ศูนย์ข่าวศรีราชา - ติดคุกยาวไป! หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี ใช้ จ.ชลบุรี เป็นทางผ่านขนยาบ้า 400,000 เม็ด ค่ากว่า 20 ล้านบาท จากสระบุรีมุ่งหน้าปลายทาง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง แต่ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่แม้พยายามแหกด่านหนีจุดตรวจจุดสกัดใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี สารภาพได้รับการว่าจ้างผ่านแอป CASINO สุดท้ายไปไม่ถึงฝัน
วันนี้ (16 ส.ค.) นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัธเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รองผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี และ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ อยู่ไพร ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ด้านหน้า สภ.เมืองชลบุรี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัว นายมานะ มีบ่อทรัพย์ อายุ 51 ปี ฐานลักลอบขนยาเสพติด
ยึดของกลางยาบ้า จำนวน 400,000 เม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน ยข 3448 ชลบุรี
การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนเศรษฐกิจฝั่งขาเข้า อ.บ้านบึง (ทางลงมอเตอร์เวย์หนองรี) ม.7 ต.หนองรี อ.เมืองชลบุรี กระทั่งพบรถยนต์กระบะสีดำวิ่งเข้ามายังจุดตรวจในลักษณะมีพิรุธก่อนจะเลี้ยวรถกลับชนแนวกรวยยางที่กั้นไว้มุ่งหน้าหนีเข้าเขตตัวเมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขี่รถจักรยานยนต์ และขับรถยนต์สายตรวจติดตาม
จนพบรถกระบะคันดังกล่าวเสียหลักบริเวณปั๊มน้ำมันในเขต ต.บางพระ อ.ศรีราชา จนไม่สามารถขับต่อไปได้จึงเข้าควบคุมตัวตามยุทธวิธี และเมื่อตรวจค้นภายในรถพบของกลางยาบ้า 400,000 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะและพบว่าเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาเสพยาบ้าและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างผ่านแอปพลิเคชันชื่อ CASINO ให้ไปรับยาบ้าจาก อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อนำไปส่งยัง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จึงขับกระบะมาถนนมิตรภาพมุ่งเข้ากรุงเทพฯ และใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ลงด่านหนองรี โดยจะมีชายชื่อ ขุนเดช (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ขับรถซาเล้งมารับอีกทอดหนึ่ง แต่สุดท้ายถูกเจ้าห้าที่ตำรวจจับกุมได้ก่อน
ด้าน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยว่า จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่นำร่อง 25 จังหวัดที่จะต้องดำเนินการปราบปรามยาเสพติดในระยะเร่งด่วน 3 เดือน และต้องกำหนดแนวทางป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติอย่างเป็นระบบ
จังหวัดชลบุรี จึงได้ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กำหนดมาตรการสกัดกั้น และติดตามจับกุมผู้ค้า ผู้เสพ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดโดยใช้ จ.ชลบุรี เป็นทางผ่าน พร้อมยึดของกลางจำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในเบาะหลัง