xs
xsm
sm
md
lg

“เมียวดี” ยามปกติเที่ยวง่าย เชื่อมโยงแม่สอดได้สบายใน 1 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


วัดจระเข้ สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ในเมืองเมียวดี
พาไปรู้จัก “เมืองเมียวดี” ที่กำลังเผชิญสถานการณ์สู้รบอย่างหนัก แต่ถ้าย้อนหลังกลับไปในยามปกติ เมียวดีเป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของประเทศเมียนมา ซึ่งคนไทยสามารถข้ามแดนจากแม่สอดไปเที่ยวเมียวดีได้อย่างง่าย ๆ สบาย ๆ ใน 1 วัน

สถานการณ์สู้รบในประเทศเมียนมาโดยเฉพาะที่เมือง “เมียวดี” ระหว่างทหารพม่ากับกองทัพกะเหรี่ยง วันนี้ยังคงรุนแรงดุเดือดชนิดที่คนไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนตากในโซนใกล้พื้นที่สู้รบ ต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด

ชาวบ้านในเมียวดี หนีภัยสงครามข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย
การศึกครั้งนี้แม้จะเป็นไปตามเป้าประเทศยักษ์ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง แต่มันได้สร้างบาดแผลใหญ่ จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายและสิ่งปลูกสร้างเสียหายเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในเมียวดี ทั้งชาวเมียนมาและชาวกะเหรี่ยงหลาย ๆ คน เลือกที่จะหนีตายด้วยการอพยพลี้ภัยข้ามมาในบ้านเรา

สำหรับเมียวดีสมรภูมิสำคัญในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของรัฐกะเหรี่ยงแห่งประเทศเมียนมา เมียวดีเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของรัฐกะเหรี่ยง (รัฐกะเหรี่ยงมีเมืองหลวงคือพะอัน) ตั้งอยู่ริมชายแดนด้านทิศตะวันออกของเมียนมา ติดกับชายแดนจังหวัดตากของเมืองไทย มีแม่น้ำเมยไหลแบ่งเขตแดนเป็นพรมแดนธรรมชาติ โดยมี “สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา” ทอดตัวเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศ

ด่านแม่สอด-เมียวดี จ.ตาก
ทั้งยังมี “ด่านแม่สอด-เมียวดี” เป็นอีกหนึ่งประตูบานใหญ่เชื่อมระหว่างไทย-เมียนมา ซึ่งนอกจากจะเป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจการค้าขายที่สำคัญของ 2 ประเทศ ที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงจีนและอินเดียได้อีกด้วย

ในยามปกติที่ไม่มีสถานการณ์สู้รบ ด่านแม่สอด-เมียวดี จะคึกคักไปด้วยผู้คนจาก 2 ประเทศที่เดินทางข้ามไป-มา หาสู่กัน ทั้งด้านการค้าขาย ธุรกิจ แรงงาน รับจ้าง โดยเฉพาะ “ตลาดริมเมย” ริมชายแดน อ.แม่สอด ที่เป็นแหล่งนำเข้าสินค้าจากจีนผ่านพม่าทางเมืองเมียวดี และคลังจักรยานมือสองที่บรรดาสายปั่นนิยมไปชอปกันเป็นจำนวนมาก (รวมถึงมีคนไทยไม่น้อยที่นิยมไปเล่นการพนันที่เมืองเมียวดีอีกด้วย)

ตลาดริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก
นอกจากนี้ในยามปกติด่านแม่สอด-เมียวดี ยังเป็นประตู่สู่การท่องเที่ยวต่างแดนแสนง่ายไปยังสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจต่าง ๆ ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ในแบบทัวร์ 1 วัน โดยพาหนะนำเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นรถ 2 แถว และรถสามล้อนั่ง 2 แถว ซึ่งที่ผ่านมามีบริการขายทัวร์และป้ายขายทัวร์ มาติดแนะนำเชิญชวนคนไทยให้ไปเที่ยวเมียวดีกันตั้งแต่ในฝั่งไทย

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของคนไทย (นอกจากบ่อน) ส่วนใหญ่จะเป็นวัดวาอารามต่าง ๆ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยสถาปัตยกรรมแบบพม่า-มอญ ซึ่งแต่ละวัดนั้นต่างถูกสร้างไว้อย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ นำโดย “วัดมิจาโกง” หรือที่รู้จักในภาษาไทยคือ “วัดจระเข้” ที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญทางการท่องเที่ยวของเมืองเมียวดีของ

ป้ายขายทัวร์เมืองเมียวดีที่มีติดเชิญชวนตั้งแต่ในฝั่งไทย
วัดจระเข้ มีลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนวัดอื่น ๆ สมดังชื่อวัด คือที่นี่มีรูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ภายในวัด

รูปปั้นจระเข้ตัวนี้ที่มีความยาวตั้งแต่หัวจรดหางถึง 65 เมตร ลำตัวถูกทาด้วยสีเขียวสดใส บริเวณด้านกลางลำตัวจระเข้เป็นที่ตั้งของหอไตรกลางน้ำ ซึ่งจะไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไป

เสาอโศกแห่งวัดจระเข้
สำหรับเรื่องราวความเป็นมาในการสร้างรูปปั้นจระเข้ได้ถูกเล่าไว้ว่า...ในอดีตมีจระเข้ตัวใหญ่จะเข้ามากินพระภิกษุสงฆ์ ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดแห่งนี้ แต่ท่านแสดงธรรมจนจระเข้ได้เห็นธรรมและละกิเลสจะเลิกกินเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ได้แต่จ้องมองไปยัง “วัดส่วยมินวุ่น” หรือ “วัดเจดีย์ทอง” วัดคู่บ้านคู่เมืองของเมืองเมียวดี เนื่องจากอยากไปกราบไหว้แต่ไม่สามารถทำได้จนสิ้นใจ ชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างจระเข้ตัวนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์จากการละจากกิเลสทั้งปวงของจระเข้ตัวนี้...

