บีโอไอเผยนักธุรกิจไทย 80 บริษัท เข้าร่วมฟังสัมมนาโอกาส และลู่ทางการลงทุน จับคู่เจรจาธุรกิจ ในโอกาสรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์นำคณะเยือนไทย พร้อมเดินหน้าลงนามข้อตกลงเอ็มโอยูขยายความร่วมมือด้านการลงทุน 2 ฝ่าย ภายในเดือนกรกฎาคม 2559
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ บีโอไอ และคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนจากมัลดีฟส์ นำโดยนายโมฮัมเหม็ด ซาอิด (Mohamed Saeed) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์ ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสัมมนาทางธุรกิจ เพื่อรับฟังโอกาสและลู่ทางการลงทุนรวมถึงการสร้างเครือข่ายและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและมัลดีฟส์
ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญนอกจากการบรรยายพิเศษให้นักธุรกิจได้ทราบถึงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจและนโยบายส่งเสริมการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ยังจัดให้มีการจรจาจับคู่ทางธุรกิจซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี มีนักธุรกิจจากมัลดีฟส์ และนักธุรกิจไทย รวม 80 บริษัท เข้าร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้ อาทิ ผู้ประกอบกิจการค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจไทยจำนวนหนึ่งได้แสดงความสนใจที่จะเข้าไปดำเนินกิจการในรูปแบบร่วมลงทุนหรือเชื่อมโยงธุรกิจในมัลดีฟส์อีกด้วย
บีโอไอยังได้ใช้โอกาสดังกล่าว ยืนยันถึงความพร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่าง บีโอไอกับกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าและการลงทุน การจัดกิจกรรมอบรม สัมมนา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีทางด้านเศรษฐกิจการลงทุนร่วมกัน เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2559 ขณะที่ผู้แทนการค้ามัลดีฟส์ประจำประเทศไทย ได้แจ้งถึงแผนที่จะเปิดสำนักงานผู้แทนการค้ามัลดีฟส์ประจำประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้
บริษัท เข้าร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้ อาทิ ผู้ประกอบกิจการค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจไทยจำนวนหนึ่งได้แสดงความสนใจที่จะเข้าไปดำเนินกิจการในรูปแบบร่วมลงทุนหรือเชื่อมโยงธุรกิจในมัลดีฟส์อีกด้วย
บีโอไอยังได้ใช้โอกาสดังกล่าว ยืนยันถึงความพร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่าง บีโอไอกับกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าและการลงทุน การจัดกิจกรรมอบรม สัมมนา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีทางด้านเศรษฐกิจการลงทุนร่วมกัน เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2559 ขณะที่ผู้แทนการค้ามัลดีฟส์ประจำประเทศไทย ได้แจ้งถึงแผนที่จะเปิดสำนักงานผู้แทนการค้ามัลดีฟส์ประจำประเทศไทยในเร็วๆ นี้
“มัลดีฟส์เป็นหนึ่งในประเทศตลาดใหม่ที่อยู่ในเป้าหมายของการส่งเสริมให้นักธุรกิจเข้าไปลงทุนในต่างประเทศของบีโอไอ ซึ่งมัลดีฟส์เองก็ต้องการสนับสนุนให้เอกชนไทยลงทุนทั้งในรูปแบบของธุรกิจการค้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจบริการ รวมถึงกิจการประมงที่ปัจจุบันมัลดีฟส์เป็นแหล่งปลาทูน่าที่สำคัญของไทย โดยมั่นใจว่าความร่วมมือในด้านของการลงนามเอ็มโอยูร่วมกัน จะก่อให้เกิดกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนระหว่าง 2 ฝ่ายให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมาก” นายโชคดี กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2546-มกราคม 2559 ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในมัลดีฟส์แล้วทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจโรงแรม รวมถึงกิจการสนับสนุนการท่องเที่ยวของนักธุรกิจรายใหญ่ อาทิ กลุ่มไมเนอร์ เครือเซ็นทาราโฮเทลแอนด์รีสอร์ท และ บริษัทพฤกษาเรียลเอสเตท เป็นต้น
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ บีโอไอ และคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนจากมัลดีฟส์ นำโดยนายโมฮัมเหม็ด ซาอิด (Mohamed Saeed) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์ ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสัมมนาทางธุรกิจ เพื่อรับฟังโอกาสและลู่ทางการลงทุนรวมถึงการสร้างเครือข่ายและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและมัลดีฟส์
ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญนอกจากการบรรยายพิเศษให้นักธุรกิจได้ทราบถึงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจและนโยบายส่งเสริมการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ยังจัดให้มีการจรจาจับคู่ทางธุรกิจซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี มีนักธุรกิจจากมัลดีฟส์ และนักธุรกิจไทย รวม 80 บริษัท เข้าร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้ อาทิ ผู้ประกอบกิจการค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจไทยจำนวนหนึ่งได้แสดงความสนใจที่จะเข้าไปดำเนินกิจการในรูปแบบร่วมลงทุนหรือเชื่อมโยงธุรกิจในมัลดีฟส์อีกด้วย
บีโอไอยังได้ใช้โอกาสดังกล่าว ยืนยันถึงความพร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่าง บีโอไอกับกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าและการลงทุน การจัดกิจกรรมอบรม สัมมนา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีทางด้านเศรษฐกิจการลงทุนร่วมกัน เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2559 ขณะที่ผู้แทนการค้ามัลดีฟส์ประจำประเทศไทย ได้แจ้งถึงแผนที่จะเปิดสำนักงานผู้แทนการค้ามัลดีฟส์ประจำประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้
บริษัท เข้าร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้ อาทิ ผู้ประกอบกิจการค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจไทยจำนวนหนึ่งได้แสดงความสนใจที่จะเข้าไปดำเนินกิจการในรูปแบบร่วมลงทุนหรือเชื่อมโยงธุรกิจในมัลดีฟส์อีกด้วย
บีโอไอยังได้ใช้โอกาสดังกล่าว ยืนยันถึงความพร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่าง บีโอไอกับกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าและการลงทุน การจัดกิจกรรมอบรม สัมมนา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีทางด้านเศรษฐกิจการลงทุนร่วมกัน เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2559 ขณะที่ผู้แทนการค้ามัลดีฟส์ประจำประเทศไทย ได้แจ้งถึงแผนที่จะเปิดสำนักงานผู้แทนการค้ามัลดีฟส์ประจำประเทศไทยในเร็วๆ นี้
“มัลดีฟส์เป็นหนึ่งในประเทศตลาดใหม่ที่อยู่ในเป้าหมายของการส่งเสริมให้นักธุรกิจเข้าไปลงทุนในต่างประเทศของบีโอไอ ซึ่งมัลดีฟส์เองก็ต้องการสนับสนุนให้เอกชนไทยลงทุนทั้งในรูปแบบของธุรกิจการค้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจบริการ รวมถึงกิจการประมงที่ปัจจุบันมัลดีฟส์เป็นแหล่งปลาทูน่าที่สำคัญของไทย โดยมั่นใจว่าความร่วมมือในด้านของการลงนามเอ็มโอยูร่วมกัน จะก่อให้เกิดกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนระหว่าง 2 ฝ่ายให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมาก” นายโชคดี กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2546-มกราคม 2559 ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในมัลดีฟส์แล้วทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจโรงแรม รวมถึงกิจการสนับสนุนการท่องเที่ยวของนักธุรกิจรายใหญ่ อาทิ กลุ่มไมเนอร์ เครือเซ็นทาราโฮเทลแอนด์รีสอร์ท และ บริษัทพฤกษาเรียลเอสเตท เป็นต้น