xs
xsm
sm
md
lg

โออาร์-คาเฟ่อะเมซอนชูธงหนุนเกษตรกรเชียงใหม่-น่าน ปลูกกาแฟสู้ฝุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - โออาร์นำร่องแก้วิกฤตฝุ่น PM 2.5 ให้ยั่งยืน เดินหน้า ‘โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน’ ทั้ง แม่แจ่ม เชียงใหม่-ปัว น่าน Café Amazon ร่วมพัฒนาเกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ปลูกกาแฟร่วมกับไม้ร่มเงาเศรษฐกิจ ลดเผาไร่เผาป่า รับซื้อเมล็ดกาแฟ ตั้งโรงแปรรูปพร้อม



หลังเกิดวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ทั้งในเมืองใหญ่หรือพื้นที่ที่ห่างไกลในต่างจังหวัด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ตลอดจนภาคธุรกิจ โดยเฉพาะภาคเหนือ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุหลักคือการเผาป่าและพื้นที่การเกษตรเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกในฤดูกาลใหม่

โออาร์จึงได้ดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงนี้ ด้วยความเชี่ยวชาญของคาเฟ่ อเมซอน โออาร์จึงได้พัฒนา "โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน" ที่ ต.ท่าผา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ อ.ปัว จ.น่าน

มุ่งเน้นการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของธุรกิจคาเฟ่ อเมซอน ตั้งแต่การลงพื้นที่ศึกษาปัญหาจริง การให้ความรู้แก่เกษตรกรปลูกกาแฟ การปลูกกาแฟร่วมกับไม้ร่มเงา (พืชเศรษฐกิจ) เพื่อช่วยลดการเผาป่าทำไร่เลื่อนลอย ลดการใช้สารเคมียาฆ่าแมลง ทำให้ลดมลพิษต่างๆ ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น จนถึงการรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรโดยตรงด้วยราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้เกษตรกร ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านสู่วิถีการเกษตรอย่างยั่งยืน ไม่ต้องพึ่งพาการเผาพื้นที่เกษตรแบบเดิมๆ อีกต่อไป นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศในระยะยาว

โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนชุมชนบ้านสามสบ และบ้านแม่ยางส้าน ต.ท่าผา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองเชียงใหม่กว่า 120 กิโลเมตร ในอดีตชุมชนนี้เคยได้รับการส่งเสริมให้ปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิกากันเกือบทุกครัวเรือน แต่ด้วยปัญหาสำคัญจากเส้นทางเดินทางเข้าหมู่บ้านค่อนข้างลำบากมาก จึงไม่ค่อยมีพ่อค้าและตลาดเข้าไปรับซื้อผลผลิตในพื้นที่ และผลผลิตที่ขายได้ก็มักจะถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงเลิกและตัดต้นกาแฟทิ้งกันเกือบหมด หันไปทำไร่ข้าวโพด ฟักทอง หอมแดง และข้าวไร่ แทนจนเกิดถางป่าในพื้นที่ป่าต้นน้ำเป็นจำนวนมาก มีการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงอย่างรุนแรงเพื่อเร่งปริมาณผลผลิต ส่งผลต่อการสะสมของสารเคมีในดิน และตามมาด้วยปัญหาด้านสุขภาพของตัวเกษตรกร

โออาร์ โดย คาเฟ่ อเมซอน จึงได้พัฒนาโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ต.ท่าผา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อขยายผลองค์ความรู้การทำงานพัฒนาการปลูกและการผลิตกาแฟร่วมกับภาคีเครือข่ายในหลายพื้นที่เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ที่ยังขาดโอกาสในการพัฒนาทักษะความรู้ได้มีองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าผ่านการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรให้ปลูกและผลิตกาแฟให้ได้ผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ควบคู่การอนุรักษ์ธรรมชาติ

โดยนำต้นแบบการปลูกกาแฟภายใต้ไม้ร่มเงา (ไม้เศรษฐกิจ) มาส่งเสริมในพื้นที่ ช่วยลดการเผาป่าทำไร่เลื่อนลอย ลดการใช้สารเคมียาฆ่าแมลง ทำให้ลดมลพิษต่างๆ ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และยังเป็นช่องทางในการจำหน่ายเมล็ดกาแฟด้วยระบบราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่แน่นอนและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนได้ขยายการดำเนินโครงการไปยังพื้นที่ อ. ปัว จ.น่าน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโออาร์ กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ มอบโรงเพาะกล้า โรงตากกาแฟ และระบบท่อน้ำเพื่อส่งเสริมการปลูกกาแฟให้แก่เกษตรกร

และเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของ OR 2030 Goals ให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืนและบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 ตลอดจนมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2593

โออาร์ได้จัดตั้งโรงแปรรูปเมล็ดกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ตั้งอยู่ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดรับซื้อผลผลิตเมล็ดกาแฟกะลาอะราบิกาในพื้นที่ภาคเหนือ จากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโดยตรงในราคาที่เป็นธรรม และเป็นสถานที่แปรรูปเป็นกาแฟสารที่มีคุณภาพ ก่อนที่จะจัดส่งให้โรงคั่วกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน เพื่อคั่วและจำหน่ายไปยังร้านคาเฟ่ อเมซอนทั่วประเทศ และยังเป็นศูนย์พัฒนาทักษะความรู้ในการปลูก ผลิตและแปรรูปกาแฟให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น