ประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยวัยเพียง 36 ปี สำหรับณัฏฐนันท์ (สุกี้) คุณาจิระกุล จนทำให้ก้าวขึ้นมาสู่ทำเนียบนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นคณะกรรมการ หอการค้าจังหวัดระยอง ตามรอยคุณพ่อที่อดีตเป็นประธานหอการค้า จังหวัดระยอง
แน่นอนว่าความสำเร็จที่ได้มา ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ แต่นั่นเป็นเพราะว่า เธอถูกบ่มเพาะความเป็นนักธุรกิจมาตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ซึ่งขณะยังเป็นนักเรียน เพราะเธอเกิดมาจากครอบครัวนักธุรกิจ ที่มีคุณพ่อเป็นยอดนักสู้ ทำธุรกิจทุกอย่างที่คิดว่าดูแลครอบครัวและสร้างเนื้อสร้างตัวได้ แต่เกือบทุกธุรกิจล้วนประสบความล้มเหลว แต่คุณพ่อก็ไม่เคยย่อท้อและลุกขึ้นสู้ทุกครั้งที่ล้มลง ยกเว้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คุณพ่อลงทุนแล้วประสบความสำเร็จอย่างสูง
โดยมีคุณแม่ และลูกๆ เป็นกำลังสำคัญในการทำธุรกิจ ช่วยทำทุกอย่างในบริษัท ทั้งงานที่ต้องใช้ความคิด และงานที่ต้องออกแรง งานที่ท้าทายและช่วยเสริมความแข็งแกร่ง คือ ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 ซึ่งช่วงนั้น โชคดีที่บริษัทไม่มีหนี้ แต่ก็ไม่มียอดขายด้วยเช่นเดียวกัน จึงต้องงัดทุกกลยุทธ์ออกมาใช้ เพื่อให้บ้านขายได้ และทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี โครงการเริ่มกลับมาขายได้เป็นปกติในเวลาไม่นาน เพราะบ้านเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการซื้อเพื่อพักอาศัย และหากคนระยองคิดจะซื้อบ้านแล้วได้บ้าน แน่นอนต้องเลือกซื้อโครงการหมู่บ้านเพลินใจ เพราะชื่อเสียงที่เราทำไว้ดีตลอดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ซื้อเชื่อใจ และตัดสินใจซื้อหมู่บ้านเพลินใจ จนทำให้มีหมู่บ้านเพลินใจ โครงการ 1,2,3,4 และ 5 ซึ่งทุกโครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ พื้นที่แต่ละโครงการ 200-300 ไร่ขึ้นไป ทำให้ ณัฏฐนันท์ ซึมซับการทำธุรกิจมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เริ่มตั้งแต่วิธีคิดการทำธุรกิจ ตลอดจนการแก้ปัญหาต่างๆ
โครงการหมู่บ้านเพลินใจ เป็นโครงการบ้านจัดสรรที่สร้างเงิน สร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท จนทำให้คุณพ่อและณัฏฐนันท์ก้าวขึ้นมาสู่นักธุรกิจแถวหน้าในวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในจังหวัดระยอง ที่โครงการหมู่บ้านเพลินใจเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง
นั่นเป็นแรงผลักที่สำคัญที่ทำให้ ณัฏฐนันท์ ตัดสินใจเดินหน้าลงทุนโครงการดิ โอนโซน ไลฟ์สไตล์ มอลล์ เป็นคอมมูนิตี้ มอลล์รายแรก ในจังหวัดระยอง โดยเป็นหัวเรือใหญ่ กำหนดนโยบาย ทิศทางการลงทุน และเป้าหมายทางธุรกิจด้วยตัวเอง โดยมีคุณพ่อ และคุณแม่ให้คำปรึกษาอยู่ห่างๆ เพราะความมั่นใจในตัว ณัฏฐนันท์ว่าจะสามารถทำโครงการให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยากนัก
โครงการดิ โอนโซน ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10.2 ไร่ ติดถนนสายหลัก คือถนนเลี่ยงเมืองสาย 3 จังหวัดระยอง เชื่อมระหว่าง ถนนสุขุมวิท และ ถนนมอร์เตอร์เวย์ ติดกับสถานีขนส่งใหม่จังหวัดระยอง ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด รายรอบด้วยที่อยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพกว่า 50,000 ครัวเรือน และโครงการที่พักอาศัยอีกมากกว่า 20 โครงการภายในรัศมี 3-5 กม. เป็นศูนย์การค้าแบบเปิด 2 ชั้น บนที่พื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ร่วมสมัยผสานการรณรงค์เพื่อสื่งแวดล้อม (Modern Contemporary Green Concep) ภายนอกใกล้ชิดธรรมชาติท่ามกลางสวนไม้นานาพันธุ์ ผนวกประสิทธิภาพของเทคโนโลยีระบบฟอกอากาศภายในอาคาร
