กาฬสินธุ์ - ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.สมเด็จ และผู้นำชุมชนลงพื้นที่ติดตามสภาพจิตใจของ "ขุนเดช" นายเดช
ธรรมประชา ศิลปินจิตเวชดังชั่วข้ามคืน ขณะที่โปรดิวเซอร์ค่ายเพลงรุดเยี่ยม พร้อมให้โอกาสสนับสนุนเป็นศิลปินในสังกัด และให้ความช่วยเหลือทุกด้าน เพื่อให้สุขภาพจิตหายจากเป็นจิตเวชโดยเร็ว ขณะที่ "ขุนเดช" สุดปลื้ม ลีดกีตาร์คู่ใจโชว์ลูกคอเพลงให้ฟังอีกด้วย
จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งได้แชร์คลิป หนุ่มจิตเวชดีดกีตาร์ร้องเพลงอธิษฐานลารักหน้าไฟ หรือน้ำตาลารักหน้าไฟ ที่แต่งขึ้นเอง แล้วนำมาขับร้องอย่างไพเราะ โดยปลัดอำเภอสมเด็จและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่มาติดตามประเมินผลอาการของผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มเป้าหมายพบเห็นแล้วถ่ายคลิปเผยแพร่ทางโซเชียลจนกลายเป็นไวรัลข้ามคืน มีคนเข้ามาติดตาม และคอมเมนต์ พร้อมแชร์ในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลายนั้น
ล่าสุด นายวิชาญ อิทธิฤกษ์มงคล นายอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายสถาพร วันนุกุล และนายอธิปพันธ์ วรรณศรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ ณ บ้านเลขที่ 167 หมู่ 10 บ้านโคกกว้าง ต.มหาไชย อ.สมเด็จ ซึ่งเป็นบ้านของชายจิตเวชคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายเดช ธรรมประชา หรือชาวบ้านเรียกว่า "ขุนเดช" อายุ 44 ปี โดยมีผู้นำชุมชน ชาวบ้าน มาเยี่ยมให้กำลังใจ และแสดงความยินดีที่นายเดชจากคนป่วยจิตเวชได้กลายเป็นศิลปินชื่อดังในโลกโซเชียลไปแล้วจากเพลงอธิษฐานลารักหน้าไฟ หรือน้ำตาลารักหน้าไฟ ซึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้นายเดชยังได้นำสมุดเขียนเพลงที่แต่งไว้กว่า 20 เพลงมาให้ดู พร้อมเล่นกีตาร์และร้องเพลงเพราะๆ ให้ฟังอีกด้วย
นายวิชาญ อิทธิฤกษ์มงคล นายอำเภอสมเด็จ เล่าว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 67 ที่ผ่านมาชุดปฏิบัติการฝ่ายความมั่นคง อ.สมเด็จ ได้ลงพื้นที่ติดตามและประเมินผลกลุ่มเป้าหมายที่มีอาการจิตเวช รายนายเดช ธรรมประชา ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มสีแดง ขณะทำการประเมิน นายเดชได้นำกีตาร์คู่ใจออกมาดีดและร้องเพลงคลอไปด้วย ปลัดอำเภอและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าเพราะดี จึงได้นำโทรศัพท์มาบันทึกคลิปไว้ ก่อนที่จะเผยแพร่ออกไปในเฟซบุ๊ก มีคนเข้าไปชมกว่า 3 ล้านวิว
นายวิชาญกล่าวอีกว่า หลังทราบเรื่องตนได้ลงพื้นที่พบนายเดชที่บ้าน พร้อมได้มอบสายกีตาร์และร่วมเล่นกีตาร์ร้องเพลงกับนายเดชด้วย ยอมรับว่าเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและแต่งเพลง ทั้งนี้ ทางอำเภอและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็จะได้ลงพื้นที่ประเมินสภาพจิตนายเดชเป็นระยะเพื่อให้การช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตาม ทราบว่าตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมาสภาพจิตใจของนายเดชดีขึ้นตามลำดับ
ด้านนายเดช ธรรมประชา อายุ 44 ปี หรือที่ชาวบ้านให้สมญานามว่า "ขุนเดช" เล่าว่าตนอาศัยอยู่บ้านคนเดียว เคยมีครอบครัว แต่หย่าร้างกับภรรยา ปัจจุบันหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างทั่วไป และชอบแต่งเพลง เล่นกีตาร์เป็นชีวิตจิตใจ เพลงที่แต่งส่วนใหญ่เป็นสไตล์เพลงเพื่อชีวิต อย่างเพลงอธิษฐานลารักหน้าไฟนั้นแต่งจากแรงบันดาลใจเข้ากับชีวิตตัวเองที่หย่าร้างกับภรรยา ทั้งนี้ จากการที่ตนสามารถเล่นกีตาร์และแต่งเพลงได้นั้น นอกจากจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวแล้ว ยังซึมซับมาจากคุณพ่อที่เคยเป็นคนสอนดนตรี และแต่งเพลง แต่งกลอนลำในชุมชนสมัยที่ตนยังเป็นเด็กอีกด้วย
นายเดชกล่าวอีกว่า ในส่วนที่เพลงของตนกลายเป็นไวรัลนั้น ตนไม่ทราบเพราะไม่มีโทรศัพท์เล่น ได้ยินจากชาวบ้านเล่าให้ฟังเท่านั้น ทั้งนี้ขอขอบคุณ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ที่ให้ความสนใจนำเพลงของตนไปคัฟเวอร์ และขอบคุณค่ายเพลงนาคราชคู่ที่จะเข้ามาสนับสนุนเป็นนักร้องในสังกัด
ด้านนายเทพทัต กล้าหาญ ประธานค่ายเพลงนาคราชคู่ เอนเตอร์เทนเมนท์ ได้มอบหมายนายรุ่งโรจน์ อาจนะรา และนายอภิชาติ แก้วบูโฮม 2 ศิลปินและโปรดิวเซอร์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจและสอบถามนายเดช โดยพบว่ากำลังเล่นกีตาร์และแกะเพลงตามปกติ ท่าทางอารมณ์ดีและมีความสุข
นายอภิชาตกล่าวว่า หลังจากเห็นข่าวที่กำลังเป็นกระแส จากข่าวหลายสำนักที่นำเสนอเนื้อหาข่าวของชายคนหนึ่งที่เป็นจิตเวช แต่มีความสามารถแต่งเพลงเอง ร้องเพลงได้ โดยน้ำเสียงไม่ธรรมดา จนไปเตะตาประธานค่ายเพลงนาคราชคู่ เอนเตอร์เทนเมนท์ คุณเทพทัต กล้าหาญ และบอร์ดบริหาร จึงได้เล็งเห็นในความสามารถนี้ และอยากมอบโอกาสครั้งสำคัญให้ชายคนนี้ได้ร่วมงานกับทางค่ายเพลงนาคราชคู่ ออกซิงเกิลเป็นของตัวเอง และซื้อเพลงที่เขียนไว้จำนวนมากไปทำดนตรีใหม่ รวมทั้งจะผลักดันทุกรูปแบบ เพื่อเป็นตัวแทน และขอเป็นอีกหนึ่งในกระบอกเสียงสำคัญของคำว่าโอกาสมีให้ทุกคนเสมอ เพียงเรามีใจรัก และยังสู้