xs
xsm
sm
md
lg

เตือนชาวสวนแม่กลอง! อย่าแห่ปลูก "มะพร้าวน้ำหอม" แทนไม้ผลเดิม หวั่นอนาคตล้นตลาดราคาร่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - เกษตรสมุทรสงครามเตือนชาวสวน อย่าเร่งปลูกมะพร้าวน้ำหอม หวั่นล้นตลาด ราคาอาจตกต่ำได้ ขณะที่จีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ พม่า และลาว เริ่มปลูกกันเองแล้ว แนะควรปลูกพืชหลากหลาย มีโอกาสสร้างรายได้หลายทาง และมีรายได้ตลอดปี


นายประสิทธิ์ สิงห์ชา เกษตร จ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า  จ.สมุทรสงคราม มีพื้นที่รวม 260,442 ไร่ เป็นพื้นที่การเกษตร 176,089 ไร่ มีครัวเรือนเกษตรกร 18,247 ครัวเรือน ปี 2567 มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร 10,995 ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูกมะพร้าวใหญ่ หรือมะพร้าวแกง 67,338 ไร่ พื้นที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอมปี 2566 จำนวน 11,610 ไร่ ให้ผลผลิต 34,625 ตัน ส่วนปี 2567 เพิ่มเป็น 11,926 ไร่ คาดว่าจะให้ผลผลิตประมาณ 33,418 ตัน

สาเหตุที่พื้นที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอมเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ชาวสวนขายมะพร้าวน้ำหอมได้ราคาดีลูกละ 44-45 บาท ขณะที่ปกติจะขายได้ลูกละ 5-20 บาทเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ชาวสวนบางรายตัดโค่นต้นลิ้นจี่ทิ้งเพราะให้ผลผลิตบ้างไม่ให้บ้างขึ้นกับสภาพอากาศ ขณะที่บางรายตัดโค่นต้นมะพร้าวแกง แล้วหันมาปลูกมะพร้าวน้ำหอมแทนเพราะใช้เวลา 2 ปีกว่า หรือ 3 ปีก็ให้ผลผลิตแล้ว ตัดลูกขายได้ทุก 20-25 วันตลอดปี ประกอบกับต้นทุนต่ำกว่า เพราะไม่ต้องเสียค่าแรงงานเก็บผลผลิต เนื่องจากผู้ซื้อนำมาเอง ส่วนชาวสวนคอยดูการนับจำนวนมะพร้าวแล้วรับเงิน จากนั้นดูแลความสะอาดสวน และใส่ปุ๋ยบำรุงต้น

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การที่ชาวสวนหันมาปลูกมะพร้าวน้ำหอมกันมากขึ้นอาจส่งผลกระทบหลายด้าน เนื่องจากตามข้อเท็จจริงราคามะพร้าวน้ำหอมจะเป็นไปตามกลไกของตลาด และปริมาณมะพร้าวว่ามากหรือน้อย เช่น ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนของทุกปี ราคามะพร้าวน้ำหอมหน้าสวนจะสูงเพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตน้อย ชาวสวนเรียกว่า “มะพร้าวขาดคอ” เนื่องจากมะพร้าวน้ำหอมใช้เวลาประมาณ 8 เดือนจึงจะเก็บผลผลิตได้ ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนย่างเข้าสู่ฤดูหนาวมะพร้าวซึ่งสะสมอาหารมาจากฤดูฝนจะส่งอาหารไปเลี้ยงใบเป็นส่วนใหญ่ทำให้การสร้างช่อดอกน้อย ผลผลิตจึงลดลงดังกล่าว

วิธีแก้ไขจะต้องใส่ปุ๋ยตามสภาพดินช่วงปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป เพื่อให้ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม มะพร้าวน้ำหอมจะไม่ขาดคอ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ราคามะพร้าวน้ำหอมลดลงอยู่ที่ลูกละ 18-20 บาท เนื่องจากผลผลิตเริ่มมากขึ้นและจะมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการขนส่งไปต่างประเทศทางเรือปัจจุบันเร็วขึ้น จึงมีระยะเวลารับซื้อได้นานโดยไม่ต้องเร่งรีบ ทำให้พ่อค้าคนกลางมีโอกาสต่อรองราคากับชาวสวนเพื่อให้ได้ราคาที่พอใจ

สำหรับตลาดมะพร้าวน้ำหอมส่งออกต่างประเทศจีนเป็นตลาดใหญ่ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์บริโภคภายในประเทศและนำไปแปรรูป แต่ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าประเทศจีน พม่า และลาว เริ่มปลูกมะพร้าวน้ำหอมแล้ว แต่รสชาติจะเป็นอย่างไรเท่านั้น เพราะสภาพพื้นที่ไม่เหมือนกัน 

ดังนั้น หากมะพร้าวน้ำหอมล้นตลาดราคาจะถูกลง จึงแนะนำชาวสวนอย่าโค่นไม้ผลที่ให้ผลผลิตแล้วทิ้ง เพราะกว่าจะปลูกและให้ผลผลิตได้แต่ละชนิดใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี กับให้ทำเกษตรอย่างยั่งยืนด้วยการปลูกพืชสวนที่หลากหลาย เนื่องจากหากปลูกพืชหลากหลายจะเกิดรายได้ทั้งปีเพราะเกษตรกรมีรายจ่ายทุกเดือน ทั้งค่าปุ๋ย ค่าดูแลสวน อีกทั้งการปลูกพืชที่หลากหลายยังจะสร้างโอกาสทางการตลาดได้มากขึ้นด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น