โดย - ธันวา จุลชาติ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของบริษัท คอร์น เฟอร์รี่ เฮย์กรุ๊ป
หากกล่าวถึงกฎ 80/20 คิดว่าหลาย ๆ ท่านเคยได้ยินหรือได้ทราบมาบ้างแล้ว ที่ วิลเฟรโด พาเรโต (Vilfredo Pareto) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาเลียนพิสูจน์ว่าด้วยสิ่งที่สำคัญเพียงร้อยละ 20 จะสามารถสร้างผลลัพธ์ได้ถึงร้อยละ 80 แล้วกฎที่ว่านี้ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเรื่องประสิทธิภาพของพนักงานกับผลประกอบการได้ด้วย
มีหลายองค์กรที่พนักงานเพียงร้อยละ 20 จะมีความชอบและสนุกกับงานและสามารถสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่าง และอีกร้อยละ 80 จะทำงานที่ได้รับมอบหมายในระดับที่พอผ่านการตรวจไปได้
ที่น่าสนใจคือพนักงานร้อยละ 20 ที่มีประสิทธิภาพสูงนั้นเป็นผลมาจากการถูกจับคู่กับงานที่เหมาะกับความถนัดและทักษะที่มีอยู่ ทำให้รู้สึกว่างานนั้นมันใช่ ซึ่งส่งผลให้มีความรู้สึกอยากทำงานและรักในงานมากขึ้น
มีการศึกษาออกมาว่าพนักงานที่มีประสิทธิภาพเมื่ออยู่ในสายปฏิบัติการจะเพิ่มผลิตภาพถึงร้อยละ 40 ในขณะที่ถ้าเป็นเซลล์จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 67 และถ้าองค์กรมีผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพแล้วจะส่งผลให้มีกำไรสูงขึ้นถึงร้อยละ 49
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าองค์กรควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคคลากรและศึกษาว่ามีวิธีใดบ้างที่จะช่วยสรรหาและรักษาพนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงไว้ในองค์กร
แน่นอนว่าหากพนักงานที่เก่งหรืออาจเรียกว่าพวก Top performers ออกจากองค์กรไป นั่นหมายถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการหา การพัฒนาคนเพื่อจะมาแทนในตำแหน่งที่ว่าง บางตำแหน่งกว่าจะหาคนใหม่มาแทนได้ กว่าจะปรับตัวและเข้าใจในงานอาจต้องใช้เวลาร่วมครึ่งปีซึ่งเวลาที่ใช้ไปก็เท่ากับโอกาสทางธุรกิจที่หายไปด้วย
อันที่จริงการลาออกของคนเก่งๆนั้นยังส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของคนในทีมอีกด้วย
สูตรคำนวณง่ายๆว่าองค์กรต้องจ่ายเท่าไหร่เมื่อมีคน ลาออกคือ ให้นำค่าเฉลี่ยของเงินเดือน x 1.5 x จำนวนพนักงานลาออก นั่นคือสิ่งที่องค์กรต้องจ่ายเมื่อไม่มีแผนพัฒนาผู้ที่มีศักยภาพที่ชัดเจน
ทางที่ดีองค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ควรให้ความสำคัญกับการหาคนที่ใช่มาไว้กับองค์กรตั้งแต่ต้น
เพราะ“คน”เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการทำให้บริษัทเติบโต ไม่เพียงแต่การมีบุคคลากรที่ถูกต้องจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าแล้ว ยังลดอัตรา Turnover ลงซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาวต่อภาพลักษณ์องค์กรและความสามารถในการแข่งขันอย่างแน่นอน
