อุบลราชธานี - แม่ทัพภาคที่ 2 เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล พร้อมสั่งให้เปลี่ยนวิธีการลาดตระเวนให้ใช้การตรวจการณ์จากระยะไกลและเครื่องจักรกลแทนคน เพื่อลดความสูญเสียจากกับระเบิดที่ทหารกัมพูชาวางไว้หนาแน่นตามแนวชายแดน
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะเข้าเยี่ยมดูอาการและพูดคุยสอบถามอาการบาดเจ็บของ 3 ทหาร คือ จ่าสิบเอกธานี พาหา ผู้บังคับหมู่ ร้อย.ร.111 กรมทหารราบที่ 16 ที่เหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนเส้นทางเพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ช่วงรอยต่อบ้านโดนเอาว์กับบ้านกฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ซึ่งมีอาการดีขึ้นอย่างมาก มีเจ็บที่บาดแผลเล็กน้อย ก่อนมอบสิ่งของและเงินสดไว้ใช้ระหว่างรักษาตัว
รวมทั้งได้เข้าเยี่ยมดูอาการของพลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ พลปืนเล็กที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่แขนซ้าย และแผ่นหลัง และพลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ พลปืนเล็ก ซึ่งโดนแรงอัดของระเบิด และเจ็บแก้วหู ปัจจุบันมีอาการดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน ซึ่งทหารทั้ง 3 นายมีครอบครัวมาคอยดูแลให้กำลังใจอยู่ข้างเตียงคนป่วย
พลโท บุญสินกล่าวถึงการลดความสูญเสียของกำลังพลเรื่องการเหยียบกับระเบิดตามพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดน เพราะกัมพูชาไม่เคารพในอนุสัญญาออตตาวาเรื่องการใช้ทุ่นระเบิด จึงมีการวางทุ่นระเบิดไว้อย่างหนาแน่นตลอดแนวพรมแดน จึงสั่งการให้น้องที่ปฏิบัติหน้าที่ใช้วิธีเฝ้าตรวจและใช้เครื่องจักรอย่าใช้คนเข้าไปเดินในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพราะไม่คุ้มกับความสูญเสีย จึงหันมาใช้การตรวจการณ์จากระยะไกลและใช้เครื่องจักรแทน
สำหรับการประชุม RBC กับกัมพูชาครั้งต่อไป ก็ต้องมีการเสนอกันในที่ประชุมไม่ควรใช้ทุ่นระเบิดตามหลักสากล เพราะกัมพูชาก็เป็นสมาชิกด้วย