6 องค์กรชั้นนำระดับประเทศ ลงนามบันทึกข้อตกลง “โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ (เพิ่มเติม) ปี 2557” ร่วมหนุนผู้ประกอบการพัฒนานวัตกรรมทั้งด้านสินค้าและบริการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน รับมือตลาดเออีซี พร้อมเตรียมจัดประกวดรางวัลนวัตกรรม “สุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards” ปีที่ 2 ส่งผลให้มีองค์กรชั้นนำของประเทศถึง 11 แห่งเข้าร่วมผลักดันโครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ
รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การลงนามข้อตกลง โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ (เพิ่มเติม) ปี 2557 โดยองค์กรชั้นนำทั้ง 6 องค์กร คือ สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สป.วท.), หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (TCC&BoT), สมาคมธนาคารไทย (TBA), สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), สมาคมหน่วยบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์ไทย (Thai-BISPA) และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
โดยจะเป็นก้าวสำคัญที่จะสนับสนุน ผลักดันนวัตกรรม และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการของประเทศไทย สู่เชิงพาณิชย์อย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีความสามารถเป็นที่รู้จัก เป็นการส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยฝีมือคนไทย ลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีงานวิจัย องค์ความรู้ และสิ่งประดิษฐ์จำนวนมากที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ เนื่องจากขาดการขยายผลไปสู่ผลงานเชิงนวัตกรรมที่ต่อยอดในเชิงธุรกิจ “โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ” จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนผลงานวิจัย โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ให้มีช่องทางการทดลองสินค้าใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาเป็นผลงานนวัตกรรมระดับประเทศ
โดยโครงการฯนี้จัดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 มีพันธมิตรเดิมคือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
เป็นที่น่ายินดีว่าการลงนาม “โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ (เพิ่มเติม) ปี 2557” โดยความร่วมมือของพันธมิตรเพิ่มเติมอีก 5 องค์กรในปีนี้ รวมเป็น 11 องค์กรชั้นนำที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจระดับ SMEs มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรม ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด AEC ได้ดียิ่งขึ้น
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (TCC&BoT) กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า เป้าหมายสำคัญของการพัฒนาประเทศ คือการทำให้คนไทยมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จคือการสร้างนวัตกรรม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ละภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา โดยใช้องค์ความรู้สร้างนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยี ในการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) และสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ให้กับสินค้า เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืน
ด้านนายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย (TBA) เสริมว่า โครงการนี้จะช่วยขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมให้เป็นที่รู้จักและเป็นแรงบันดาลใจของผู้ประกอบการในวงกว้าง ในขณะที่ปัจจุบันความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการมิได้ขึ้นอยู่กับความได้เปรียบของต้นทุนแรงงาน แต่นวัตกรรมจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืน สำหรับโครงการนี้สมาชิกของสมาคมธนาคารไทย ซึ่งประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะช่วยเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการที่มีการพัฒนานวัตกรรมด้วยการสนับสนุนด้านเงินทุนและองค์ความรู้ต่างๆ มากยิ่งขึ้น
ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. เป็นหน่วยงานของรัฐ มีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ของไทย ให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ปัจจุบันทุกประเภทธุรกิจต่างหันมาให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้าและบริการ โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะมาถึง
การพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่างและเป็นที่ต้องการของตลาด โดยการใช้นวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม จะเป็นวิธีการสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจผู้ประกอบการไทยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทัดเทียมกับคู่แข่งระดับอาเซียน และระดับโลกต่อไป
นางสุวิภา วรรณสาธพ นายกสมาคมหน่วยบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์ไทย (Thai-BISPA) กล่าวทิ้งท้ายถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า สมาคมฯ มีเครือข่ายสมาชิกประกอบด้วยหน่วยบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์ที่กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ การที่สมาคม Thai-BISPA ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการนี้ จะร่วมสร้างโอกาสการพัฒนาขีดความสามารถและองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมของผู้ประกอบการ เพื่อนำไปสู่การต่อยอดในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศพร้อมกับผลักดันให้เกิด role model ผู้สรรค์สร้างนวัตกรรมไทยให้เป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการนวัตกรรมรุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต
โครงการประกวดรางวัล “สุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards” เป็นโครงการต่อยอดจากความร่วมมือโครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ เริ่มจัดครั้งแรกในปี 2556 โดยเปิดรับสมัครและคัดเลือกสินค้าและบริการนวัตกรรมด้านธุรกิจและด้านสังคม มาทดสอบกับกลุ่มลูกค้าในตลาดจริง จนสามารถพัฒนาสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ รวมถึงเป็นการยกย่องเชิดชูนักวิจัยและผู้ประกอบการที่สร้างผลงานนวัตกรรมให้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานระดับประเทศต่อไป โดยจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในปีนี้ ชิงรางวัลรวมกว่า1,200,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.7innovationsawards.com