บุรีรัมย์ - สาวบุรีรัมย์วัย 20 หอบหลักฐานบุกร้องศูนย์ดำรงธรรม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ช่วยเหลือ ถูกนายจ้างร้านชาไข่มุกเบี้ยวค่าแรง 4,200 บาท ผ่านไป 2 เดือนยังไม่จ่าย แชตทวงถามไม่ตอบ พอโพสต์เรียกร้องความเป็นธรรมกลับขู่จะฟ้องกลับฐานหมิ่น เผยยอดเงินอาจดูไม่มาก แต่สำหรับบางครอบครัวกินอยู่ได้ทั้งเดือน
วันนี้ (18 พ.ย. 68) นางมาลัย สุขกำเนิด อายุ 36 ปี ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้พา นางสาวอลีนา หรือแพรว อายุ 20 ปี ลูกสาว นำหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรองให้ช่วยเหลือหลังลูกสาวถูกนายจ้างร้านชาไข่มุกแห่งหนึ่งในอำเภอนางรองเบี้ยวค่าแรงจำนวน 4,200 บาท ตั้งแต่เดือนกันยายน 2568 โดยนายจ้างอ้างมีภาระที่ต้องใช้เงิน แต่รับปากจะผ่อนชำระให้ หลังจากนั้นก็เงียบหายติดต่อไม่ได้ กระทั่งผ่านไปเกือบ 2 เดือนก็ยังไม่ได้เงินค่าแรงที่ค้าง ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินใช้จ่ายอีกทั้งยังมีภาระหนี้สิน
นางสาวอาลีนาให้ข้อมูลว่า บ้านอยู่อำเภอละหานทรายแต่มาเรียนที่อำเภอนางรอง พอเรียนจบจึงสมัครงานผ่านเฟซบุ๊กที่ร้านชาไข่มุกแห่งหนึ่ง เขาก็รับโดยขอเอกสารส่วนตัว หลังจากนั้นก็ได้เข้าทำงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยตกลงค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท ทำงานครบหนึ่งปี โดยปีแรกได้ค่าจ้างตรงทุกเดือน แต่ปีต่อมานายจ้างเริ่มจ่ายค่าแรงล่าช้า บางครั้งทยอยจ่ายเพียงทีละ 100-200 บาท บางเดือนก็จ่ายไม่ครบ โดยอ้างว่าลูกค้าน้อยยอดขายลดลง
ต่อมาวันที่ 16 กันยายน 2568 ตนได้ลาออก โดยทำงานในเดือนกันยายน รวม 14 วัน แต่ยังไม่ได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 4,200 บาท ก็พยายามทวงถามหลายครั้งช่วงแรกเขาก็อ้างเหตุผลสารพัดว่าจำเป็นต้องใช้เงิน แล้วก็ผัดไปเรื่อย กระทั่งเริ่มติดต่อไม่ได้จนถึงปัจจุบันผ่านไปเกือบ 2 เดือน จึงตัดสินใจโพสต์เรียกร้องขอความเป็นธรรมในเพจท้องถิ่น “นางรอง” แต่นายจ้างกลับเข้ามาเมนต์ต่อว่าพร้อมขู่จะแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทด้วย ทั้งที่ไม่ได้ระบุชื่อร้านหรือนายจ้าง แค่อยากให้จ่ายค่าจ้างที่ค้างอยู่เท่านั้น เพราะจำเป็นต้องใช้เงิน
เงินจำนวน 4,200 บาท อาจจะดูไม่มากสำหรับบางคน แต่สำหรับเธอสามารถกินอยู่ได้เกือบทั้งเดือน ก็เดือดร้อน ซึ่งหากการร้องเรียนครั้งนี้นายจ้างยังไม่ยอมจ่ายค่าแรงที่ค้างก็อาจจะแจ้งความ หรือร้องขอความช่วยเหลือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานต่อไป
ด้าน นางมาลัย ผู้เป็นแม่ บอกว่า รู้สึกสงสารลูกสาวที่ตั้งใจทำงานหาเงิน มาทำงานแต่เช้ากลับเย็น กว่าจะได้เงินแต่ละบาท แต่กลับถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง บางวันตนต้องขี่มอเตอร์ไซค์จาก อ.ละหานทราย เอาข้าวมาให้ลูกสาวที่ อ.นางรอง เพราะกลัวลูกสาวไม่มีเงินซื้อกิน ก็อยากให้นายจ้างเห็นใจคนทำงาน อยากให้จ่ายค่าแรงที่ค้างอยู่ แล้วจะไม่ติดใจเอาเรื่อง
ขณะที่นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ แล้วจะเรียกนายจ้างที่ถูกร้องเรียนมาสอบถามข้อเท็จจริง และพูดคุยไกล่เกลี่ยตามกระบวนการ แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
จากนั้นทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านชาไข่มุกแห่งหนึ่งในอำเภอนางรองที่ถูกร้องเรียน เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงอีกด้าน แต่พบว่าร้านปิดให้บริการ และไม่พบเบอร์ติดต่อเจ้าของร้านแต่อย่างใด


