กลุ้มใจกลัวตกงาน กังวลกับอนาคต ควรวางแผนอย่างไรดี โดย อ.อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

Q: บริษัทกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ผู้บริหารชุดใหม่มีแนวคิดที่จะออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งอาจมีผลกระทบถึงงานที่ผมรับผิดชอบอยู่ การจะหางานใหม่นั้นก็ไม่ง่าย เนื่องด้วยอายุมากแล้ว อยากจะเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น เหมือนที่เขาบอกกันว่า "ให้เงินทำงานแทนเรา" แต่ปัญหาคือ เงินเก็บก็ไม่ได้มีมากมาย ทุกวันนี้สับสน คิดมาก กลุ้มใจ ที่สำคัญ มีภาระเรื่องลูกที่ยังอยู่ในวัยเรียนอีก 2 คน ภรรยาก็ไม่ได้ทำงานด้วย วันๆ หมกมุ่นคิดอยู่คนเดียวคล้ายคนบ้า ยังไม่กล้าบอกใครที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะตื่นตระหนกกันไปใหญ่ อาจารย์มีข้อแนะนำไหมครับว่า ผมควรวางแผนอย่างไรกับชีวิตดี

A: ปัญหาหรือความท้าทายที่คุณประสบอยู่ตอนนี้ คือ "ความไม่แน่นอน" สิ่งที่คุณกลัวที่สุด คือ "ความไม่มั่นคง" ความรู้สึกที่คุณมีอยู่ตอนนี้ คือ "กังวล" ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ทุกคน ดังนั้นข่าวดีคือ คุณเป็นคนปกติครับ

โจทย์สำคัญในตอนนี้ ไม่ใช่การตั้งคำถามว่า "ทำไม" แต่เป็นการตั้งคำถามว่า "จะทำอย่างไร" หากผมเป็นคุณ ผมจะทำสิ่งต่อไปนี้

1. หยุดคิดกังวัลถึงอนาคต ที่ไม่มีใครตอบได้ว่า สุดท้ายจะเป็นอย่างไร เปิดเพลงนี้ฟัง Que Sera Sera (http://www.youtube.com/watch?v=xZbKHDPPrrc&feature=kp) อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด

2. ขณะที่ยังมีงานทำอยู่ ผมจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่ หยุดคิดกังวลเรื่องอื่น จะคิดแค่ว่า มีอะไรอีกที่ยังไม่ได้ทำ มีอะไรบ้างที่สามารถทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้และ หากวันนี้เป็นวันสุดท้าย ในการทำงาน ผมอยากได้รับการจดจำว่าอย่างไร จากนั้นจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่และ คิดว่าทุกๆ วันเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน จึงอยากจะฝากผลงานไว้

3. เงินเดือนที่ได้ จากนี้ไปจนถึงวันที่อาจต้องตกงาน จะแบ่งบางส่วนเก็บออมไว้ แต่ไม่ใช่ฝากธนาคาร หากไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน ผมจะเอาเงินไปซื้อกองทุนรวม จะเดินไปที่สาขาของแบงค์ที่ใช้บริการอยู่ แล้วขอความรู้เรื่องการลงทุน จากนั้นจะเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก เช่น กองพันธบัตร หรือ หุ้นกู้ชั้นดี เป็นต้น ผมคิดว่าเงินมากเงินน้อย ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ ต้องเริ่มต้นและ มีวินัยกับตัวเอง

4. ลองสังเกตตัวเองดูว่า มีจุดแข็งอะไร (วิธีการสังเกตไม่ยาก ลองดูซิว่า เราทำอะไรได้ดี ระหว่างทำรู้สึกสนุกและ ทำเสร็จแล้วเฝ้ารออยากทำอีก) จากนั้น หมั่นฝึกฝนสิ่งนั้นๆ ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป แล้วมองหาโอกาส ที่จะได้ใช้จุดแข็งนั้นให้บ่อยขึ้น เพื่อเตรียมตัวไว้ หากวันหนึ่งไม่มีงานทำ ก็หวังว่าจะได้ใช้จุดแข็งที่มี ในการหารายได้ ให้กับตัวเองได้บ้าง คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ ประสบความสำเร็จเพราะ มีโอกาสได้ใช้จุดแข็งของตัวเองหาเงิน

5. จะไม่คิดเปิดธุรกิจ หรือ ร่วมหุ้นกับเพื่อน เพราะอายุขนาดนี้บวกภาระที่มี คงไม่พร้อมที่จะรับความเสี่ยงขนาดนั้นได้ มองหาอาชีพเสริมที่เป็นอาชีพอิสระ ที่สามารถทำเองคนเดียวได้ เช่น งานขายตรง รับจ้างแปลเอกสาร หรือ หาของเล็กๆ น้อยๆ ที่สนใจ ไปขายบนเว็ปไซด์ เป็นต้น ทำแบบเป็นไซด์ไลน์ (Side Line) ไปก่อน จับพลัดจับผลู เกิดตกงานอาจจะยึดเป็นอาชีพหลักได้

6. ทำใจให้สบาย ทำบุญและ ท่องเที่ยวกับครอบครัวบ้าง ตามกำลังที่มี เพราะจิตใจที่ผ่องใสจะทำให้สมองปลอดโปร่ง คิดอ่านอะไรก็ได้ผล

7. ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอขึ้น เพราะสุขภาพสำคัญที่สุด หลายคนยังต้องพึ่งพิงเรา หากล้มป่วยไป ทุกอย่างจะเลวร้ายลง

8. นำประวัติ (Resume) ของตัวเองมาปัดฝุ่น ทำให้เป็นปัจจุบัน (Update) แล้วส่งให้บริษัทจัดหางาน (Search หาคำว่า "Head Hunter ในประเทศไทย") ทยอยส่งไป โดยไม่คาดหวังว่าจะได้รับติดต่อกลับ เอาแค่ว่าให้ประวัติของเรา อยู่ในสารระบบของเขา ก็พอแล้ว

9. ซื้อหนังสือแนว How To มาอ่านเพิ่มเติมความรู้บ้างและ เตรียมตัวให้พร้อม หากมีสิ่งที่ไม่คาดหวัง เกิดขึ้น

10. เริ่มติดต่อเพื่อนเก่าให้บ่อยขึ้น เผื่อวันหนึ่งตกงาน จะได้ไปขอความช่วยเหลือ โดยไม่ทำให้เขารู้สึกมากเกินไปว่า "มาหาเฉพาะตอนที่เดือนร้อน"

นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำ หากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่สำหรับคุณ ผมไม่แน่ใจว่า มีข้อใดบ้างที่พอทำได้ ถ้าจะให้แนะนำ ผมอยากให้คุณเลือกบางข้อ ไปทำอย่างตั้งใจ โดยเฉพาะข้อ 1 นี่ควรทำเป็นสิ่งแรกเลยนะครับ น่าจะได้แนะนำได้แค่นี้ ขอให้โชคดีครับ

อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
apiwut@riverorchid.com