xs
xsm
sm
md
lg

“ดูปองท์” ใช้ฐานไทยเจาะตลาดอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“นายสัตวแพทย์ สมชาย เลาห์วีระพานิช” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูปองท์ (ประเทศไทย) จำกัด
“ดูปองท์” เผยอาเซียนเป็น 1 ใน 3 ตลาดหลักสร้างรายได้มากสุดจากกลุ่มอาหารและเกษตร กลุ่มวิทยาศาสตร์ชีวภาพทางอุตสาหกรรม และกลุ่มวัสดุขั้นสูง เร่งเสริมแกร่งธุรกิจ จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในสิงคโปร์ พัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะตลาดอาเซียน พร้อมต่อยอดผุดศูนย์นวัตกรรมในไทย เชื่อมโยงธุรกิจตอบสนองความต้องการลูกค้าทั่วโลก

นายสัตวแพทย์สมชาย เลาห์วีระพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูปองท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ วัสดุ และบริการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ดูปองท์ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 5 หมื่นคน ในจำนวนนั้นเป็นนักวิจัยประมาณ 1.5 หมื่นคน โดยแต่ละปีบริษัทฯ ให้ความสำคัญด้านงานวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยงบประมาณ 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการวิจัยด้านเกษตรกรรม 62% พลังงาน 13% ส่วนที่เหลือ 25% เป็นการวิจัยเกี่ยวกับอาหาร ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ

ขณะเดียวกัน ดูปองท์ ยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลกประมาณ 10 แห่ง ล่าสุด ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา และสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคอาเซียน ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะเริ่มเปิดดำเนินการในปี 2559 เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมต่อภูมิภาคอาเซียนซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ ดูปองท์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คิดเป็นมูลค่า 8-9 พันล้านบาท ในกลุ่มอาหารและเกษตร กลุ่มวิทยาศาสตร์ชีวภาพทางอุตสาหกรรม และกลุ่มวัสดุขั้นสูง โดยคาดว่าในปี 2558 จะยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 5%

ดูปองท์ ได้ลงทุนทำธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 40 ปี ปัจจุบันมีสำนักงานตั้งอยู่เกือบทุกประเทศในอาเซียน ทั้งยังมีโรงงานผลิตในภูมิภาคอาเซียนทั้งสิ้น 13 แห่ง โดยในปีที่ผ่านมา มีการลงทุนใหม่ใน 3 โครงการหลัก ได้แก่ โรงงานผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมของธุรกิจดูปองท์ไพโอเนีย ที่จังหวัดลำพูน การเปิดสำนักงานใหม่ของดูปองท์ พม่า ที่เมืองย่างกุ้ง และไซต์งานใหม่ในสิงคโปร์ สำหรับจัดหาผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าในกลุ่มการเกษตร และอิเล็กทรอนิกส์

นายสัตวแพทย์สมชาย กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุด และสามารถทำรายได้เป็นอันดับ 1 ในอาเซียน จากกลุ่มธุรกิจโพลีเมอร์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ 30% อาหารและเกษตร 20% ส่วนที่เหลือ 50% ประกอบด้วย อิเล็กทรอนิกส์ โซลาร์เซลล์ เทคโนโลยีชีวภาพอุตสาหกรรม ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ โดยมีสัดส่วนภายในประเทศและส่งออกเท่ากันคือ 50:50

ล่าสุด ดูปองท์ ใช้งบประมาณ 36 ล้านบาท จัดตั้งศูนย์นวัตกรรมดูปองท์ประเทศไทย ณ อาคารจามจุรีสแควร์ ซึ่งถือเป็นศูนย์นวัตกรรมแห่งแรกของ ดูปองท์ ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการนำนวัตกรรมมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ และเป็นศูนย์กลางแห่งความร่วมมือในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการวิจัยและศูนย์พัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ ของ ดูปองท์ เพื่อพัฒนาโซลูชันต่างๆ ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก



กำลังโหลดความคิดเห็น