โรงพยาบาลรามคำแหงเผยนโยบายการบริหารงาน เตรียมรับมือการแข่งขันรุนแรงและเปิด AEC ชูกลยุทธ์เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคเฉพาะทาง เพิ่มทางเลือกคนไข้ พร้อมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในด้านคุณภาพและความไว้วางใจ
การแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจโรงพยาบาล ทำให้โรงพยาบาลเกือบทุกแห่งต้องปรับตัว เพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่เปิดประชาคมอาเซียน(AEC) ในปี 2558 ที่การแข่งขันไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่ยังต้องการแข่งขันกับประเทศอื่นด้วย รวมถึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเคลื่อนย้ายบุคลากรที่มีทักษะอีกด้วย
โรงพยาบาลรามคำแหงเป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาลที่มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องโดยแนวทางการบริหารงานจะแตกต่างจากโรงพยาบาลอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่การลงทุนซื้อเครื่องมือการรักษาที่ทันสมัย โดยไม่ได้ดูว่าคนไข้ต้องการการรักษารูปแบบไหนและต้องการอะไร ขณะที่โรงพยาบาลรามคำแหงการลงทุนจะดูจากความต้องการของคนไข้เป็นหลักว่าต้องการการรักษารูปแบบไหนจึงจะลงทุนในเครื่องมือชนิดนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของคนไข้โดยตรง
อาทิ การรักษาโรคเบาหวาน คนไข้ส่วนใหญ่จะมีแผลที่เท้า เพราะเลือดไปเลี้ยงไม่พอจากการที่หลอดเลือดอุดตัน ซึ่งการรักษาทั่วไปส่วนใหญ่แพทย์จะใช้วิธีตัดขา ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ง่ายที่สุด แต่โรงพยาบาลรามคำแหงจะเปิดโอกาสให้คนไข้เลือกว่าจะรักษาโดยการตัดขา หรือเก็บขาไว้ และใช้วิธีการรักษาด้วยการขยายหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงขาและเท้าได้สะดวกขึ้น เมื่อเลือดไปเลี้ยงขาและเท้าสะดวกก็จะไม่เกิดแผลขึ้นอีก จึงไม่จำป็นต้องตัดขาทิ้ง ซึ่งที่ผ่านมา โรงพยาบาลรามคำแหงประสบความสำเร็จค่อนข้างสูงกับการรักษาโดยไม่ต้องตัดขาคนไข้
รวมถึงการรักษาโรคหัวใจ โรงพยาบาลรามคำแหง ได้เปิดศูนย์โรคหัวใจขึ้น โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้คนไข้รักษาโรคหัวใจด้วยการขยายหลอดเลือดแทนการรักษาด้วยการผ่าตัดหัวใจ(บายพาส) วิธีดังกล่าวนอกจากจะสร้างความเจ็บปวดแล้ว ยังมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ซึ่งในต่างประเทศจะไม่นิยมการรักษาโดยการผ่าตัดแล้ว
ล่าสุด โรงพยาบาลอยู่ระหว่างก่อสร้างศูนย์มะเร็ง ในบริเวณโรงพยาบาลรามคำแหง ด้วยงบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2556
นายแพทย์ศิริพงศ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลมีวิสัยทัศน์ คือ Innovative Medical Care Provider ซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมการบริการรักษาสุขภาพในประเทศไทย เพื่อตอบสนองคนไทยเป็นหลัก ไม่เน้นคนไข้ต่างประเทศเหมือนโรงพยาบาลหลายแห่งที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติ
นอกจากการให้ความสำคัญกับการเพิ่มทางเลือกให้คนไข้แล้ว โรงพยาบาลรามคำแหงจะเน้น 1.การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้นเป็นที่ยอมรับในคุณภาพและความไว้วางใจ 2.ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ มีผู้เชี่ยวชาญให้บริการรักษาพยาบาลโรคทุกสาขาและคลินิกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา (Sub Specialty Clinic) 3.บริการทางการแพทย์ที่ตอบสนองทุกความต้องการ ได้แก่ ศูนย์โรคหัวใจ 24 ชั่วโมง ศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้า ศูนย์อัมพาตเฉียบพลัน ศูนย์โรคปวดหลัง-ปวดคอ คลินิกเบาหวาน 4.บริการด้วยหัวใจที่ห่วงใยและดูแลเอาใจใส่ และ5.ให้ความรู้ต่อคนไข้และครอบครัวเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและห่างไกลจากโรคภัย
นายแพทย์ศิริพงศ์ เหลืองวารินกุล รองกรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลรามคำแหง เปิดเผยว่า โรงพยาบาลรามคำแหงจะยึดนโยบายการดำเนินงาน ด้วยการเพิ่มทางเลือกให้คนไข้ ไม่จำกัดการรักษาคนไข้ด้วยรูปแบบเดิม ๆ ที่แพทย์จะเป็นผู้วางแผนการรักษาคนไข้ โดยที่คนไข้ไม่มีทางเลือก
โรงพยาบาลรามคำแหงจะวางแผนการรักษาร่วมกับคนไข้ โดยมีทางเลือกให้คนไข้เลือกว่าต้องการรักษารูปแบบไหน ไม่ใช่ว่าโรงพยาบาลมีเครื่องมือรักษาแบบไหนก็จะรักษาด้วยวิธีนั้น ซึ่งโรงพยาบาลจะลงทุนในเครื่องมือการรักษาที่ทันสมัยที่จะเอื้อต่อการเปิดโอกาสให้คนไข้มีทางเลือกในการรักษาให้มากที่สุด