ณัฏฐนันท์ เล่าว่า ในวัยเด็กช่วยคุณพ่อทำธุรกิจด้วย โดยงานแรกคือช่วยระบายสีโบชัวร์ โดยใช้สีไม้ระบาย ในช่วงนั้น บริษัทยังเล็กๆอยู่ ไม่ได้มียอดขายหรือกำไรมากนัก การใช้จ่ายในด้านการตลาดทุกอย่างจึงต้องประหยัด คุณพ่อจึงผลิตโบชัวร์เอง โดยให้คุณแม่และลูกๆช่วยกัน ในลักษณะ ธุรกิจครอบครัว ซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะนั้นช่วยสร้างให้ลูกๆซึมซับการทำธุรกิจมาโดยไม่รู้ตัว และทำให้รู้ลึกถึงแก่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
สำหรับประสบการณ์ของณัฏฐนันท์ นั้น เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างโชกโชน เริ่มจากการรับผิดชอบโครงการบ้านจัดสรรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เพลินใจ กรุ๊ป จำกัด โครงการ หมู่บ้าน เพลินใจ ทาวน์โฮม และโครงการหมู่บ้านเพลินฝัน พาร์ควิลล์ มาบตาพุด จังหวัดระยอง
ย้อนมาดูโปรไฟล์ ณัฏฐนันท์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท บริหารจัดการมหาบัณฑิต สาขานโยบายองค์กร มหาวิทยาลัยบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรังสิต กรุงเทพฯ แถมพ่วงด้วยประกาศนียบัตร ภาษาจีนศึกษา จากมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
จากนี้ไปคงต้องจับตาดูว่าผู้หญิงคนนี้จะทำให้โครงการดิ โอโซน ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ซึ่งเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์รายแรกในจังหวัดระยอง ประสบความสำเร็จติดลมบนเช่นเดียวกับโครงการหมู่บ้านเพลินใจหรือไม่ ซึ่งพร้อมเปิดตัวในปลายปีนี้
แน่นอนว่าความสำเร็จที่ได้มา ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ แต่นั่นเป็นเพราะว่า เธอถูกบ่มเพาะความเป็นนักธุรกิจมาตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ซึ่งขณะยังเป็นนักเรียน เพราะเธอเกิดมาจากครอบครัวนักธุรกิจ ที่มีคุณพ่อเป็นยอดนักสู้ ทำธุรกิจทุกอย่างที่คิดว่าดูแลครอบครัวและสร้างเนื้อสร้างตัวได้ แต่เกือบทุกธุรกิจล้วนประสบความล้มเหลว แต่คุณพ่อก็ไม่เคยย่อท้อและลุกขึ้นสู้ทุกครั้งที่ล้มลง ยกเว้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คุณพ่อลงทุนแล้วประสบความสำเร็จอย่างสูง
โดยมีคุณแม่ และลูกๆ เป็นกำลังสำคัญในการทำธุรกิจ ช่วยทำทุกอย่างในบริษัท ทั้งงานที่ต้องใช้ความคิด และงานที่ต้องออกแรง งานที่ท้าทายและช่วยเสริมความแข็งแกร่ง คือ ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 ซึ่งช่วงนั้น โชคดีที่บริษัทไม่มีหนี้ แต่ก็ไม่มียอดขายด้วยเช่นเดียวกัน จึงต้องงัดทุกกลยุทธ์ออกมาใช้ เพื่อให้บ้านขายได้ และทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี โครงการเริ่มกลับมาขายได้เป็นปกติในเวลาไม่นาน เพราะบ้านเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการซื้อเพื่อพักอาศัย และหากคนระยองคิดจะซื้อบ้านแล้วได้บ้าน แน่นอนต้องเลือกซื้อโครงการหมู่บ้านเพลินใจ เพราะชื่อเสียงที่เราทำไว้ดีตลอดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ซื้อเชื่อใจ และตัดสินใจซื้อหมู่บ้านเพลินใจ จนทำให้มีหมู่บ้านเพลินใจ โครงการ 1,2,3,4 และ 5 ซึ่งทุกโครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ พื้นที่แต่ละโครงการ 200-300 ไร่ขึ้นไป ทำให้ ณัฏฐนันท์ ซึมซับการทำธุรกิจมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เริ่มตั้งแต่วิธีคิดการทำธุรกิจ ตลอดจนการแก้ปัญหาต่างๆ
