ดูปองท์ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตในภูมิภาคอาเซียน ชี้ธุรกิจด้านการเกษตรยังคงสร้างการเติบโตให้กับดูปองท์ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจอาหารและโภชนาการ ธุรกิจวิทยาศาสตร์ชีวภาพทางอุตสาหกรรม และธุรกิจวัสดุขั้นสูงได้รับการยอมรับในตลาดเป็นอย่างดี พร้อมประกาศแผนการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกและสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคที่ประเทศสิงคโปร์ เตรียมเปิดดำเนินการในปี 2559
มร. ซิง โฮ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม ประจำภูมิภาคอาเซียน ของดูปองท์ กล่าวว่า ดูปองท์ได้ลงทุนทำธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 40 ปี ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการลงทุนใหม่ใน 3 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โรงงานผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมของธุรกิจดูปองท์ไพโอเนีย ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดลำพูน 2.การเปิดสำนักงานใหม่ของดูปองท์เมียนมาร์ที่เมืองย่างกุ้ง และ3.ไซท์งานใหม่ในสิงคโปร์สำหรับจัดหาผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าในกลุ่มการเกษตรและอิเล็คทรอนิกส์
“ในปัจจุบัน เรามีโรงงานผลิตในภูมิภาคอาเซียนทั้งสิ้น 13 แห่ง โดย 10 แห่ง รวมถึงไซท์งานใหม่ในสิงคโปร์ เป็นโรงงานในกลุ่มการเกษตร อีก 2 แห่งเป็นโรงงานผลิตวัสดุขั้นสูงให้กับอุตสาหกรรมอวกาศ ยานยนต์ และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ และอีก 1 แห่งเป็นโรงงานผลิตส่วนผสมในอาหาร นอกจากนี้ เรายังมีสำนักงานในประเทศอาเซียนเกือบทั้งหมดอีกด้วย สำหรับศูนย์วิจัยและพัฒนาและสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในสิงคโปร์จะช่วยสนับสนุนกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของดูปองท์ในอาเซียน ซึ่งรวมถึงกลุ่มอาหารและเกษตร กลุ่มวิทยาศาสตร์ชีวภาพทางอุตสาหกรรม และกลุ่มวัสดุขั้นสูง”
เขาย้ำว่า ภูมิภาคอาเซียนยังคงเป็นหนึ่งในสามภูมิภาคที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของดูปองท์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยมีการเติบโตสูงในเซ็กเมนท์ต่างๆ ในตลาดอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเกษตรซึ่งรวมถึงเมล็ดพันธุ์และเคมีเกษตร ปาล์มน้ำมันและสารสกัดจากปาล์มน้ำมัน อาหาร น้ำมันและก๊าซ พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ และอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มการเกษตรและอาหารยังสามารถเติบโตได้มากกว่าธุรกิจในกลุ่มอื่นๆ ในแง่ของรายได้ ขณะที่ความต้องการในกลุ่มอาหารมีเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนประชากรในอาเซียนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จาก 630 ล้านคน เป็นกว่า 700 ล้านคนในปี พ.ศ. 2573 เนื่องจากจำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการด้านอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
“วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีบทบาทที่มากยิ่งขึ้นในการสนับสนุนด้านความมั่นคงและปลอดภัยทางอาหารของภูมิภาคนี้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ควรพิจารณาในการกลับมาให้ความสำคัญแผนงานในการส่งเสริมธุรกิจด้านการเกษตรของอาเซียน เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น การพิจารณาแผนและกรอบนโยบายทางภาครัฐภายในอาเซียนที่ส่งเสริมการประสานงานสอดคล้องกลมกลืนกันเป็นหนึ่งเดียวจะช่วยลดระยะเวลาในการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด” มร. ซิง กล่าว
มร. โทนี่ ซู ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของดูปองท์ กล่าวถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทฯ ภายหลังจากที่มีการแยกกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ออกไปตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมปีนี้ว่า ดูปองท์ได้เร่งให้มีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญเพื่อไปสู่การเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมระดับโลกที่มีการเติบโตและมีมูลค่ามากขึ้น ดูปองท์ในยุคใหม่นี้จะสามารถตอบโจทย์ความท้าทายในระดับโลกได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพและหลากหลายมากขึ้น เลือกใช้วัสดุขั้นสูงที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ผลิตพลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และสร้างระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ดูปองท์ (NYSE: DD) เป็นบริษัทที่นำวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระดับโลกมาสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรม ด้านผลิตภัณฑ์ วัสดุ และบริการ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2345 โดยมีความเชื่อว่า ด้วยความร่วมมือกับลูกค้า หน่วยงานรัฐ เอ็นจีโอ และผู้นำทางความคิด จะทำให้ดูปองท์สามารถค้นพบโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของโลก ในการจัดหาอาหารที่เพียงพอและมีประโยชน์สำหรับผู้คนทั่วโลก การลดการพึ่งพิงเชื้อเพลิงฟอสซิล และการปกป้องชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อม