“บมจ.มาลีสามพราน” ดันเน็ตมาร์จิ้นปรับขึ้น 6.5% ฟันกำไรไตรมาส 2 กว่า 91.2 ล้านบาท เผยเตรียมซื้อหุ้นคืนอีก 200 ล้านบาท หรือไม่เกิน 10% เพื่อเสริมสภาพคล่องในการบริหาร
นายฉัตรชัย บุญรัตน์ ประธานกรรมการ บมจ.มาลีสามพราน หรือ MALEE กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,404.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 91.2 ล้านบาท โดยไตรมาส 2 บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ หรือเน็ตมาร์จิ้นเท่ากับ 6.5% พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะทำการจ่ายเงินปันผลงวด 6 เดือนแรก ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น (คิดเป็นผลตอบแทน 1.6% เมื่อเทียบกับราคาปิดที่ 30.75 บาท วันที่ 13 ส.ค.2556) โดยจะปิดสมุดทะเบียนเพื่อรับสิทธิเงินปันผลในวันที่ 28 ส.ค.นี้ (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือ 23 สิงหาคม 2556) และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 กันยายน 2556 พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติแผนการซื้อหุ้นคืนภายในวงเงิน 200 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในช่วงเวลา 28 สิงหาคมนี้-27 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อการบริหารทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทฯ สำหรับงวดหกเดือนแรกปี 2556 มีรายได้รวม 2,805.9 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 10.2% และมีกำไรสุทธิรวม 174.8 ล้านบาท ต่ำกว่ายอดกำไรสุทธิ 6 เดือนแรกปี 2555 ที่มียอดกำไรสุทธิ 293.9 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมา ยอดขายผลิตภัณฑ์แบรนด์ MALEE เติบโตขึ้น 11% แต่สาเหตุที่รายได้และกำไรลดลงนั้น เนื่องจากปีที่แล้ว บริษัทฯ ได้รับงานรับจ้างผลิตปริมาณสูงมากเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากสภาวะน้ำท่วม ส่วนในปีนี้ยอดรับจ้างผลิตได้กลับสู่สภาวะปกติ จึงทำให้ยอดขายในประเทศในส่วนของธุรกิจรับจ้างผลิตลดลง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ
ทางด้าน น.ส.รุ่งฉัตร บุญรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.มาลีสามพราน หรือ MALEE กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้บริษัทฯ ได้ผ่านการคัดเลือกโดยนิตยสาร FORBES เป็น 1 ใน 200 สุดยอดบริษัทขนาดกลาง และเล็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ Asia’s 200 Best Under a Billion ซึ่งประเทศไทยมีเพียง 8 บริษัทเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกครั้งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทฯ เป็น 1 ในไม่กี่บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน MSCI Small-Cap Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า บริษัทฯ มีโครงสร้างธุรกิจที่มั่นคง มีผลการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง การจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น และให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูง โดย MALEE มีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น หรือ ROE สูงถึง 50% มีอัตราผลตอบแทนต่อทรัพย์สิน หรือ ROA ที่ 23% และอัตราเงินปันผลเฉลี่ย 4.88% (ณ 13 สิงหาคม 2556)
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินธุรกิจทั้งแบบ Own Brand Manufacturing คือ การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ และผลไม้กระป๋อง ภายใต้แบรนด์ MALEE นอกจากนี้ MALEE ยังเป็นผู้ให้บริการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และรับจ้างผลิต หรือ Contract Manufacturing ให้แก่บริษัทชั้นนำทั้งในประเทศ และต่างประเทศ