เชียงราย/รัฐฉาน - ผลตรวจ คพ.บ่งชี้ชัด..เชื่อพายุเข้าจนเหมืองว้าต้องหยุด ช่วยสารพิษปนเปื้อนน้ำกกลดชั่วคราวทุกจุด ตั้งแต่แม่อาย เชียงใหม่-เชียงราย เหลือแค่คุณภาพน้ำลุ่มฝายที่เกินค่ามาตรฐาน แต่น้ำสายที่มีเหมืองทอง-แมงกานีสอยู่ต้นน้ำนับ 10 แห่งยังพบโลหะหนักตกค้างสูง
กรณีพบสารโลหะหนัก-สารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก จากแม่อาย เชียงใหม่-เชียงราย, แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุดปลายเดือน ส.ค. 2568 กรมควบคุมมลพิษได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดินลุ่มน้ำทั้งใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เป็นครั้งที่ 9
พบว่าปริมาณของสารหนูที่เคยพบในแม่น้ำกกทั้ง 2 จังหวัดได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะช่วงที่ไหลมาจากชายแดนไทย-เมียนมา เข้า อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งตลอดการตรวจครั้งที่ 1-8 ที่ผ่านมาพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยคือมากกว่า 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตรทุกครั้ง ปรากฏว่าในการตรวจครั้งที่ 9 ทั้งที่จุดเริ่มต้นชายแดน สะพานท่าตอน สะพานบ้านแม่สลัก และ ต.มะลิกา อ.แม่อาย มีปริมาณสารหนูต่ำกว่า 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตรทุกจุด
เช่นเดียวกับแม่น้ำกกที่ไหลผ่าน จ.เชียงราย ตั้งแต่บ้านจะเด้อ หมู่ 6 ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย ไปสิ้นสุดที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จำนวน 12 จุด ซึ่งเคยพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานเกือบทุกจุด ครั้งนี้พบสารหนูเกินมาตรฐานเพียง 4 จุด คือ บริเวณบ้านจะเด้อ ที่มีปริมาณ 0.011 มิลลิกรัมต่อลิตร สะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ปริมาณ 0.011 มิลลิกรัมต่อลิตร บริเวณฝายเชียงราย ปริมาณ 0.011 มิลลิกรัมต่อลิตร และสะพานริมกก-เวียงเหนือรวมใจ ปริมาณ 0.012 มิลลิกรัมต่อลิตร
อาจารย์ ดร.สืบสกุล กิจนุกร จากสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และนักวิชาการในเครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก สาย รวก โขง เปิดเผยว่า ผลการตรวจสารโลหะหนักในแม่น้ำกกครั้งที่ 9 ซึ่งพบสารโลหะหนักลดลงในแม่น้ำกกนั้น คาดว่าเกิดจากฝนตกหนัก ตั้งแต่พายุวิภาพัดผ่านพื้นที่ทำเหมืองต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน อาจทำให้มีการหยุดทำเหมืองชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบจากพายุ ทำให้พบสารโลหะหนักลดลงตามมา
ซึ่งก็น่าจะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าทางออกที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้เกิดสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำคือปิดเหมืองในประเทศเมียนมาอย่างถาวร ส่วนที่ยังพบสารหนูอยู่บ้างบริเวณฝายเชียงรายอาจเกิดจากน้ำท่วมทำให้ตะกอนที่ถูกกักไว้ฟุ้งกระจาย และพัดพาโลหะหนักให้ออกมาดังกล่าว ดังนั้นการสนับสนุนให้มีการสร้างฝายดักตะกอนขอให้นำข้อมูลนี้ไปประกอบการตัดสินใจด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณสารตกค้างในแม่น้ำกกจะลดลง แต่แม่น้ำสายซึ่งไหลมาจากประเทศเมียนมาเช่นกันผ่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงพบสารหนูตกค้างในปริมาณที่เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพเช่นเดิม โดยที่บ้านหัวฝาย ต.แม่สาย วัดได้ 0.029 มิลลิกรัมต่อลิตร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 วัดได้ 0.034 มิลลิกรัมต่อลิตร และที่บ้านป่าซาง หมู่ 6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย วัดได้ 0.019 มิลลิกรัมต่อลิตร นอกจากนี้ ตรงสะพานเดียวกันยังพบแมงกานีสเกินมาตรฐานอยู่ที่ 1.10 มิลลิกรัมต่อลิตร และสารตะกั่ว 0.074 มิลลิกรัมต่อลิตร และที่บ้านหัวฝายพบสารตะกั่ว 0.065 มิลลิกรัมต่อลิตร ส่วนจุดอื่นๆ ไปจนถึงแม่น้ำรวก-แม่น้ำโขง ไม่พบสารตกค้างเกินมาตรฐานแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า ลุ่มแม่น้ำกกและแม่น้ำสายในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) มีเหมืองทองคำซึ่งเป็นเหตุของสารหนูและเหมืองแมงกานีส อยู่ไม่น้อยกว่า 10 แห่ง นอกจากนี้ยังพบเหมืองแร่หายากหรือแรร์เอิร์ทตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกกทั้งสองฝั่งอย่างน้อย 2 แห่ง ทั้งหมดเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมาและส่งผลทำให้แม่น้ำสายขุ่นลงอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งกรมควบคุมมลพิษตรวจสอบพบมีสารหนูและอื่นๆ ปนเปื้อนในแม่น้ำมาแล้ว 9 ครั้งดังกล่าว
นอกจากนี้ยังพบมีการทำเหมืองแรร์เอิร์ทบนภูเขาและลุ่มแม่น้ำโหลยในเขตปกครองพิเศษที่ 4 (เมืองลา) ในเขตอิทธิพลของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (NDAA) ชายแดนเมียนมา-จีน อีกอย่างน้อย 19 แห่ง ซึ่งปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำโหลยและแม่น้ำโขงซึ่งห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 125 กิโลเมตร