xs
xsm
sm
md
lg

ประชาชนหลั่งไหลร่วมฟังเรื่องราว “คุณยายดอตินทวย” ทายาทเชลยศึก แน่นวัดภูเขาทอง ปลื้มปิติต้อนรับกลับบ้านในรอบ 260 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา - บรรยากาศอบอุ่นและซาบซึ้งที่วัดภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา ประชาชนหลั่งไหลร่วมรับฟังเรื่องราวของ “คุณยายดอตินทวย” อายุ 83 ปี ทายาทรุ่นที่ 7 ของชาวอยุธยา ที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 เดินทางกลับแผ่นดินบรรพบุรุษจากมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา หลังห่างบ้านเกิดกว่า 260 ปี

เย็นวันนี้( 18 ต.ค.) บรรยากาศภายใน วัดภูเขาทอง ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความซาบซึ้ง เมื่อประชาชนจำนวนมากเดินทางมาก เดินทางมาร่วมรับฟังเรื่องราวของ คุณยายดอตินทวย อายุ 83 ปี ทายาทรุ่นที่ 7 ของชาวอโยธยา ที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310

คุณยายดอตินทวย ได้เดินทางกลับมายังแผ่นดินบรรพบุรุษอีกครั้งจากเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา โดยตลอดวันที่ 17 และ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา คุณยายพร้อมคณะได้เดินทางตาม เส้นทางประวัติศาสตร์ เริ่มจาก ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา จุดแรกที่คุณยายได้เหยียบแผ่นดินไทย และหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ จากนั้นเดินทางไปสักการะโบราณสถานสำคัญ เช่น วัดพระราม อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา และสถานที่อื่น ๆ ตามเส้นทางที่บรรพบุรุษเคยเล่าขาน ถ่ายทอดกันรุ่นต่อรุ่น

คณะเดินทางกลับบ้านครั้งนี้มีผู้ร่วมเดินทางสำคัญ ได้แก่ นายมาไจนา (MARGAINA) เจ้าอาวาสวัดจากมัณฑะเลย์, นายซอวิน (ZAW WIN) ผู้ใหญ่บ้านชุมชนอโยธยาในเมียนมา และ TIN NYUNT (ดอตินย๊วด) ญาติสนิทและผู้ดูแลคุณยาย

บรรยากาศช่วงเย็นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ประชาชนหลั่งไหลร่วมให้กำลังใจและรับฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต ผ่านน้ำเสียงของคุณยายดอตินทวย ซึ่งกล่าวด้วยน้ำตาซึมว่า “ซาบซึ้งใจมากที่คนไทยให้การต้อนรับอบอุ่นเหมือนคนในครอบครัว”

กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “พาชาวบ้านสุขขะ” จัดโดย นายปัณณพัทธิ์ คำนึง นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ มีเป้าหมายเชื่อมโยงอดีตสู่ปัจจุบัน นำทายาทชาวอยุธยาในต่างแดนกลับมาสัมผัสบ้านเกิดบรรพบุรุษอีกครั้งในรอบ 260 ปี

ภายในงานยังมีการเสวนาและสื่อสารผ่านล่าม ถ่ายทอดเรื่องราวบรรพบุรุษที่เล่าต่อกันมาหลายรุ่น ไฮไลต์ของงานคือคุณยายพูดภาษาไทยว่า “ดีใจมากค่ะ ขอบคุณค่ะ”

ท่ามกลางเสียงปรบมือและน้ำตาแห่งความยินดี เหตุการณ์นี้ไม่เพียงเป็นการเดินทางกลับบ้าน แต่ยังเป็นการ รื้อฟื้นความทรงจำร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ

วัดภูเขาทอง เป็นวัดเก่าแก่ทางตอนเหนือของเกาะเมืองอยุธยา สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร ปลายพุทธศตวรรษที่ 19 ต่อมาในปี พ.ศ. 2112 หลังอยุธยาเสียกรุงให้พระเจ้าบุเรงนอง เจดีย์ขนาดใหญ่ของวัดถูกสร้างในสถาปัตยกรรมแบบมอญ-พม่า และภายหลัง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้เอกราช ได้ทรงบูรณะเจดีย์เป็นแบบไทย ปัจจุบันวัดภูเขาทองเป็นหนึ่งในโบราณสถานสำคัญ ที่สะท้อนรอยต่อทางประวัติศาสตร์ระหว่างไทย-พม่าได้อย่างชัดเจน

นายไพศาล วิสุทธิศาลวงศ์ ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า “เห็นว่าคนอยุธยาในสมัยก่อนไปเป็นเชลยศึก 260 ปี ก็เลยมาดู ตนเองเคยไปหมู่บ้านซูกา หรือสุขขะ และมัณฑะเลย์ ไปดูเทวรูปที่เอาจากวัดมหาธาตุเรา วันนี้เห็นคุณยายเดินทางมาด้วยก็ต้องมาดู ในฐานะคนไทยเราต้องต้อนรับอย่างดี”

สำหรับกำหนดการต่อไป วันที่ 19 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 น. คุณยายพร้อมคณะจะอำลาพระนครศรีอยุธยา เดินทางขึ้นเครื่องบินจาก สนามบินดอนเมือง เพื่อกลับประเทศเมียนมาแล้ว










กำลังโหลดความคิดเห็น