ผลสำรวจชี้ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจคว้าโอกาสพ่วงการท่องเที่ยวพักผ่อน

Booking.com เผยประเทศไทยรั้งอันดับหนึ่งประเทศที่ผู้คนมีไมตรีจิตมากที่สุด และติด 1 ใน 5 ประเทศที่มีอาหารอร่อยที่สุด ขณะผู้เดินทางติดต่อธุรกิจใช้โอกาสติดต่อธุรกิจสัมผัสวัฒนธรรมใหม่ๆ เอร็ดอร่อยกับอาหารที่แตกต่าง และพ่วงวันหยุดพักผ่อน ทำให้ทริปธุรกิจกลายเป็นทริปส่วนตัว

การเดินทางบนเครื่องบินที่ยาวนาน ห้องพักอันแสนเงียบเหงา อาการเจ็ทแล็กอันทรมาน รวมถึงการประชุมที่ไม่รู้จบ คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดเมื่อนึกถึงการเดินทางติดต่อธุรกิจ แต่งานวิจัยซึ่งเผยแพร่วันนี้จาก Booking.com เผยให้เห็นว่า แม้ว่าการเดินทางติดต่อธุรกิจจะมาพร้อมความเคร่งเครียด แต่ผู้เดินทางธุรกิจจำนวนมากกลับรู้สึกว่าทริปธุรกิจเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ได้จากงาน โดยกว่าครึ่งระบุว่าสิ่งที่ตนเองชื่นชอบเกี่ยวกับการเดินทางติดต่อธุรกิจในต่างประเทศคือ การมีโอกาสได้สัมผัสวัฒนธรรมใหม่ๆ (ร้อยละ 50) หรือได้ไปเยือนเมืองที่ไม่เคยไป (ร้อยละ 46)

งานวิจัยนี้ดำเนินการโดย Booking.com ผู้นำระดับโลกในการเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้เดินทางติดต่อธุรกิจกับที่พักหลากหลายประเภท โดยงานวิจัยได้สอบถามผู้เดินทางกว่า 4,500 คนจาก 8 ประเทศ ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่า การเดินทางติดต่อธุรกิจไม่ได้มีแต่ด้านที่เกี่ยวกับธุรกิจเท่านั้น ผู้ที่เดินทางติดต่อทริปธุรกิจเป็นประจำต่างยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้นกับการมีโอกาสได้สัมผัสวัฒนธรรมใหม่ ๆ เมื่อต้องติดต่อลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงาน

เปลี่ยนทริปธุรกิจให้เป็นโอกาสพักผ่อน

งานวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า 1 ใน 5 ของผู้เดินทางติดต่อธุรกิจใช้โอกาสนี้ในการพ่วงวันหยุดพักผ่อนเข้ากับการเดินทางติดต่อธุรกิจ (ร้อยละ 20) นอกจากนี้ ผู้เดินทางจำนวนใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 18) มองว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้เวลากับตัวเองบ้าง โดยร้อยละ 25 ของผู้เดินทางติดต่อธุรกิจชาวญี่ปุ่น เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มมองเห็นประโยชน์ของการใช้เวลากับตัวเองมากที่สุด

ประเทศที่ผู้คนมีมิตรไมตรีจิตมากที่สุด

ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า การมีโอกาสได้สัมผัสวัฒนธรรมใหม่ๆ คือสิ่งที่ดีที่สุดของการเดินทางติดต่อธุรกิจ ประเทศไทยได้รับการลงความเห็นว่าเป็นประเทศที่ผู้คนมีมิตรไมตรีจิตมากที่สุด โดยมีผู้เดินทางจำนวนเกือบ 1 ใน 3 (ร้อยละ 29) กล่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่พร้อมต้อนรับผู้เดินทางมากที่สุด และยังติด 5 อันดับประเทศที่มีอาหารอร่อยที่สุดด้วย นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนเกือบ 1 ใน 3 (ร้อยละ 30) ยังรู้สึกเพลิดเพลินกับการได้ลิ้มรสอาหารใหม่ๆ โดยผู้เดินทางติดต่อธุรกิจต่างลงความเห็นว่าอิตาลี (ร้อยละ 36) เป็นประเทศที่มีอาหารเลิศรสที่สุด และตามมาติดๆ ด้วยฝรั่งเศส (ร้อยละ 35)

ผู้เดินทางต่างลงความเห็นว่าเยอรมนีเป็นประเทศที่มีการคมนาคมสะดวกที่สุด (ร้อยละ 28) รองลงมาคือ สิงคโปร์ (ร้อยละ 27) ซึ่งสิงคโปร์ยังได้รับการลงความเห็นว่ามีสนามบินที่สะดวกสบายที่สุด (ร้อยละ 32) รวมทั้งมีอาหารในสนามบินที่อร่อยที่สุดอีกด้วย (ร้อยละ 30)

