xs
xsm
sm
md
lg

เฮ ! 8 บริษัทไทยติดอันดับ “Asia’s 200 Best Under a Billion” ปี 2556 ของนิตยสาร Forbes Asia

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ mai รวม 8 บริษัท ติดอันดับ Asia’s 200 Best Under a Billion ประจำปี 2556 โดยนิตยสาร Forbes Asia สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัทขนาดกลางและเล็ก

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ในปีนี้มีบริษัทจดทะเบียนไทยที่ผ่านการคัดเลือกโดยนิตยสาร Forbes Asia ให้เข้าไปอยู่ในทำเนียบสุดยอด 200 บริษัทขนาดกลางและเล็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ Asia’s 200 Best Under a Billion จำนวน 8 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมกัน 207,917 ล้านบาท เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) 7 บริษัท

ประกอบด้วย บมจ. โรงพยาบาลเอกชล (AHC) บมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC) บมจ. มาลีสามพราน (MALEE) บมจ. พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง (PM) บมจ. ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) บมจ. สหมิตรเครื่องกล (SMIT) และบมจ. เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) และเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ mai 1 บริษัท ได้แก่ บมจ. มาสเตอร์ แอด (MACO) ทั้งนี้ AHC MALEE และ SMIT เป็นบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกครั้งแรก ส่วน MACO และ WORK ผ่านการคัดเลือกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

“การที่บริษัทจดทะเบียนไทย 8 แห่ง ผ่านการคัดเลือกเข้าไปอยู่ใน Asia’s 200 Best Under a Billion จากบริษัทที่ผ่านการคัดกรองเบื้องต้นทั้งหมด 15,000 บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจขนาดกลางและเล็กที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและลงทุนในประเทศมียอดขายเติบโตแข็งแกร่ง การจัดการต้นทุนมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่นและผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูง โดยยอดขายสินค้าและบริการทั้ง 8 บริษัทเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตต่อปีเฉลี่ย 21% และมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นปี 2555เฉลี่ย 36%” นายชนิตรกล่าว

บริษัทที่จะเข้าสู่ Asia’s 200 Best Under a Billion ได้จะต้องเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปที่มีรายได้ประจำปีระหว่าง 5-1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตรากำไรสุทธิก่อนภาษี (pretax margin) เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยอดขายและกำไรสุทธิต่อหุ้นมีการเติบโตในช่วง 1 ปีและ 3 ปีล่าสุด และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 0.75 เท่า
กำลังโหลดความคิดเห็น