นครสวรรค์ – เสียงขว้างปาปริศนาเงียบกริ๊บทั้งหย่อมบ้าน..ตามพิสูจน์ชาวบ้านนครสวรรค์ 5 ครัวเรือน อ้างเจอสิ่งลี้ลับจนหลอนทั้งหย่อมบ้าน มีทั้งสาดหินปริศนาถล่ม-ไฟลุกไหม้ไม่รู้ที่มา-จยย.สตาร์ทเอง แต่พอเฝ้าดูจนค่อนคืน ทุกอย่างเงียบสงบ
ตั้งแต่ 19.00-22.00 น.ที่ผ่านมา(5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหมู่ 7 ต.กลางแดด อ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อติดตามสถานการณ์ที่ชาวบ้าน 5 ครัวเรือน เชื่อว่าเจอกับสิ่งลี้ลับมาร่วม 2 เดือน หลังเก็บถุงพระเครื่องเก่าจากกองขยะ แล้วโดนก้อนหินปริศนาปาใส่บ้านแทบทุกคืน-ไฟลุกไหม้เสื้อผ้าโดยไม่ทราบสาเหตุ-รถจยย.สภาพเก่า/ไม่มีปุ่มสตาร์ทมือ ติดเครื่องเอง ขณะที่คนในหมู่บ้านส่วนหนึ่งเชื่อเป็นอาถรรพ์สิ่งลี้ลับ บ้างว่างมงาย
โดยปักหลักสักเกตุการณ์อยู่ที่หน้าบ้านนางทุเรียน คนต้นเรื่องที่เก็บถุงพระจากกองขยะ พบนางทุเรียนกำลังพูดคุยอยู่กับนางสรญา สิงห์เถื่อน เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างกันไปประมาณ 5 เมตร จึงได้สอบถามเกี่ยวกับทิศทางของหินที่ถูกปาใส่บ้าน นางสรญา ระบุว่า ที่บ้านของตนไม่ใช่โดนแค่หินปา แต่ยังถูกปาด้วยขวดเครื่องดื่มชูกำลังด้วย
ส่วนเมื่อคืนนี้ แม้ที่บ้านของนางทุเรียนจะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ที่บ้านของตนกลับได้ยินเสียงต้นไม้บริเวณข้างบ้านถูกปาขวดใส่ และเสียงที่โดนปา ก็น่าจะเป็นขวดแก้ว จึงนอนรอให้ถึงเช้าแล้วเดินดูร่องรอย แต่ไม่พบขวด หรือเศษแก้วแตกกระจาย อยู่ในบริเวณบ้านเลย
ส่วนทิศทางที่บ้านของตนโดนปาประจำ ก็มักจะมาจากทิศทางของบ้านนางทุเรียน แต่บ้านนางทุเรียน โดนหนักกว่า เพราะมาแบบรอบทิศทาง ตนก็ไม่รู้ว่าผีตนใดไปโกรธแค้นบ้านนางทุเรียนแกหนักหนา เพราะเขาไม่ได้โดนแค่ก้อนหินเท่านั้น สิ่งของที่อยู่ภายในบ้านของนางทุเรียน ทั้งฝาหม้อและเครื่องใช้อื่นๆ ที่อยู่ภายในบ้านถูกเอาออกมาขว้างปาใส่บ้านด้วย
จังหวะเดียวกัน ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยอยู่กับนางสรญาและนางทุเรียน นายปุ๊ก อายุ 15 ปี หลานชายที่พักอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับนางทุเรียน และชุดนักเรียนถูกไฟไหม้เสียหายไปถึง 5 ชุด ได้เดินกลับมาบ้าน ด้วยสีหน้าที่ดูเบลอๆ พร้อมเล่าว่า เมื่อคืนข้างบ้านตน ก็โดนก่อกวน มีเสียงป็อกๆ แป็กๆ เกิดขึ้น ส่วนตนที่รีบเดินกลับบ้านมา เพราะรู้สึกร้อนท้อง หลังจากให้หลวงพ่อวัดกลางแดดทำพิธีอาบน้ำมนต์ให้
“หลังจากทำพิธีรดน้ำมนต์ ก็รู้สึกร้อนวูบวาบแสบท้องไปหมด แต่ไม่นานก็หาย จึงได้เดินทางกลับมาที่บ้าน พร้อมกับนำน้ำมนต์ที่หลวงพ่อให้มาดื่มกลับมาด้วย 2 ขวด ซึ่งตอนไม่ดื่มน้ำมนต์ ก็ไม่รู้สึกอะไรเลยนะ เป็นปกติดีทุกอย่าง แต่พอเอามาเทใส่ขันแล้วดื่ม มันก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที” นายปุ๊กกล่าว พร้อมกับดื่มน้ำมนต์โชว์ ผลปรากฏว่า นายปุ๊กตกอยู่ในสภาพหน้าตาอาการไม่ค่อยดีนัก ก่อนที่จะบอกร้อนและพะอืดพะอม จากนั้นก็รีบหันหน้าลงไปนั่งอ้วกนอกบ้านทันที
ต่อมา ผู้สื่อข่าวก็ได้เดินเท้าไปพบนายสมพร กันทะวัง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆกันกับบ้านของนางทุเรียน ซึ่งพาไปดูจุดหลังคากระเบื้องที่ได้รับความเสียหาย ถูกปาแตกเป็นรูหลายจุด พร้อมถือกล่องที่บรรจุก้อนหินทั้งใหญ่เล็กที่เก็บได้มาโชว์ดู จึงได้ถามถึงแหล่งที่มาของหินที่เก็บได้
เจ้าตัวยืนยันว่า หินพวกนี้ ไม่ได้อยู่รอบบริเวณบ้านของตนแน่นอน ซึ่งดูแล้ว น่าจะเป็นหินจากภูเขา พร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือมาเปิดรูปภาพ ที่ระบุว่า เป็นภาพถ่ายรอยอักษรที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นภาษาอะไร เขียนไว้บนพื้นบริเวณรอบบ้านทั้งบ้านตน บ้านนางทุเรียน และบ้านของเพื่อนบ้านอีก 3 หลัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครมาเขียนไว้ แต่มันเกิดขึ้นในช่วงที่โดนสิ่งลี้ลับเล่นงาน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้เฝ้ารอสังเกตการณ์จนถึง 4 ทุ่ม ก็ยังไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติ ก่อนที่ภรรยาของนายสมพร จะให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่มีข่าวเกิดขึ้น เสียงถูกปาหินที่เคยได้ยินเกือบทุกคืนก็หายไปหมด โดยเฉพาะที่บ้านของตน ไม่มีหินปาใส่บ้านมา 2 คืนแล้ว ส่วนที่บ้านของนางทุเรียน ก็ไม่มีเสียงอะไร จะมีเพียงแต่บ้านของนางสรญาเท่านั้น ที่เขาบอกว่ามีเสียงปาขวดใส่โดนต้นไม้
แต่ในขณะที่ผู้สื่อข่าวตั้งหน้าตั้งตาอรอจะเจอสิ่งลี้ลับอยู่ในขณะนี้ ก็ยังไม่เจอเหตุการณ์ผิดปกติอะไร แถมคืนนี้ไม่พบว่ามีชาวบ้านคนใดมาร่วมเฝ้าดูเหตุการณ์เหมือนวันก่อนๆ ด้วย