หุ้นไทยยืนเหนือ 1,400 จุดไม่อยู่ แรงขายช่วง 4 โมงเย็นมาอีกแล้ว กดปิดตลาดบวก 8 จุด วอลุ่มเทรด 7 หมื่นล้าน แรงซื้อเข้ากลุ่มแบงก์ และสื่อสาร ต่างชาติซื้อ 3.5 พันล้าน ส่วน N-PARK โดนเทขายหนักหลัง “ประชา มาลีนนท์” ถูกศาลฯ พิพากษาจำคุก จากความผิดคดีทุจริตรถ และเรือดับเพลิง กทม. แถมลาก BEC ปรับตัวลด แม้มีข่าวซื้อใบประมูลดิจิตอลทีวี
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 ก.ย.) ระหว่างวันดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 30 จุด ทะลุมาอยู่ที่ระดับ 1,413.98 จุด ได้ แต่พอใกล้ช่วงท้ายของการซื้อขาย ดัชนีปรับตัวลดลงมาปิดที่ระดับ 1,393.17 จุด เพิ่มขึ้น 8.86 จุด หรือ 0.64% มูลค่าการซื้อขาย 70,620.70 ล้านบาท
ภาพรวมนักวิเคราะห์ประเมินว่า สาเหตุที่ดัชนีทะยานบวกนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นขานรับตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว และสถานการณ์ในซีเรียที่เริ่มคลี่คลาย อีกทั้งได้รับปัจจัยหนุนจากเงินทุนไหลเข้า หลังนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ โดยตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อในหุ้นตัวใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มสื่อสารค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,520.51 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 2,084.03 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อ 1,234.86 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 6,839.40 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน จากกรณีที่นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีทุจริตรถ และเรือดับเพลิง กทม.ให้จำคุก 12 ปี ไม่รอลงอาญานั้น เรื่องดังกล่าวก็มีผลให้เกิดแรงขายในหุ้น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด(มหาชน) หรือ N-PARK ซึ่งอดีต รมช.มหาดไทย ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 4.94% ปรับตัวร่วงลงเป็นอันดับ 1 ในราคาซื้อขายหุ้นที่ลดลงสูงสุดระหว่างวัน อันดับ 1 ของปริมาณซื้อขายระหว่างวันสูงสุด ด้วยปริมาณ 3,279,754,900 หุ้น และปิด ณ ราคา 0.06 บาท ลดลง 0.01 บาท หรือ -14.29%
“แรงขายหุ้น N-PARK วันนี้มีจำนวนมาก 3.2 พันหุ้น หรือกว่า 214.75 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการขายสูงถึง 71% ของหุ้น N-PARK ที่เทรดกันอยู่ในวันนี้ หลังมีข่าว นายประชา ถูกคำสั่งศาลให้ดำเนินคดี”
BEC ร่วง แม้ซื้อใบประมูลดิจิตอลทีวี พร้อม POST-GRAMMY
ขณะเดียวกัน แม้ภาวะตลาดหุ้นไทยจะกลับมาบวกต่อเนื่องจากวันก่อน แต่ข่าวของ นายประชา ก็มีผลให้หุ้นบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ของตระกูลมาลีนนท์ กลายเป็นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน โดยปิดตลาด BEC อยู่ที่ระดับ 58.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.85% 354.104 ล้านบาท แม้ กสทช. รายงานการปิดจำหน่ายเอกสารการประมูลขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติวันแรก มีผู้สนใจซื้อเอกสารการประมูล ได้แก่ บริษัท โรสมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด บริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด บริษัท บีบีทีวี แซทเทลวิชั่น จำกัด บริษัท ทัช ทีวี จำกัด และ บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัลทีวี จำกัด
โบรกฯ จับตา แรงขาย 4 โมงเย็น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังไม่ทิ้งประเด็นแรงขายช่วง 4 โมงเย็น ที่กดดันให้ดัชนีหุ้น หลุด 1,400 จุดด้วยเช่นกัน
“เป็นที่น่าสังเกตเมื่อดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเช้า แต่พอเหลืออีก 1 ชั่วโมง ใกล้ปิดทำการซื้อขาย ดัชนีกลับเจอแรงขายปรับตัวลดลงไปมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วบ่อยครั้งในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้”
ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) คาดว่าดัชนีจะมีการชะลอตัวในการปรับตัวขึ้นไป โดยอาจแกว่งตัวพักฐาน ซึ่งปัจจัยที่ยังต้องติดตามคือสถานการณ์ในซีเรียที่ยังไม่มีความชัดเจน และการปรับลดขนาดมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ตลาดยังมีความผันผวนได้