กาญจนบุรี - ผบช.ภาค 7 สั่งเข้มชายแดนกาญจน์ หากพบรถยนต์หรู-บิ๊กไบค์ผ่านเข้าออกชายแดนผิดปกติให้ตรวจค้นทุกคัน โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ หวั่นแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว
วันนี้ (12 เม.ย.) พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.) หัวหน้าชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามภาค 7 หัวหน้าชุดควบคุมด่านความมั่นคงตามแผนปฏิบัติการ ตำรวจภูธรภาค 7 เรื่องการบูรณาการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามตามแผนปฏิบัติการ ตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมจงอั่ว ทางหลวงสาย 323 หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่มี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวืลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี เป็นผู้รับผิดชอบและควบคุมบังคับบัญชา
จากนั้นได้ร่วมประชุมหารือเพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและสิ่งของผิดกฎหมายทั้งทางบกและทางน้ำ จากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยมี พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สว.อก.สภ.สังขละบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.134 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ อส.อ.สังขละบุรี เข้าร่วม พร้อมทั้งกำชับในห้วงเทศกาลสงกรานต์ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตั้งจุดตรวจร่วมตามนโยบายของ ผบช.ภ.7 โดยเน้นการตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะต้องสงสัย หากพบการกระทำความผิดให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกราย โดยไม่มียกเว้น
จากนั้น พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามตามแผนปฏิบัติการ ตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ (จุดตรวจหลัก) หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยมี พ.ต.ท.คณิศร พันบุดดา รอง ผกก.ป.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ต.ประสิทธิ์ วันเพ็ญ สวป.สภ.ทองผาภูมิ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ประกอบด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปพ.ภ.7 เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.135 เจ้าหน้าที่ บก.ปส.4 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ให้การต้อนรับ
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.) หัวหน้าชุดควบคุมด่านความมั่นคงตามแผนปฏิบัติการ ตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า จังหวัดกาญจนบุรีมีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 371 กิโลเมตร มีช่องทางเข้าออกทางธรรมชาติ 43 ช่องทาง ที่ผ่านมาประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหาการสู้รบภายในอย่างรุนแรง เป็นเหตุทำให้ประชาชนของประเทศพม่าหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้หลายคดี ผู้ต้องหาหลายร้อยคน
สำหรับคดีที่ไม่มีผู้นำพา เจ้าหน้าที่ตรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้ผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทาง ส่วนคดีที่มีผู้นำพา เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่นั้นได้ดำเนินคดีและทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผล และรู้ตัวกลุ่มผู้ร่วมขบวนการแล้วหลายคดีด้วยกัน หากรวบรวมพยานหลักฐานเป็นที่แน่นหนาจะขออนุมัติออกหมายจับต่อไป
โดยในขณะนี้อยู่ในช่วงเทศกาลประเพณีวันสงกรานต์ ซึ่ง พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจต่างๆที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี สนธิกำลังเฝ้าระวังกลุ่มขบวนการลักลอบเข้ามากระทำผิดกฎหมายทุกชนิดด้วยการแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดกาญจนบุรีอย่างเคร่งครัด หากพบรถยนต์ต้องสงสัยเข้าออกชายแดนระหว่างประเทศผิดปกติขอให้ตรวจค้นทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นรถยี่ห้อหรู หรือรถจักรยานยนต์ประเภทบิ๊กไบค์ก็ตาม ให้ตรวจค้นทุกคัน แต่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังเพราะกลุ่มบุคคลเหล่านี้อาจจะมีอาวุธร้ายแรงพกติดตัวมาด้วย ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายได้
ส่วนกรณี ร.ต.ต.สมภพ ขันธ์คำ หรือหมวดหมู รอง สวป.สภ.ทองผาภูมิ ที่ตัดสินใจกระโดดขึ้นรถยนต์กระบะของขบวนการขนแรงงานเถื่อนที่แหกด่านหลบหนีไปไกลถึง 5 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนขับพร้อมแรงงานชาวพม่าเอาไว้ได้ 10 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา นับว่ายังโชคดีที่หมวดหมู นั้นได้รับบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 มีความห่วงใย จึงได้มอบรางวัลให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้เสียสละโดยแท้จริง