อุดรธานี -ชีวิตสุดรันทด! แม่วัย 51 ปี ดูแลลูกชายป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง ติดเตียงเพียงลำพัง สามีใหม่คือกำลังใจสำคัญ เผยไม่หวังเงินหรือให้พ่อแท้ๆรับผิดชอบ แต่หวังเป็นอุทาหรณ์ ให้แม่คนอื่นมีกำลังใจ เพราะลูกคือสิ่งสำคัญให้สู้มากว่า 20 ปี
ในเช้าวันแม่แห่งชาติหลายบ้านเต็มไปด้วยดอกมะลิหอมและคำอวยพร แต่นางเจนมิสร หรือเจน คุณแม่อายุ 51 ปี ชาว จ.อุดรธานี กลับมีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาและมืออ่อนแรงของลูกชายที่กุมมือแม่ไว้แน่น รักที่ไม่ต้องใช้คำพูดแต่หนักแน่นยิ่งกว่าทุกถ้อยคำ
นางเจนมิสร หรือ “เจน” เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปมากว่า 20 ปี ตนรู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งกระทั่งแต่งงานและสร้างครอบครัวในจังหวัดปริมณฑล มีลูกชายหนึ่งคนชื่อ “แมทริกซ์” เมื่อลูกอายุได้เพียง 2 ปี ก็พบว่าสามีมีความสัมพันธ์กับนักร้องคาเฟ่ ในช่วงแรกพยายามปรับความเข้าใจเพื่อรักษาครอบครัว แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายลง สามีเปิดร้านขายโทรศัพท์ให้ผู้หญิงอยู่ตรงข้ามบ้าน เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกทรมานและตกอยู่ในภาวะกดดันอย่างหนัก ในที่สุดต้องตัดสินใจหย่าร้าง
หลังหย่าร้าง ยังอาศัยอยู่ในจังหวัดเดิม และเลี้ยงดูลูกชายเพียงลำพังเป็นเวลากว่า 2 ปี ตลอดช่วงเวลานั้นเป็นช่วงลำบากอย่างยิ่ง เพราะลูกไม่ใช่เด็กปกติ มีอาการเจ็บป่วยบ่อยและยากต่อการดูแล ตอนแรกตนคิดว่าลูกเพียงแค่ป่วยเป็นทอนซิลอักเสบจึงรักษาตามอาการ แม้พ่อของลูกและครอบครัวฝ่ายนั้นจะรับรู้ถึงปัญหาก็ไม่เคยยื่นมือช่วยเหลือหรือดูแล กระทั่งเมื่อลูกอายุได้ 4 ปี ตนจึงพาลูกไปที่จังหวัดเลย เพื่อให้พ่อแม่ช่วยดูแล เพราะตนต้องทำงานหาเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรักษา เงินหามาได้ก็หมดไปกับการดูแลรักษาลูก
ต่อมาได้รู้จักกับชายคนหนึ่งซึ่งดูแลเธอและลูกอย่างดี จนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน เขาแนะนำว่าโรคที่ลูกเป็นสามารถผ่าตัดได้ และอาสาออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด หลังผ่าตัดจึงพบว่า นอกจากทอนซิลอักเสบแล้ว ลูกยังป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงตามมา แพทย์อธิบายว่าผู้ป่วยโรคนี้จะค่อยๆลามจากขาไปหลัง แขน คอ และเมื่อถึงกล้ามเนื้อหัวใจก็จะเสียชีวิต จากสถิติผู้ป่วยมักมีชีวิตไม่เกิน 19 ปี
“ทันทีที่รู้ เจนถึงกับหลั่งน้ำตา แต่สามีใหม่คอยให้กำลังใจและช่วยดูแลค่าใช้จ่าย ทำให้เธอสู้ต่อจนปัจจุบันลูกชายมีอายุ 23 ปี เกินกว่าที่หมอคาดการณ์ แม้อาการลามมาถึงกล้ามเนื้อคอแล้วก็ตาม”
เมื่อแมทริกซ์ อายุ 16 ปี เพื่อนรุ่นพี่ได้พาพ่อแท้ๆมาเยี่ยม เจนไม่เคยกีดกันแต่กลับยินดีที่เขาอยากมาหาลูก เมื่อมาถึงก็ไม่ได้แสดงเจตนาจะช่วยเหลือดูแลใดๆ ระหว่างไปส่งที่สนามบิน สามีใหม่ถามเขาว่า “ในฐานะพ่อแท้ๆ วันนี้คุณคิดว่าจะทำอะไรให้ลูกได้บ้าง ส่วนผมรักเขาเหมือนลูกจริงๆ” พ่อแท้ๆตอบเพียงว่า “ขอบคุณ คุณเป็นพ่อที่ดีมากดูแลแทนผมได้อย่างสมบูรณ์ แมทริกซ์เหมือนลูกแท้ๆของคุณ” จากนั้นเขาก็ขึ้นเครื่องกลับ และไม่เคยติดต่อมาอีกเลยจนถึงวันนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว
“ที่เล่าเรื่องนี้ผ่านสื่อมวลชนไม่ได้ต้องการให้พ่อแท้ๆมารับผิดชอบ หรือหวังเงินทองใดๆ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ แค่ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์และตัวอย่างสำหรับคุณแม่คนอื่นๆ ที่อาจเผชิญเหตุการณ์แบบเดียวกันให้มีกำลังใจสู้ต่อไป เพราะสำหรับฉันลูกคือสิ่งสำคัญที่สุด ฉันสู้มาแล้วกว่า 20 ปี และหากไม่มีลูกคนนี้ ฉันคงไม่สามารถผ่านมาได้” นางเจนมิสร กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำตา