บุรีรัมย์ - ผู้อพยพในศูนย์พักพิงที่บุรีรัมย์ ต่างคิดถึงบ้านอยากให้สงครามยุติโดยเร็ว ชี้หากการเจรจาไม่เป็นผลดีต่อไทยและมีแนวโน้มจะเกิดสงครามอีกก็ให้รบให้จบ รู้แพ้ชนะไปเลย ขณะยายสวดภาวนาขอให้ทหารไทยชนะศึกและปลอดภัย ทั้งเรียกร้องให้สร้างกำแพงตัดขาดสัมพันธ์กับเขมรที่เนรคุณ
วันนี้ (16 ธ.ค. 68) ชาวบ้านแนวชายแดนจากหลายอำเภอที่อพยพหนีภัยสงคราม มาอยู่ในศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ต่างอยากกลับบ้านหลังการสู้รบเริ่มยืดเยื้อต้องอยู่ในศูนย์พักพิงเกือบ 10 วันแล้ว ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าอยากให้รัฐบาลและทหารเร่งจัดการปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชาให้จบโดยเร็ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเจรจา หรือสู้รบก็ตาม แต่หากจะมีการเจรจาแล้วไม่เป็นผลดีต่อไทยก็ให้รบกันให้รู้แพ้ชนะไปเลย แล้วสร้างกำแพงกั้นเขตแดนให้ชัดเจนต่างฝ่ายต่างไม่ต้องยุ่งกันอีก ทั้งป้องกันไม่ให้กัมพูชามารุกรานหรือรุกล้ำอธิปไตยไทยอีก และจะได้ไม่เกิดสงครามในรุ่นลูกหลานอีก เพราะการอพยพแต่ละครั้งเดือดร้อนต้องทิ้งบ้านเรือน ไม่สามารถทำมาหากินได้ต้องขาดรายได้
ทั้งนี้ ผู้อพยพต่างอวยพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองทหารที่อยู่แนวหน้า ปลอดภัยทุกนาย และได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว
ยายฮุน แวนประโคน อายุ 76 ปี ชาวอำเภอบ้านกรวด บอกว่า หลังจากมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงเกือบ 10 วันก็เป็นห่วงตาที่อยู่เฝ้าบ้าน และเป็นห่วงหมูที่ท้องแก่ใกล้ออกลูกแล้ว อยากจะกลับบ้านแล้ว ก็อยากให้รัฐบาลตัดสินใจจัดการปัญหาพิพาทชายแดนให้จบโดยเร็ว แต่หากการเจรจาไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย เพราะเขมรไม่มีสัจจะ ก็ให้สู้รบกันให้จบๆ ไปเลย ทุกวันที่ยายมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงก็ได้สวดมนต์ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูกหลานทหารแนวหน้าทุกนายขอให้ปลอดภัย อยากให้สงครามไทย-เขมรจบในชาตินี้ ไม่ต้องมีสงครามอีกในรุ่นลูกหลาน หากจะสร้างกำแพงชาวบ้านก็พร้อมออกเงินช่วยคนละ 100-200 บาท อยากให้ตัดขาดเขมรที่ไม่มีสัจจะ ไปคบกับประเทศอื่นก็ได้ที่จริงใจกว่านี้
น.ส.จิรา คงยศ อายุ 41 ปี ชาวอำเภอบ้านกรวด บอกว่า เป็นห่วงลูกชายและสามี ซึ่งเป็น ชรบ.คอยดูแลความเรียบร้อยและบ้านเรือนให้ประชาชนในหมู่บ้าน หลังจากที่เขมรเริ่มยิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนจะโทรศัพท์พูดคุยสอบถามข่าวทุกวัน อยากให้สถานการณ์สู้รบจบลงโดยเร็ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเจรจา หรือสู้รบกันก็ตาม ไม่อยากให้ยืดเยื้อ หรือมีการสู้รบกันอีก เพราะอพยพมา 2 รอบเดือดร้อนมากทั้งลูก 2 คนก็ป่วยต้องให้เลือดทุกวัน ไหนจะไม่ได้ทำมาหากินอีก หากยืดเยื้อก็กระทบกับรายได้และภาระหนี้สินอีก
ขณะที่สถานการณ์แนวรบบริเวณช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด วันนี้ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงปืนใหญ่เบาบางลง แต่ตอนกลางคืนจะพบโดรนปริศนาบินหลายลำ เจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังตลอด เพราะไม่รู้ว่าเป็นโดรนสอดแนม หรือโดรนพลีชีพของกัมพูชา


