“นิปปอนแพ็ค” สบช่องธุรกิจเข้าร่วมทุน 20.51% มุ่งพัฒนาโครงการรองรับนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวด้วยงบ 120 ล้านบาท เผยนโยบายหลักเลี่ยงปะทะห้างฯ ใหญ่ในแต่ละพื้นที่ เน้นพัฒนาโครงการในจังหวัดขนาดกลางของอีสานตอนบน
นายธนกร วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า “ยูดี ทาวน์” จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ยูดี ทาวน์ เป็นศูนย์การค้าในลักษณะคอมมูนิตีมอลล์ ไลฟ์สไตล์ โอเพนแอร์ ขนาด 25 ไร่ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการใช้เงินลงทุนของบริษัทฯ และเงินสินเชื่อบางส่วนจากธนาคาร แต่ก็มีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555 มีรายได้ประมาณ 140 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2556 จะมีอัตราการเติบโตขึ้นประมาณ 10-15% อันเนื่องมาจากเป็นช่วงเวลาครบรอบการปรับค่าเช่า ทั้งยังมีรายได้จากการจัดกิจกรรมงานอีเวนต์ต่างๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากศูนย์การค้าฯ เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคและผู้ประกอบการในท้องถิ่นเป็นอย่างดี
ด้วยผลประกอบการดังกล่าวจึงทำให้บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกได้เข้าเจรจาร่วมทุนในสัดส่วน 20.51% เป็นมูลค่าประมาณ 80 ล้านบาท ในการเสริมโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยมีเป้าหมายพัฒนาบริษัทให้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในช่วงกลางปี 2557
สำหรับแผนการลงทุนในอนาคตอันใกล้ของทั้งสองบริษัท คือ การพัฒนาให้เป็นคอมมูนิตีมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยโครงการเร่งด่วนขณะนี้คือการศึกษาแนวทางการขยายการดำเนินธุรกิจออกไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง หรือเอื้อประโยชน์ต่อศูนย์การค้า โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างโรงแรมระดับ 4 ดาวในลักษณะ Business Hotel จำนวน 120 ห้อง ด้วยงบลงทุน 120 ล้านบาท บนพื้นที่ใกล้เคียงกับศูนย์การค้าในลักษณะเอื้อความสะดวกให้ผู้พักผ่อนสามารถเลือกจ่ายตามที่ต้องการ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ผู้เดินทางมาจังหวัดอุดรธานีซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นนักธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยวที่ใช้เวลาในที่พักไม่มากนักและไม่ได้ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่ฟุ่มเฟือย นอกจากนั้นยังจะมีการปรับปรุงโครงการให้มีความทันสมัย ทั้งในเรื่องรูปแบบสินค้าและบริการ รวมถึงการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามในการรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนแผนงานขยายโครงการในอนาคตจะยังคงเป็นไปตามนโยบายของบริษัท คือ การหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับห้างฯ ค้าปลีกขนาดใหญ่ โดยจะยังคงเข้าไปพัฒนาที่ดินในจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนให้เป็นศูนย์การค้าในลักษณะคอมมูนิตี้ มอลล์ ในจังหวัดขนาดกลาง เช่น นครพนม สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย เป็นต้น
“ธุรกิจค้าปลีกมีข้อดี คือ ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นอย่างไร แต่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นตลอดเวลาเพื่อเป็นการกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของยูดี ทาวน์ ถือว่าค่อนข้างจะจับเป้าหมายได้ถูกทางคือเน้นในส่วนของศูนย์อาหารเป็นหลักมากถึง 40% ของพื้นที่ โดยให้ความสำคัญของแฟชั่น ธุรกิจ บริการ และเอนเตอร์เทนเมนต์ รองลงไปตามลำดับ”