ลอรีอัลเปิดแนวรุกสร้างความแข็งแกร่งด้านบุคลากร พลิกแผนปั้นผู้บริหารฝึกหัดให้องค์กรมีความพร้อมรองรับการเติบโตได้อย่างเต็มที่ ชี้โครงการ L’OREAL BRANDSTORM ไม่ใช่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้บริษัทเท่านั้น แต่เพื่อสร้างอนาคตให้ประเทศไทยด้วย
มนัสฤดี สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับการเติบโตขององค์กร นอกเหนือจากการพัฒนาบุคลากรตามปกติแล้ว การเปิดรับพนักงานใหม่ในตำแหน่ง Management Trainee ตั้งแต่ปี 2013 เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 20 คน จากเดิมที่รับเพียง 2-3 คนขึ้นกับความต้องการของหน่วยงาน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นการจัดเตรียมคนที่พร้อมสามารถทำงานได้ทันทีเข้าไปเติมในตำแหน่งที่ว่างเพื่อให้งานเดินไปได้อย่างราบรื่น นับเป็นการปรับแผนเชิงรุกอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับโปรแกรม management trainee เป็นโปรแกรมการเรียนรู้ในระยะเวลา 1 ปี โดยในขณะทำงานก็ได้รับการเทรนนิ่งไปด้วย มีโปรแกรมการเรียนรู้ให้กับแต่ละคนอย่างชัดเจน เช่น ถ้าเป็นคนที่อยู่ในส่วนของมาร์เก็ตติ้ง จะเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่เรื่อง product knowledge ไปจนถึงเรื่องการวิเคราะห์ลูกค้า การทำการตลาด การวิจัยด้านการตลาด การดูผลวิจัย ฯลฯ ซึ่งในช่วง 12 เดือนจะได้เรียนรู้ทฤษฎีและปฎิบัติ รู้ระบบและกระบวนการทำงาน รวมถึงการได้ออกตลาดหรือลงภาคสนาม
“นอกจากนี้ ยังมีการให้ทำโปรเจ็กต์ 1 เรื่อง โดยช่วงเดือนที่เก้าต้องบอกว่าต้องการเรื่องอะไร เช่น การวิจัยลูกค้า การทำ e-business หรือเรื่องดิจิตอล ฯลฯ และเมื่อทำแล้วมาพรีเซ้นต์ คนที่ทำได้ดี และได้พรีเซ้นต์ให้ผู้บริหาร จะได้รับเลือกให้นำโปรเจ็กต์มาดำเนินการ และยังได้ไปทำงานต่างประเทศ 3 เดือน เพื่อให้ได้รู้และเข้าใจการทำงานต่างวัฒนธรรม”
“Management trainee ตอบโจทย์ส่วนแรกคือ วิสัยทัศน์ขององค์กรซึ่งต้องการเป็นที่หนึ่งของไทยและมีการเติบโต 2 เท่าของตลาด จึงต้องเตรียมคนให้พร้อม และส่วนที่สองคือ การเตรียม talent หรือคนเก่ง ซึ่งไม่ใช่เพื่อในประเทศไทยเท่านั้น แต่เพื่อภูมิภาคและสำนักงานใหญ่ ไม่ว่าจะปารีส สิงคโปร์ หรือเซี่ยงไฮ้ ล้วนต้องการคนไทยเพื่อเป็นตัวแทนความต้องการของลูกค้า”
ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดการแข่งขันออกแบบผลิตภัณฑ์และวางแผนการตลาดในโครงการ L’OREAL BRANDSTORM 2014 (ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2014) เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับปริญญาตรี ปี 3-4 ด้านบริหารการตลาด ได้เรียนรู้ถึงการทำงานด้านการตลาดจากประสบการณ์นอกห้องเรียน โดยนำความรู้ด้านการตลาดที่เรียนมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง
อีกทั้งได้เรียนรู้มุมมองและหลักการวางกลยุทธ์การตลาดของผลิตภัณฑ์ในธุรกิจด้านความงามระดับโลก และได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ออกแบบแคมเปญการสื่อสารการตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ดังที่มีอยู่จริง
“ผลลัพธ์เรื่องคนคือเราได้คนที่ตรงกับวัฒนธรรมองค์กรของเราค่อนข้างมาก เพราะหนึ่ง-เขารู้จักองค์กรเราก่อนจะมา สอง-ได้เข้ามาทำงานใกล้ชิดกับรุ่นพี่ๆ ในบริษัท ได้เข้าใจวัฒนธรรมต่างๆ ของลอรีอัล ได้รู้กระบวนการทำงาน ได้ทำงานกับบริษัทเอเจนซี่ ดังนั้น แต่ละปีเราได้พนักงานตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ”
“แต่ละปีในเมืองไทยเราใช้เงินหลายล้านในเรื่องนี้ เพื่อรับคนเข้าทำงานแค่ 3-5 คน มันไม่คุ้ม แต่เป็นการสร้างดาวเด่นหรือคนที่มีศักยภาพให้ประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ในเรื่องของแบรนด์ลอรีอัลเป็นเรื่องกลยุทธ์การสร้างบุคลากรให้ประเทศไทยด้วย เราให้สิทธิพิเศษในการพิจารณากับคนที่ผ่านเกมนี้ในการทำงานกับเรา แต่เขาจะเลือกไม่ทำก็ได้ไม่มีข้อผูกมัดหรือจะไปทำกับคู่แข่งเราก็ไม่ปิดกั้นโอกาส เพราะเราถือเป็นการต่อยอดวิชาชีพให้”
ปัจจุบัยลอรีอัล ประเทศไทยมีพนักงานประมาณ 2,000 คน ทั้งนี้ องค์ประกอบสำคัญของคนลอรีอัลต้องมี 3 ส่วนคือ 1.passion in beauty ต้องมีความใส่ใจหรือแรงขับเคลื่อนในเรื่องธุรกิจความสวยความงาม 2.very dynamic ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ตื่นตัวตลอด และทันต่อธุรกิจความงามซึ่งค่อนข้างเร็ว 3.entrepreneurship เพราะลอรีอัลมีทั้งหมด 27 แบรนด์ ดังนั้น ใครก็ตามที่เข้ามาทำงานกับแบรนด์ใดต้องมีความรักในแบรนด์ที่รับผิดชอบ
สำหรับวิสัยทัศน์องค์กร เพราะต้องการเป็นองค์กรที่นำพาให้ บุคลากรทุกคนก้าวหน้าไปกับองค์กร เมื่อสองปีที่ผ่านมา ลอรีอัลจึงปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ขององค์กรเป็น “A Great Place To Grow จากเดิมที่เป็น “A Great Place To Work” เพราะต้องการจะทำให้เห็นว่าเมื่อทุกคนมีความสุขกับการทำงานในองค์กรแล้ว ควรจะต้องเติบโตไปกับองค์กรด้วย
แต่การจะเป็นเช่นนั้นได้มี 3 องค์ประกอบที่องค์กรต้องทำ คือ A-attraction การดึงดูดคนที่มีความสามารถให้เข้ามาอยู่ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มใด ทั้งคนรุ่นใหม่ คนที่มีประสบการณ์ และคนที่มีความรู้ความสามารถ R-retaintion การมีเส้นทางอาชีพที่ชัดเจน เพื่อให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีอนาคตไปกับองค์กร T-training ด้วยการส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาการเรียนรู้ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสายงานของตนเอง