ลำพูน - ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว สั่งจำคุก 15 ปีอดีตสาวโรงงานนิคมฯ ลำพูนหลอกหมอฟันสาวเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียน ลงทุนสูญ 68 ล้านบาท พ่วงคดีฟอกเงินกับพวกอีก 2 ราย พร้อมคืนเงินให้โจทก์ 38 ล้าน พบจำเลยนั่งรถหรูราคาหลายล้านมาฟังคำตัดสิน
ความคืบหน้ากรณีนางสาวกบ (นามสมมติ) อดีตพนักงานโรงงานนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ถูกฟ้องร้องฐานฉ้อโกงนางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก เจ้าของคลินิกทำฟันชื่อดังในตัวเมืองลำพูน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน โดยอ้างว่าได้เปิดบริษัทรับซื้อกากอุตสาหกรรมตามโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรม
ต่อมาหมอนกประกาศขายที่ดิน 6 ไร่ในราคา 7.8 ล้าน น.ส.กบจึงบอกกับหมอนกว่าสนใจซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวทำบริษัทและโรงงาน หมอนกจึงได้ขายให้ โดยโอนที่ดินไปก่อนเพื่อให้ น.ส.กบนำเอกสารโฉนดจดจำนองเข้าธนาคารเพื่อสร้างบริษัท หลังจากนั้น น.ส.กบ ยื่นกู้จากธนาคารได้ 10 ล้านบาท นำเงินให้หมอนกเพียง 3.9 ล้านบาท ค้างเงินอีก 3.9 ล้านบาท แต่เงินที่เหลือ น.ส.กบกลับนำไปจ่ายหนี้แก่เจ้าหนี้รายอื่น
จากนั้น น.ส.กบได้หลอกหมอนกลงทุนค้าหน้ากากอนามัย ลงทุนค้าเหล็กและค้าทองแดง โดยสร้างสตอรีและสร้างตัวละครหลอกหมอนกโอนเงิน รวมความเสียหายกว่า 68 ล้านบาท กระทั่ง พ.ศ. 2562 เป็นต้นมา หมอนกรู้ว่าถูกหลอกจึงแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน สู้คดีกันมายาวนาน 7 ปี
ล่าสุดวันนี้ (27 มี.ค.) ศาลจังหวัดลำพูนได้เรียกโจทก์นางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก และนางสาวกบ จำเลยที่ 1 พร้อมพวก รวม 3 คน เข้ารับฟังการตัดสินในคดีร่วมกันฉ้อโกง และคดีฟอกเงิน โดยจำเลยได้นั่งรถเบนซ์หรูราคาหลายล้านมาฟังการพิจารณาคดี ซึ่งศาลได้ใช้เวลพิจารณาและตัดสินของศาลชั้นต้นรวม 2 ชั่วโมง
โดยศาลแถลงคำตัดสินจำคุกนางสาวกบ จำเลยที่ 1 คดีฉ้อโกง และคดีฟอกเงิน 15 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 สาวคนสนิทของนางสาวกบ ศาลตัดสินจำคุกในคดีร่วมกันฟอกเงิน 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 เป็นชาย ศาลตัดสินคดีร่วมกันฟอกเงินและคดีร่วมกันฉ้อโกงจำคุก 10 ปี
นอกจากนี้ ศาลยังได้สั่งให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์รวม 38,852,556.41 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับจากวันที่ 26 มิถุนายน 2566 หรือดอกเบี้ยอัตราใหม่ตามที่เปลี่ยนแปลงโดยพระราชกฤษฎีกาบวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 จะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่การคิดดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่โจทก์ร่วมขอ
หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาคดี นางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก ซึ่งเดินออกจากศาล พร้อมสามี และญาติที่มาให้กำลังใจจำนวนมาก ได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า เราถูกพรากเงินเก็บ ทรัพย์สิน รวมทั้งเครดิตของเราทั้งหมดไป เพื่อนคนนี้ยังสร้างสถานการณ์เพื่อให้เราเติมเงินต่อยอด เอาเงินจากญาติ และต้องรับผิดชอบชดใช้หนี้ด้วยตัวเองตลอด เพื่อหวังได้เงินที่ติดค้างคืนมาทั้งหมด ก็หาเงินให้จนติดกันเป็นร่างแห จนต้องมีการดำเนินคดีและหาหลักฐานสู้คดีจนชนะคดีได้ในวันนี้
“หมออยู่มาได้ทุกวันนี้เพราะใจที่เข้มแข็งมาก และเพราะกำลังใจครอบครัว เข้าใจได้เลยถึงคนที่คิดจะฆ่าตัวตายว่าเป็นอย่างไร แต่อยู่มาได้เพราะด้วยวิชาชีพที่มีอยู่ เงินกู้ดอกเบี้ยโหดหมอก็กู้มาใช้หนี้แล้ว ใครจะว่าอย่างไรก็ตามหมอขอขอบคุณเงินกู้ดอกเบี้ยโหดด้วยที่ได้มีเงินให้ใช้หนี้มาจนถึงวันนี้ และวันนี้ น.ส.กบก็ต้องชดใช้กรรมตามที่กระทำแล้ว”
ขณะที่นายนพ (นามสมมุติ) สามีของหมอนก บอกว่า ปัญหานี้กระทบครอบครัวอย่างยิ่ง ลูกสาวคนโตไม่มีโอกาสได้ศึกษาต่อทางแพทย์ และลูกสาวคนเล็กได้รับผลกระทบจากจิตใจจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนี้ใช้ยาคลายเครียด หวังว่าจากนี้ไปอะไรๆ ก็จะดีขึ้น และขอฝากถึงผู้ตกเป็นเหยื่อขบวนการฉ้อโกงแก๊งฟอกเงินกลุ่มนี้ ทำตัวเหมือนซาลาเปาไส้ดำ ข้างนอกดูดีข้างในจิตใจดำ ใครที่ถูกแก๊งนี้หลอก ให้มาชี้ตัวและเอาผิด น.ส.กบ พร้อมพวกได้ และวันนี้ก็ได้แจ้งต่อศาลลำพูน เพื่อคัดค้านการประกันตัวไปแล้ว เพราะวงเงินที่ต้องชดใช้สูงมาก