เชียงใหม่ - ตัวแทนชาวบ้านดอยสะเก็ด 3 ตำบลรอบศูนย์จัดการขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร อบจ.เชียงใหม่ รวมตัวชูป้ายเรียกร้องให้ปิดบ่อขยะ หลังได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นและฝูงแมลงวันนานกว่า 3 เดือน เนื่องจากมีการรับขยะเข้ามามากเกินไปจนล้นบ่อ ขณะที่รองนายก อบจ.ลงพื้นที่ประชุมร่วมทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง รับปากเร่งคลี่คลายปัญหาให้ได้ภายใน 1 เดือน
วันนี้ (1 ส.ค. 67) ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การจัดการขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านป่าตึงน้อย ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านจาก 3 ตำบลที่อยู่โดยรอบใกล้เคียง ได้แก่ ตำบลป่าป้อง, ตำบลเชิงดอย และตำบลแม่โป่ง ซึ่งได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันจากปัญหากลิ่นเหม็นรบกวนของขยะ รวมตัวกันชูป้ายเขียนข้อความสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนที่ได้รับ พร้อมทั้งสังเกตการณ์และติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา หลังจากที่วานนี้ (31 ก.ค. 67) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนและข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ผ่านนายอำเภอดอยสะเก็ด
ขณะที่ด้านในศูนย์ฯ นั้น นายสมชาติ วัฒนากล้า รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดการประชุมหารือร่วมกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครองอำเภอดอยสะเก็ด, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาลตำบลป่าป้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากที่เสร็จสิ้นการประชุมแล้ว ทางรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกมาพบพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้านเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและข้อเสนอเบื้องต้น พร้อมรับปากที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ นายสมชาติ วัฒนากล้า รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันศูนย์แห่งนี้บริหารจัดการโดยเอกชนรายหนึ่ง โดยจากการประชุมได้ข้อสรุปแนวทางเบื้องต้นในการแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นและปริมาณขยะล้น ประกอบด้วย การใช้โดรนขึ้นบินและรถดับเพลิงระดมฉีดพ่นน้ำยา EM เพื่อลดปัญหากลิ่นในระยะเร่งด่วน และจำกัดปริมาณขยะที่รับในแต่ละวันไม่เกิน 300 ตันแล้ว พร้อมติดตั้งกำแพงและผ้าใบตาข่าย (สแลน) ให้สูงขึ้น เพื่อบังลมป้องกันกลิ่นฟุ้งกระจาย
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น จะเร่งเคลียร์ขยะที่ยังคงค้างรอการกำจัดอยู่ประมาณ 30,000 ตัน ออกให้หมดแล้วเริ่มบริหารจัดการใหม่ จึงอาจต้องหยุดการรับขยะเข้ามาเพิ่ม และให้นำออกไปจากพื้นที่ก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมระบบและเสร็จแล้วค่อยมาเริ่มบริหารจัดการใหม่ ซึ่งเบื้องต้นมีการแจ้งกับทางบริษัทแล้วว่ามีเวลา 1 เดือนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้แล้วเสร็จ
ด้านนายชนัตถ์ สุทธสุวรรณ ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค. 67 เป็นต้นมาถึงทุกวันนี้เป็นระยะเวลารวมประมาณ 3 เดือนแล้วที่ชาวบ้านในพื้นที่ 3-4 ตำบลที่อยู่โดยรอบและใกล้เคียงศูนย์การจัดการขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร อบจ.เชียงใหม่ ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากกลิ่นขยะที่เหม็นรุนแรงและฝูงแมลงวันรบกวนที่เป็นพาหะของโรคต่างๆ ซึ่งผลกระทบเกิดขึ้นตลอดทั้งวันและเดือดร้อนต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ทั้งนี้ แม้ทางรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่จะได้ชี้แจงแล้ว แต่ทั้งตัวเองและชาวบ้านยังคงไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ภายในเวลา 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม เข้าใจดีว่าการแก้ไขปัญหาต้องใช้เวลา ซึ่งเบื้องต้นภายใน 1 สัปดาห์อยากให้มีการแต่งตั้งตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการควบคุมการทำงานของบริษัท และให้เร่งดำเนินการเคลียร์ขยะที่ทับถมอยู่ออกไปภายใน 1 เดือน โดยหากมีการนำขยะเข้ามาคัดแยก เมื่อเสร็จแล้วให้นำไปออกและไม่มีการฝังกลบ ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไปทางชาวบ้านจะเฝ้าติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด โดยหากไม่สามารถทำได้ เตรียมจะระดมมวลชนเคลื่อนไหวเพื่อปิดศูนย์การจัดการขยะฯ ลงให้ได้