ประโยชน์ของการพบปะพูดคุย

แม้ว่าผู้เดินทางติดต่อธุรกิจถึงร้อยละ 93 จะระบุว่าการเดินทางติดต่อธุรกิจในต่างประเทศนั้นมีความเคร่งเครียด แต่ผู้เดินทางต่างลงความเห็นว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้พบปะพูดคุยกับลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจ การได้พบปะพูดคุยทำให้ได้ผลทางธุรกิจที่ดีกว่า อีกทั้งมาพร้อมกับการสนทนาที่ตรงไปตรงมาและช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยปกติแล้วผู้เดินทางส่วนใหญ่ (ร้อยละ 61) ต่างชอบการพบปะพูดคุยกับพันธมิตรทางธุรกิจนอกสถานที่ แม้ว่าจะมีผู้เดินทางจำนวนเพียงไม่ถึงครึ่ง (ร้อยละ 46) ที่ปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำ

ผลงานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจจากสหราชอาณาจักร (ร้อยละ 71%) และสหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 68%) มีแนวโน้มที่จะชอบการพบปะพูดคุยมากกว่าผู้เดินทางจากประเทศอื่นๆ และที่น่าสนใจคือ การพบปะพูดคุยมีจุดประสงค์ในทางธุรกิจที่ชัดเจนอย่างยิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่คือ เพื่อหลอมรวมวัฒนธรรมขององค์กรเข้าด้วยกันและสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจ

งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้เดินทางกว่า 2 ใน 3 ต่างเชื่อว่าการพบปะพูดคุยช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น (ร้อยละ 66) และยังมาพร้อมการสนทนาที่เปิดเผยและตรงไปตรงมา (ร้อยละ 66) รวมทั้งยังช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ดียิ่งขึ้น (ร้อยละ 62) นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เดินทางยังรู้สึกว่าการพบปะพูดคุยให้ผลทางธุรกิจที่ดีกว่า (ร้อยละ 56 )และช่วยให้สามารถหาแนวทางในการดำเนินการต่างๆ ได้รวดเร็วกว่า (ร้อยละ 52) การพูดคุยในรูปแบบอื่นๆ

ผู้เดินทางจำนวน 1 ใน 4 (ร้อยละ 26) กล่าวว่าการพบปะพูดคุยนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางการเงินที่ดีกว่า ทำงานให้หนัก พักผ่อนให้สุด ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจร้อยละ 38 ต่างรู้สึกดีกับการเดินทางติดต่อธุรกิจในต่างประเทศ โดยผู้เดินทางชาวฝรั่งเศส (ร้อยละ 30) อิตาลี (ร้อยละ 25) และอเมริกัน (ร้อยละ 25) เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มตื่นเต้นมากที่สุดเมื่อต้องเดินทางติดต่อธุรกิจในต่างประเทศ

ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจกว่าครึ่งต่างกล่าวว่าการพบปะพูดคุยกับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ (ร้อยละ 48) และการได้พูดคุยสังสรรค์ (ร้อยละ 39) กับเพื่อนร่วมงานและพันธมิตรทางธุรกิจเป็นข้อดีที่ดีที่สุดของการเดินทางติดต่อธุรกิจในต่างประเทศ นอกจากนี้ ผู้เดินทางกว่า 1 ใน 4 (ร้อยละ 24) พอใจกับการได้รับคะแนนสะสมจากสายการบินและโรงแรม

นางริบซี่ บานดัวร์เลียน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ Booking.com สำหรับธุรกิจ ได้แสดงความเห็นว่า “ถึงแม้การเดินทางติดต่อธุรกิจจะมีความเคร่งเครียด แต่ก็มีข้อดีหลายประการ เช่น มีโอกาสได้ไปเยือนเมืองหรือประเทศที่ไม่เคยไป ได้เปิดโลกทัศน์ด้านวัฒนธรรม หรือแม้แต่ได้หยุดพักผ่อนเพิ่มเติม เราสังเกตเห็นว่าเส้นแบ่งระหว่างทริปธุรกิจและทริปพักผ่อนกำลังจางลง ซึ่งรวมถึงเส้นแบ่งของประเภทที่พักที่ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจเลือกจอง โรงแรมธุรกิจรูปแบบเดิมยังคงมีบทบาทสำคัญ แต่เมื่อมีผู้เดินทางติดต่อธุรกิจที่ต้องการควบรวมการพักผ่อนเข้ากับการติดต่อธุรกิจ ที่พักในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เช่น โรงแรมที่ไม่อยู่ในเครือ และโรงแรมบูติค รวมถึงอพาร์ตเมนต์และวิลล่าซึ่งมาพร้อมกับความสะดวกสบายที่ไม่ต่างจากการอยู่บ้าน จึงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดย Booking.com สำหรับธุรกิจมีที่พักหลากหลายประเภทให้ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจได้เลือกสรร และพร้อมมอบประสบการณ์การเข้าพักอันยอดเยี่ยมตลอดเวลา ด้วยการให้บริการห้องพักในรูปแบบที่ผู้เดินทางต้องการอย่างแท้จริง ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจจึงสามารถผสมผสานการติดต่อธุรกิจเข้ากับการท่องเที่ยวพักผ่อนได้อย่างง่ายดาย”