อุดรธานี – เตือนภัย! สาวผ่อน iPhone มือสอง เจอ “ย้อมแมว” อ้างเครื่องไทยศูนย์แท้ สุดท้ายเป็นเครื่องจีน
– ร้านดังหลอกขายบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ ผู้เสียหายจี้คืนเงินครบจำนวน
วันนี้(4 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยนายภาณุมาศ จิตวศินกุล เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณฝ้าย ลูกค้าผู้เสียหายหญิงที่ออกมาขอความเป็นธรรม หลังผ่อนซื้อโทรศัพท์ iPhone 11 Pro Max มือสองจากร้านมือถือชื่อดังย่านถนนบ้านถอน โดยร้านยืนยันว่าเป็น “เครื่องไทยศูนย์แท้ 100%” แต่หลังใช้งานร่วม7 เดือน เมื่อนำไปตรวจสอบกลับพบว่าเป็น “เครื่องจีน” ทำให้เกิดปัญหาการใช้งานและสร้างความเสียหายต่อหน้าที่การงาน
คุณฝ้าย เปิดเผยว่า วางเงินดาวน์ไว้ 3,000 บาท และผ่อนเดือนละ 1,833 บาท โดยก่อนซื้อได้สอบถามย้ำกับพนักงานแล้วว่าเป็นเครื่องมือสองแท้ ซึ่งได้รับคำยืนยันชัดเจน แต่เมื่อถึงเวลานำเครื่องไปตรวจสอบเพื่อปิดยอดและเปลี่ยนเครื่องใหม่กับร้านอื่น กลับพบว่าเป็น “เครื่องจีน” ไม่ตรงตามที่ร้านแจ้ง อีกทั้งระหว่างการใช้งานยังพบปัญหาสัญญาณรวน เสียงไม่ชัด และเครื่องค้างบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานที่ต้องใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารเป็นประจำ
หลังรู้ความจริงได้กลับไปติดต่อทั้งร้านและไฟแนนซ์ แต่กลับถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยร้านโยนภาระให้ไฟแนนซ์ ขณะที่ไฟแนนซ์แนะนำเพียงให้ผ่อนให้ครบแล้วค่อยซื้อเครื่องใหม่ ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกถูกเอาเปรียบอย่างหนัก
ต่อมา คุณฝ้ายได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จ.อุดรธานี ซึ่งได้ประสานงานไปยังร้านค้าแล้ว แต่ร้านยังคงบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องหรือชดเชยตามที่เคยพูดคุยกันไว้ ผู้เสียหายระบุว่าให้โอกาสร้านแก้ไขถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไร้ความคืบหน้า จึงตัดสินใจไม่รับเครื่องเปลี่ยน และขอให้ร้านค้าและไฟแนนซ์คืนเงินดาวน์พร้อมยอดผ่อนตลอด 7 เดือน เพื่อยุติปัญหาที่สร้างภาระในการทำงาน
คุณฝ้ายฝากเตือนผู้ที่ซื้อโทรศัพท์มือสอง โดยเฉพาะการซื้อแบบผ่อน ควรตรวจสอบข้อมูลตัวเครื่องอย่างละเอียด ทั้งประเทศที่ผลิต หมายเลขโมเดล และประวัติการรับประกัน เพื่อป้องกันการถูกหลอก แม้ร้านจะมีชื่อเสียงหรือมีหลายสาขาก็ตาม
ด้านนายธนามนตรี ผิวขาว ทนายความ ให้ความเห็นในกรณีผู้บริโภคถูกหลอกขาย iPhone 11 Pro Max โดยชี้ว่าพฤติกรรมลักษณะนี้ไม่ใช่แค่ผิดสัญญาซื้อขายทางแพ่งเท่านั้น แต่ยังอาจเข้าข่ายความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากผู้ขายในฐานะผู้ประกอบการย่อมต้องรู้ว่าสินค้าที่จำหน่ายเป็นของแท้หรือไม่ แต่กลับปกปิดข้อเท็จจริงสำคัญจนผู้ซื้อหลงเชื่อ ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์
ทนายธนามนตรีแนะนำให้ผู้เสียหายรีบเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ตำรวจรวบรวมหลักฐานและพิสูจน์เจตนาของผู้ขาย โดยประเมินเบื้องต้นว่าคดีลักษณะนี้มีโอกาสเข้าข่ายความผิดอาญาสูง ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังสามารถดำเนินคดีทางแพ่งผ่าน สคบ. เพื่อขอไกล่เกลี่ยและติดตามการเยียวยาความเสียหายเพิ่มเติมได้อีกด้วย


