบิชิ” ที่หวนกลับมาทำตลาดอีกรอบ หลังจากเลิกขายรุ่นจี-แวกอนไปได้ระยะหนึ่ง ซึ่งคราวนี้กลับมารุกตลาดอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวรถพีพีวีรุ่นใหม่ที่ใช้พื้นฐานตัวถังร่วมกันกับปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” และเอเวอเรสต์ใหม่ยังรับมือกับ “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” ที่จะปรับโฉมตามปิกอัพวีโก้ในช่วงปลายปี 2008 นี้ด้วย
โดยคอนเซ็ปต์ของการปรับเปลี่ยนก็คงจะเช่นเดียวกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ นั่นคือรูปลักษณ์หน้าตาที่ต้องมาแบบเดียวกับเรนเจอร์ เพียงแต่ด้านท้ายที่เป็นรถอเนกประสงค์ ขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มอุปกรณ์ให้สมบูรณ์ และตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว และชื่นชอบแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น
การปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และสร้างจุดขายใหม่ ให้กับ ฟอร์ด เรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ดังกล่าว เป็นเพียงแค่การขยับตัวสร้างแรงดึงดูดใจลูกค้า และรับมือกับคู่แข่งในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ที่จะมาเขย่าตลาดครั้งใหญ่ต้องรอในปี 2010 จากการโมเดลเชนจ์ปิกอัพ “ฟอร์ด เรนเจอร์” ที่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของรถตระกูลนี้
สำหรับการปรับโฉมดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานตัวถังใหม่หมด ไม่ใช่แค่ปรับปรุงเหมือนในรุ่นปัจจุบัน โดยตัวถังของโมเดลใหม่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ระดับเดียวกับปิกอัพนิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา ส่วนเครื่องยนต์ยังจะใช้บล็อกเดิม แต่ปรับปรุงให้มีมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 4 พร้อมกับเพิ่มกำลังให้สูงระดับเดียวกับคู่แข่งในตลาด
อย่างไรก็ตาม กว่าจะถึงเวลาของโมเดลใหม่ “ฟอร์ด เรนเจอร์” ซึ่งต้องรอนานถึงกว่า 2 ปี การไมเนอร์เชนจ์เรนเจอร์และเอเวอเรสต์รุ่นปัจจุบัน จึงยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่า สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้