โครงการหมู่บ้านเพลินใจ เป็นโครงการบ้านจัดสรรที่สร้างเงิน สร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท จนทำให้คุณพ่อและณัฏฐนันท์ก้าวขึ้นมาสู่นักธุรกิจแถวหน้าในวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในจังหวัดระยอง ที่โครงการหมู่บ้านเพลินใจเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง
นั่นเป็นแรงผลักที่สำคัญที่ทำให้ ณัฏฐนันท์ ตัดสินใจเดินหน้าลงทุนโครงการดิ โอนโซน ไลฟ์สไตล์ มอลล์ เป็นคอมมูนิตี้ มอลล์รายแรก ในจังหวัดระยอง โดยเป็นหัวเรือใหญ่ กำหนดนโยบาย ทิศทางการลงทุน และเป้าหมายทางธุรกิจด้วยตัวเอง โดยมีคุณพ่อ และคุณแม่ให้คำปรึกษาอยู่ห่างๆ เพราะความมั่นใจในตัว ณัฏฐนันท์ว่าจะสามารถทำโครงการให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยากนัก
โครงการดิ โอนโซน ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10.2 ไร่ ติดถนนสายหลัก คือถนนเลี่ยงเมืองสาย 3 จังหวัดระยอง เชื่อมระหว่าง ถนนสุขุมวิท และ ถนนมอร์เตอร์เวย์ ติดกับสถานีขนส่งใหม่จังหวัดระยอง ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด รายรอบด้วยที่อยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพกว่า 50,000 ครัวเรือน และโครงการที่พักอาศัยอีกมากกว่า 20 โครงการภายในรัศมี 3-5 กม. เป็นศูนย์การค้าแบบเปิด 2 ชั้น บนที่พื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ร่วมสมัยผสานการรณรงค์เพื่อสื่งแวดล้อม (Modern Contemporary Green Concep) ภายนอกใกล้ชิดธรรมชาติท่ามกลางสวนไม้นานาพันธุ์ ผนวกประสิทธิภาพของเทคโนโลยีระบบฟอกอากาศภายในอาคาร
ณัฏฐนันท์ เล่าว่า ในวัยเด็กช่วยคุณพ่อทำธุรกิจด้วย โดยงานแรกคือช่วยระบายสีโบชัวร์ โดยใช้สีไม้ระบาย ในช่วงนั้น บริษัทยังเล็กๆอยู่ ไม่ได้มียอดขายหรือกำไรมากนัก การใช้จ่ายในด้านการตลาดทุกอย่างจึงต้องประหยัด คุณพ่อจึงผลิตโบชัวร์เอง โดยให้คุณแม่และลูกๆช่วยกัน ในลักษณะ ธุรกิจครอบครัว ซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะนั้นช่วยสร้างให้ลูกๆซึมซับการทำธุรกิจมาโดยไม่รู้ตัว และทำให้รู้ลึกถึงแก่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
สำหรับประสบการณ์ของณัฏฐนันท์ นั้น เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างโชกโชน เริ่มจากการรับผิดชอบโครงการบ้านจัดสรรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เพลินใจ กรุ๊ป จำกัด โครงการ หมู่บ้าน เพลินใจ ทาวน์โฮม และโครงการหมู่บ้านเพลินฝัน พาร์ควิลล์ มาบตาพุด จังหวัดระยอง
ย้อนมาดูโปรไฟล์ ณัฏฐนันท์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท บริหารจัดการมหาบัณฑิต สาขานโยบายองค์กร มหาวิทยาลัยบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรังสิต กรุงเทพฯ แถมพ่วงด้วยประกาศนียบัตร ภาษาจีนศึกษา จากมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
จากนี้ไปคงต้องจับตาดูว่าผู้หญิงคนนี้จะทำให้โครงการดิ โอโซน ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ซึ่งเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์รายแรกในจังหวัดระยอง ประสบความสำเร็จติดลมบนเช่นเดียวกับโครงการหมู่บ้านเพลินใจหรือไม่ ซึ่งพร้อมเปิดตัวในปลายปีนี้