ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “แม่ทัพภาคที่ 2” รับมอบสิ่งของช่วยทหารแนวหน้า ย้ำกำลังพลจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ยืนยันทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่แนวปะทะจำนวนมาก ผิดอนุสัญญาฯชัดเจน สั่งทหารทุกหน่วยเพิ่มความระวัง พร้อมใช้เทคโนฯ และเครื่องจักรกู้ทุ่นระเบิดลดความเสี่ยง แจงข่าวการยั่วยุโดยใช้หนังสติ๊กไม่เป็นความจริง แค่ภาพในโซเชียลฯ ทหารไทยปฏิบัติมาตรการหยุดยิงเคร่งครัด ขณะ “ทักษิณ” เพิ่งตื่น มอบโดรนให้กองทัพ 10 ลำ มูลค่า 3 ล้าน
วันนี้ (10 ส.ค. 68) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เป็นผู้แทนกองทัพบกรับมอบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน จำนวน 10 ชุด มูลค่า 3 ล้านบาท จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และงบประมาณสนับสนุน จำนวน 5 หมื่นบาท จากคณะนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 โดยมี พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนในการส่งมอบ
นอกจากนี้ยังมีภาครัฐและเอกชน กลุ่มศิลปินดารานักแสดง เช่น มูลนิธิไทยพีบีเอส กลุ่มเพื่อนโจอี้ ครอบครัว นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นำสิ่งของจำเป็น ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย ทิชชูเปียก ยาสามัญประจำบ้าน แป้งโยคี สเปรย์กันยุง ผงซักฟอก กางเกง เชือก ตาข่ายพลาสติกกรองแสง ตาข่ายกันลม ตาข่ายกันโดรน อวนมุ้งฟ้า พร้อมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค
นอกจากนี้ พระครูพิสิฐปัญญวุธ วัดป่าธรรมาภิรมย์ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ได้นำเสื้อยันต์มหาอุต ที่ผ่านการปลุกเสกจากเกจิชื่อดังของภาคเหนือมามอบแก่แม่ทัพภาคที่ 2 จำนวน 1,000 ตัว เพื่อนำไปให้ทหารหาญที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดน พร้อมนี้หลวงพ่อได้นำฝ้ายที่ผ่านการปลุกเสกแล้วผูกข้อมือและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดเกิดเหตุทหารไทย 3 นาย เหยียบทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 บริเวณรอยต่อช่องโดนเอาว์-กฤษณา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ทหารขาขาด 1 นาย และบาดเจ็บที่ขาอีก 2 นาย จากการตรวจสอบพบว่าทุ่นดังกล่าวเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ในช่วงที่ทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปหลังการเข้าตีสำเร็จ ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง
ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตัก ในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ
สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้จำนวนมาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา จึงไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด ประชาชนที่พบเห็นควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที และห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง
พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ ช่องอานม้า ซำแต และปราสาทตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ 100% แต่พื้นที่ ปราสาทตาควายยังต้องตรึงกำลังเพราะมีระเบิดจำนวนมากและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ในประเด็นข้อพิพาทเรื่องทุ่นระเบิดสังหารบุคคล กัมพูชาไม่ยอมรับเงื่อนไขให้เก็บกู้ในกรอบทวิภาคีตามที่ฝ่ายไทยเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC ครั้งที่ผ่านมา เพราะยังมีการวางทุ่นระเบิดอยู่ ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน
ส่วนข่าวการยั่วยุโดยใช้หนังสติ๊กหรือสิ่งต่างๆ ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นเพียงภาพข่าวในโซเชียลฯ ขณะนี้ทหารไทยยังคงควบคุมพื้นที่และปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงของรัฐบาล การกู้ระเบิดในพื้นที่ชาวบ้านเริ่มทยอยดำเนินการในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา แต่ยังไม่สมบูรณ์ 100% เนื่องจากไม่ทราบจำนวนหลุมจากการยิงเข้ามา จึงต้องอาศัยการเฝ้าระวังและแจ้งเจ้าหน้าที่ของประชาชน
"ขอขอบคุณทุกกำลังใจและสิ่งของจากประชาชน หน่วยงานต่างๆ รวมถึงสำนักนายกรัฐมนตรี และคุณทักษิณ ชินวัตร ที่มอบโดรน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ โดยยืนยันว่ากำลังพลจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทหารและประชาชนในพื้นที่ชายแดน" พล.ท.บุญสินกล่าวในตอนท้าย