xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว! หลานอดีตผญบ.สุดเถื่อน บุกบ้านทำร้ายหนุ่มช่างแอร์-แฟนสาวสาหัส บังคับกินน้ำเน่าก่อนอุ้มขึ้นรถไปทิ้งข้างทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์- ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ บุกรวบถึงบ้าน หลานอดีต ผญบ. สุดเถื่อน บุกพังประตูบ้านเข้าไปทำร้ายหนุ่มช่างแอร์กับแฟนสาวสาหัสคาห้องนอน แถมบังคับผู้หญิงกินน้ำเน่าก่อนอุ้มขึ้นรถไปทิ้งไว้ศาลาริมทาง ปัดตอบปมแค้น แต่โทร.หาแม่คนเจ็บ พร้อมขู่สื่อให้หยุดทำข่าว ลั่นจะหาว่าไม่เตือน

วันนี้ ( 13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีที่ นายอำพล หรือปุ๋ย อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็นช่างติดตั้งและซ่อมแอร์ และเป็นหลานของอดีตผู้ใหญ่บ้าแห่งหนึ่งใน ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้พังประตูบ้านบุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย นายสุรเดช หรือ ปู อายุ 33 ปี และ น.ส.หนูนา อายุ 18 ปี แฟนสาว ในห้องนอนภายในบ้านของฝ่ายชาย ตอนกลางวันแสกๆ วันที่ 11 ก.ย.68 ที่ผ่านมา ทั้งยังบังคับให้ น.ส.หนูนา กินน้ำเน่า ก่อนอุ้ม น.ส.หนูนา ขึ้นรถกระบะไปด้วย แล้วนำไปทิ้งไว้ที่ศาลาริมทาง ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุราว 4 กิโลเมตร ทั้งยังขโมยเอาโทรศัพท์ของ ผู้บาดเจ็บทั้งคู่ไปด้วย เพื่อไม่ให้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากใคร โดย นายปู และ น.ส.หนูนา แฟนสาว ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งเข้ารักษาตัวที่ รพ.นางรอง


โดยผู้บาดเจ็บทั้งคู่ ให้ข้อมูลว่า ปมเหตุที่ นายปุ๋ย บุกมาทำร้ายร่างกาย น่าจะไม่พอใจที่ น.ส.หนูนา ซึ่งเป็นลูกจ้างของ นายปุ๋ย มาคบหากับนายปู ทั้งที่ นายปุ๋ย แอบชอบ น.ส.หนูนา และไปบอกคนอื่นว่าคบกันอยู่โดย น.ส.หนูนา ยืนยันว่า ไม่ได้คบกับนายปุ๋ย และพยายามตีตัวออกห่าง ก่อนจะมาคบหากับนายปู เชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้นายปุ๋ย โกรธ จึงบุกเข้าไปทำร้าย

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ทศพล พุ่มแสง สว.สส.สภ.นางรอง นำกำลังชุดสืบสวน ไปจับกุม นายอำพล หรือปุ๋ย ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายปูน และแฟนสาว ที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ในตำบลเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว นายอำพล ก็ออกมามอบตัวโดยไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวนายอำพล ส่ง ร.ต.อ.ฤกษ์ วิเชียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.นางรอง พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ


แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายอำพล มาที่โรงพัก ทีมข่าวพยายามจะสอบถามว่าได้ก่อเหตุบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายนายปู และแฟนสาวที่บ้านจริงหรือไม่ แล้วสาเหตุใช่เรื่องชู้สาวหรือไม่ แต่นายอำพล ปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามสื่อ แต่พอสื่อถามอีกว่ายอมรับว่าหรือไม่ว่าทำร้ายจริง นายอำพล กลับแสดงอาการไม่พอใจ และบอกว่า “ผมบอกว่าไม่คุย แล้วจะมาถามอะไรอีกครับ แต่ถ้าลุกล้ำความเป็นส่วนตัวก็จะแจ้งความว่าคุกคาม”

ก่อนจะถูกตำรวจควบคุมตัวมาโรงพัก นายอำพล ได้โทรศัพท์ไปหาแม่ของนายปู คนเจ็บ พยายามจะชี้แจงว่า เคยบอกให้น้องเข้ามาคุยกันดีๆ แต่นายปู ไม่ยอมมา เวลาไม่มีตังค์ก็ให้เงินกินข้าวแต่นายปู ก็ไม่ให้ความเคารพเลย แล้วที่เข้าไปก็ไปมือเปล่าไม่ได้มีอาวุธเลย แต่แม่ก็บอกว่าไม่รู้ว่าไปมือเปล่าหรือมีอาวุธหรือไม่ แต่ทำร้ายร่างกายลูกตัวเองหนักมาก ทั้งนี้นายอำพล ยังพูดกับแม่คนเจ็บด้วยว่า ไม่ได้จะหลบหนี แค่รอหมายเรียกจากตำรวจก่อน อีกทั้งยังบอกด้วยว่าให้นักข่าวหยุดทำข่าว อย่าเข้าไปที่บ้านอีก ถ้ายังอยากอยู่ไม่ได้ขู่แต่พูดจริง อย่าปั้นข่าวไม่จริงอย่าปั้น พอแม่บอกว่าจะให้เบอร์นักข่าวไปบอกเอง นายอำพล กลับบอกว่าไม่อยากคุยคนแบบนี้ไม่ให้ค่า


ขณะที่แม่ของผู้บาดเจ็บทั้งสองคน ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม และเตรียมยื่นคัดค้านประกันตัว เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย

ด้าน นางดวงสุดา แม่นายปู คนเจ็บ บอกว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามตัวคนก่อเหตุอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่สบายใจเพราะกลัวนายอำพล จะได้รับการปล่อยตัวแล้วไปทำร้ายลูกชายอีก และอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนก่อเหตุถึงที่สุด เพราะบุกไปทำร้ายลูกชายและแฟนสาว ถึงในบ้านอย่างอุกอาจ


ขณะที่นางกรรณิกา อายุ 49 ปี แม่ น.ส.หนูหนา ผู้บาดเจ็บฝ่ายหญิง บอกว่า รู้ว่าลูกสาวเคยทำงานด้วยกันกับนายอำพล แต่เขาไม่เคยบอกว่าคบกัน แต่กับนายปู ลูกสาวเคยพาไปที่บ้านและบอกว่ากำลังคบหากัน ส่วนเรื่องที่มาทำร้ายร่างกายลูกสาว ซึ่งอาการหนักยังอยู่ รพ. ตนรับไม่ได้ เพราะทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ทั้งยังลักพาตัวลูกสาวจากบ้านฝ่ายชายไปทิ้งไว้ศาลาริมทาง ทั้งที่ลูกสาวบาดเจ็บ แถมยังขโมยมือถือไปด้วย ไม่ให้ติดต่อใคร ก็อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุดด้วย

โดยเบื้องต้นเข้าข่ายกระทำผิดข้อหา “บุกรุกเคหะสถาน ,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นก่อให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ส่วนข้อหาหรือความผิดอื่นต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมและรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง








กำลังโหลดความคิดเห็น