ศูนย์ข่าวขอนแก่น-สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับ สสส., สถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ อบรมเชิงปฏิบัติการสื่อสุขภาวะรุ่นใหม่ในสถาบันการศึกษา กับนวัตกรรมการสื่อสารรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลง พื้นที่ภาคอีสานตอนบน
เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องประชุมเรือนนภาลัย โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท อ.เมืองขอนแก่น สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับ แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส., สถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการสื่อสุขภาวะรุ่นใหม่ในสถาบันการศึกษา กับนวัตกรรมการสื่อสารรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลง พื้นที่ภาคอีสานตอนบน
มีนายสุทธินันท์ บุญมี คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการอบรม พร้อมด้วย รศ.ดร.วัชรินทร์ ลอยลม รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะวิทยากร มาร่วมให้ความรู้เรื่องพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดี กับนักเรียน นักศึกษาจาก 35 สถาบันการศึกษาในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมากกว่า 100 คน
นายสุทธินันท์ บุญมี คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี เราพบว่าเป็นปัญหามานานแล้วและยังไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งในฐานะ สช.มีหน้าที่ร่วมงาน ประสานงานหรือสานพลัง วันนี้จึงได้ร่วมกันจัดงานขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเยาวชน ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี การป้องกัน การตัดวงจรพยาธิ สร้างความรู้ด้านเครื่องมือการสื่อสารต่างๆ สำหรับออกไปเผยแพร่ให้กับตัวเอง ครอบครัว เพื่อนๆในสถานศึกษา รวมถึงพี่น้องในชุมชน เพื่อตัดวงจรพยาธิใบไม้ตับให้ได้
“เมื่อลูกหลานเรามีความรู้แล้ว มีการพัฒนาด้านการสื่อสารสมัยใหม่ เชื่อว่าลูกหลานเราก็จะไปบอกครอบครัว ไปบอกเพื่อน ไปบอกชุมชน ทำให้พฤติกรรมการกินของเด็กรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้สามารถควบคุมพยาธิใบไม้ตับได้”นายสุทธินันท์ กล่าว
ขณะที่ นพ.วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานสุขภาพแห่งชาติได้ร่วมกับแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. เพื่อให้ความรู้ด้านวิชาการในการผลิตสื่อและกลยุทธ์ในการทำสื่อเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้กับกลุ่มเยาวชน ครู นักเรียน ภาคอีสานตอนบน ขอนแก่น อุดรฯ และหลายจังหวัด ปัญหาใหญ่ก็คือพยาธิใบไม้ตับที่มักเกิดจากการทานอาหารสุกๆดิบๆ
ที่ชัดเจนมากคือปลาดิบ ดังนั้นทำอย่างไรให้โรคนี้หมดไปเพราะมันจะกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในอนาคต การสร้างสื่อจึงสำคัญมากที่จะรณรงค์ให้ความรู้สำหรับประชาชน วันนี้ดีใจที่เยาวชนมากันคับคั่ง ก็หวังว่าจะได้ผลในการกระจายความรู้ให้กับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องในอนาคตต่อไป
ด้าน รศ.ดร.วัชรินทร์ ลอยลม รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี กล่าวถึงสถานการณ์พยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีว่าสถานการณ์ของผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีในภาคอีสานถือว่ายังไม่ดีขึ้น ซึ่งมีผู้ป่วยใหม่ของโรคนี้ในภาคอีสานประมาณปีละ 10,000 คน จากจำนวน 20,000 รายในทั่วประเทศ
เขตที่มีจำนวนคนไข้สะสมเป็นอันดับ 1 คือเขต 8 รองลงมาคือเขต 7 , 9 และ 10 ตามลำดับ ถ้าดูจากสถิติแล้วถ้าผู้ป่วยไม่ได้เข้ารับการรักษาเลยก็จะเสียชีวิตภายในเวลา 1 ปี ดังนั้นในทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็ง
ท่อน้ำดีปีละ 20,000 ราย
“ถ้าเราลดอัตราผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีให้น้อยกว่า 30 หรือ 25 % ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณะสุขคือ 1 % จนไม่เป็นปัญหา เราก็คาดหวังว่าอีก 10 – 20 ปีข้างหน้าก็จะเห็นตัวเลขผู้ป่วยมะเร็งท่องน้ำดีลดลง ” รศ.ดร.วัชรินทร์กล่าว
ด้าน ดร.ดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. และคณะทำงานด้านการสื่อสาร สช. กล่าวถึงแผนการจัดอบรมครั้งนี้ว่า เราจะติดตั้งชุดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงของพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งน้องๆเองที่เป็นเยาวชนนั้นก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราอยากจะทำให้น้องๆเยาวชนเป็นแกนนำที่จะออกแบบเรื่องการสื่อสาร ที่ตระหนักรู้และเฝ้าระวังถึงความเสี่ยงและพิษภัยของมะเร็งท่อน้ำดีและพยาธิใบไม้ตับ น้องๆควรต้องเริ่มต้นจากตัวเอง ขณะเดียวกันเราจะติดตั้งชุดความรู้ด้านการทำสื่อรณรงค์
สำหรับการจัดอบรมสร้างสื่อสุขภาวะรุ่นใหม่ภาคอีสานตอนบนในครั้งนี้ มีทั้งนักเรียนสายสามัญ สายวิชาชีพ และนักศึกษาจากหลายสถาบันศึกษาเข้าร่วมมากว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งการอบรมการสร้างสรรค์นวัตกรรมการสื่อสารรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ รวมทั้งกิจกรรม work shop เพื่อออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการสื่อสารรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลง เรื่องการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 และ 8