xs
xsm
sm
md
lg

สถาบันลุ่มน้ำโขงเร่งเครื่องความร่วมมือสามฝ่ายพัฒนาโลจิสติกส์-ท่องเที่ยวในเส้นทางรถไฟไทย-ลาว-จีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขงผนึกกงสุลใหญ่จีนประจำขอนแก่น แถลงเตรียมจัดประชุมใหญ่ด้านโลจิสติกส์และส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย 19 สิงหาคมนี้ ที่โรงแรมพูลแมน จ.ขอนแก่น

นางสาวหยาง หนิง รองกงสุลใหญ่ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำขอนแก่น
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ห้องประชุมสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง (Mekong Institute) มหาวิทยาลัยขอนแก่น นางสาวหยาง หนิง รองกงสุลใหญ่ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำขอนแก่น พร้อมด้วยนายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการบริหาร สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ร่วมกันแถลงข่าวการประชุมด้านโลจิสติกส์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย มีสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมแถลงข่าวจำนวนมาก

นางสาวหยาง หนิง รองกงสุลใหญ่ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำขอนแก่น กล่าวว่า การประชุมด้านโลจิสติกส์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย จะจัดขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมพูลแมน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ทั้งยังมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของแคมเปญ "10 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย" ซึ่งมุ่งยกระดับภาคอีสานในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อด้วยเครือข่ายรถไฟระดับภูมิภาค

การจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำขอนแก่น และสำนักงานกิจการต่างประเทศของรัฐบาลประชาชนมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน การจัดงานมีเป้าหมายเพื่อสะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ร่วมในการใช้โครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อเพื่อส่งเสริมการพัฒนาแบบครอบคลุม การบูรณาการทางเศรษฐกิจ และความร่วมมือระหว่างประชาชนในจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และไทย

นายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการบริหาร สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง
"การแถลงข่าวในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเริ่มต้นของแคมเปญเท่านั้น แต่ยังเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ร่วมของทั้งสามประเทศ รถไฟจีน-ลาว-ไทย เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างประเทศและการพัฒนาที่ยั่งยืน" รองกงสุลใหญ่ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำขอนแก่นกล่าว

นางสาวหยาง หนิง เน้นย้ำอีกว่ารถไฟสายนี้จะช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่สำหรับการค้าข้ามพรมแดนและการท่องเที่ยวในภูมิภาค รวมไปถึงการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนทั้งสามประเทศ ผ่านการประชุมที่จะมาถึงและโครงการต่างๆ เช่น แคมเปญ '10 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม' ที่จะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ สำหรับชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และภาคการท่องเที่ยว

"จีนยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการบูรณาการในภูมิภาคผ่านความร่วมมือในทางปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”


ด้านนายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการบริหาร สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ได้เน้นย้ำว่า รถไฟจีน-ลาว-ไทยเป็นมากกว่าเส้นทางเชื่อมต่อทางกายภาพ แต่ยังเป็นเส้นทางเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการฟื้นฟูของเศรษฐกิจและความยืดหยุ่นของภูมิภาค

“นี่ไม่ใช่เพียงแค่ระเบียงการขนส่ง แต่เป็นแพลตฟอร์มเปลี่ยนแปลงสำหรับโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน การท่องเที่ยว และการเติบโตแบบครอบคลุม" นายสุริยันกล่าวระหว่างการแนะนำวัตถุประสงค์หลักของการประชุมวันที่ 19 สิงหาคมที่จะมาถึง 

อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานที่สำคัญคือการเปิดตัวแคมเปญ "10 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม แคมเปญนี้เชิญชวนสาธารณชนร่วมโหวตในหน้าเฟซบุ๊กของสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง เพื่อเลือกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นในอีสานที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านรถไฟจีน-ลาว-ไทย โดยเชิญชวนให้ผู้ร่วมแคมเปญแสดงความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นต่อจุดหมายปลายทางที่ชื่นชอบ เพื่อชิงรางวัลคูปองท่องเที่ยวมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท โดยจะจับฉลากและประกาศรายชื่อผู้โชคดีในระหว่างการประชุม

นายสุริยันกล่าวว่า แคมเปญนี้มุ่งหวังที่จะช่วยโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละท้องถิ่น เพื่อเฉลิมฉลองมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิทัศน์ธรรมชาติและประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน "นี่คือโอกาสในการนำเสนอความมั่งคั่งของอีสาน ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องเล่าการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟ"


งานแถลงข่าวครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นความสนใจจากสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายผลลัพธ์ของโครงการในระดับภูมิภาคอีกด้วย การประชุมด้านโลจิสติกส์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย จะจัดขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมพูลแมน จังหวัดขอนแก่น ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่ การเสวนาหลัก การอภิปรายแบบแยกตามประเด็น นิทรรศการ และช่วงจับคู่ธุรกิจ โดยจะรวบรวมผู้เข้าร่วมที่สำคัญ ทั้งผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม ผู้นำธุรกิจ และผู้ประกอบการที่โดดเด่น รวมถึงนักลงทุนและพันธมิตรการพัฒนาที่สนใจในการพัฒนา

ระเบียงรถไฟสายนี้ การอภิปรายจะมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์สำคัญต่างๆ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งแบบหลายรูปแบบ การขยายโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ดิจิทัล การยกระดับการอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาคอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทุกมิติ


กำลังโหลดความคิดเห็น