ลำปาง - คืบหน้าแอบขนขยะข้ามถิ่นเชียงใหม่ทิ้งลำปาง ล่าสุดพบแอบใช้รถไถขยะลงแหล่งน้ำซ้ำอีกจนเหม็นคละคลุ้ง ขณะที่อำเภอประชุมวางแผนให้ 3 ตำบลรอบพื้นที่ตั้งด่านตรวจสกัด ส่วนเจ้าของพื้นที่ตามหลักฐานมีภูมิลำเนา กทม.อ้างให้เช่า
ความคืบหน้ากรณีชาวอำเภอห้างฉัตร ผู้สื่อข่าวได้แจ้งให้ทางฝ่ายปกครองอำเภอห้างฉัตร และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ห้างฉัตร เข้าจับกุมรถพ่วงบรรทุกขยะมาเต็มลำ จอดข้างทางรอนำขยะเข้าไปทิ้งในพื้นที่ของเอกชนรายหนึ่ง ในพื้นที่บ้านแม่สันเมืองยาว อ.ห้างฉัตร ลำปาง เมื่อกลางดึก 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
คนขับรับสารภาพว่าบรรทุกขยะมาจาก อบจ.เชียงใหม่ เพื่อมาทิ้งในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร ก่อนหน้านี้ได้นำมาทิ้งแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบเดือนกรกฎาคมนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบเอกสารการขนย้ายขยะข้ามถิ่น แต่ปรากฏว่าคนขับมีเพียงใบส่งสินค้าที่ระบุว่าต้นทาง อบจ.ลำปาง ปลายทาง ปูนซิเมนต์ลำปาง ที่ใช้ตบตาเจ้าหน้าที่เท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวพร้อมอายัดรถไว้
ล่าสุดวันนี้ (26 ก.ค.) นายปิตุพงศ์ เทพวีระพงศ์ ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อ.ห้างฉัตร เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุทางนายอำเภอห้างฉัตรได้เชิญส่วนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เทศบาลตำบลเวียงตาล เทศบาลตำบลปงยางคก เทศบาลตำบลแม่สัน นิคมสหกรณ์ห้างฉัตร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร มาพูดคุยและหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้มีการลักลอบนำขยะเข้ามาทิ้งในพื้นที่อีก โดยต้นเดือนสิงหาคม เป็นต้นไปจะจัดกำลังผู้นำท้องถิ่นทั้ง 3 ตำบลลาดตระเวนและตั้งด่านในเส้นทางสายรองในช่วงเวลาตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป
ขณะที่เทศบาลตำบลปงยางคกเจ้าของพื้นที่ที่พบมีการลักลอบนำขยะต่างถิ่นเข้ามาทิ้ง ได้มีการเข้าแจ้งความต่อเจ้าของพื้นที่ที่มีชื่อตามโฉนด คือ นายสราวุธ จินารักษ์พงศ์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ กทม. เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา และเพื่อให้มานำขยะทั้งหมดออกนอกพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ลงตรวจสอบจุดที่มีการลักลอบนำขยะมาทิ้ง พบว่าบริเวณปากทางเข้าได้มีการนำกิ่งไม้มาพาดไว้พร้อมปิดล็อกกุญแจ 2 ชั้น และป้ายระบุว่าพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้ามาติดไว้ และเมื่อตรวจสอบดูบริเวณจุดที่เคยมีกองขยะเต็มก็พบว่ามีการใช้รถไถดันขยะหายไปหมดเหลือเพียงกองดินบางส่วนเท่านั้น
แต่เมื่อเดินไปตามแนวรั้วข้างถนนก็พบว่าขยะทั้งหมดถูกดันลงไปอยู่ในอ่างน้ำที่มีการขุดไว้และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นออกมาภายนอก ซึ่งคาดว่าช่วงกลางดึกน่าจะมีการแอบนำรถไถเข้าไปไถกลบและดันขยะลงไปในบ่อซึ่งมีน้ำขังจำนวนมากเพื่อปกปิดหลักและทำลายหลักฐาน โดยที่หน่วยงานท้องถิ่นมิได้ดำเนินการมาตรการป้องกันการทำลายขยะแบบไม่ถูกวิธีไว้เลย