นอกจากรูปปั้นจระเข้ที่เป็นจุดเด่นแล้ว ที่วัดแห่งนี้ก็ยังมี “หอแสดงพุทธประวัติพระพุทธเจ้า” โดยเป็นอาคารรูปตัวยู (U) ล้อมรอบ “เสาอโศก” อันเป็นเครื่องหมายเพื่อระบุสถานที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา พื้นที่ภายในอาคารถูกทำเป็นห้องต่างๆ ที่ประดับรูปปั้นที่เล่าถึงพุทธประวัติพระพุทธเจ้า ให้ได้เดินชมและเรียนรู้เรื่องราวของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพาน

วัดเจ้าโลวจีหรือวัดก้อนหินใหญ่
ส่วนอีกหนึ่งวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวคือ “วัดเจ้าโลวจี” หรือในชื่อภาษาไทยคือ “วัดก้อนหินใหญ่” วัดแห่งนี้ที่ตั้งอยู่บนลานหินขนาดใหญ่บนเนินเขา ทำให้มองเห็นยอดเจดีย์สีทองเหลืองอร่ามได้ตั้งแต่ระยะไกล ซึ่งองค์เจดีย์และภายในบริเวณวัดถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยศิลปะแบบพม่า-มอญ

ที่บริเวณด้านหลังองค์เจดีย์ ก็ยังเป็นที่ตั้งของก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีเจดีย์อยู่ด้านบนและมีมังกรพันรอบก้อนหิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้ โดยมีเรื่องเล่ากันมาว่า “ในอดีตมีพระพุทธรูปสายธุดงค์ได้มาจำพรรษาอยู่บริเวณวัดแห่งนี้ พอตื่นเช้าขึ้นมามีงูเหลือมมาขดอยู่ด้านบนหินที่ท่านจำพรรษาอยู่ ชาวบ้านผ่านมาเห็นจึงเกิดความศรัทธาและนิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่นี่จนมรณภาพ”

เจดีย์บนก้อนหินใหญ่ ที่มาของชื่อวัดก้อนหินใหญ่
“ก้อนหินใหญ่” ที่มาของชื่อวัดเจ้าโลวจี (วัดก้อนหินใหญ่) นอกจากวัดจระเข้และวัดก้อนหินใหญ่แล้ว ในเมืองเมียวดียังมีวัดอื่นๆ อาทิ วัดชเวมินหวุ่น (วัดเจดีย์ทอง) ที่เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของเมือง, วัดเด้ถั่นเอ่ (วัดเจดีย์อธิษฐาน), ให้ไปเที่ยวเที่ยวชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

รวมถึงมี “ตลาดบุเรงนอง” ศูนย์รวมสินค้าต่าง ๆ มากมาย ทั้งสินค้าจากจีน เมียนมา และสินค้าท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า แป้งทานาคา ใบพลู-หมาก อาหารการกิน และสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ อีกสารพัดสารพัน

ตลาดบุเรงนอง เมืองเมียวดี
ส่วนใครถ้าไปถูกช่วงจังหวะเวลา ในเมืองเมียวดี รวมถึงอีกหลายเมืองในเมียนมา จะมี “แตงโมยักษ์” ผลผลิตจากชาวบ้านวางขายอยู่ทั่วไป ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ของเมียนมาที่ต้องลอง เพราะนอกจากจะเป็นแตงโมที่ลูกโตมากซึ่งไม่ค่อยพบในบ้านเราแล้ว ยังมีรสชาติหวานอร่อย ชนิดที่หลายคนลองแล้วติดใจไปตาม ๆ กัน

แตงโมยักษ์เมืองเมียวดี
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของเมียวดี เมืองเศรษฐกิจสำคัญของรัฐกะเหรี่ยงประเทศเมียนมา ที่ในยามปกติน่าเที่ยวไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่วันนี้คนในชาติต้องมาสู้รบกัน จากฝีมือของบางประเทศที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเราขอเอาใจช่วยให้การสู้รบจบโดยเร็ววัน มีการเจรจา สันติภาพกลับคืน ประชาชนกลับสู้วิถีปกติ เดินหน้าทำมาหากิน ส่วนนักการเมืองของประเทศยักษ์ใหญ่จำพวกอินทรีอีแร้งที่ค้าสงครามอยู่เบื้องหลัง ก็ขอให้พวกมันประสบชะตากรรมฉิบหายโดยทั่วหน้ากัน

ยินดีต้อนรับสู่เมืองเมียวดี (แฟ้มภาพ)




กำลังโหลดความคิดเห็น