กาญจนบุรี - รมว.พลังงาน มอบเสธ.หิมาลัย ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีปั๊มเติมน้ำให้ลูกค้า กำชับหาต้นตอที่มาของน้ำให้ได้ ด้านพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแล้วแต่เจ้าของยังไม่มาเข้าพบ
จากกรณีสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี เติมน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล B7 ผสมน้ำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท แต่ปรากฏว่าน้ำมันเชื้อเพลิงมีน้ำเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้เครื่องรถยนต์กระบะน็อก ได้รับความเสียหาย ต่อมาผู้เสียหายได้นำคลิปวิดีโอขณะที่พนักงานบีบน้ำมันออกจากหัวจ่ายใส่ลงไปในภาชนะที่เป็นน้ำ นำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวจนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ
ต่อมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ ที่ปรึกษา พร้อมด้วยนางนิภา ศรแก้ว ผู้อำนวยการกองคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง นายอัครเดช ศุกระกาญจน์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรมธุรกิจพลังงาน และนางสมนึก สิทธิการณา พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับ พล.ต.ต.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 (ผบก.ศพฐ.7) พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 พ.ต.อ.สรวิชญ์ บัวกลิ่น ผกก.สภ.หนองปรือ พ.อ.ทวี ดอนวิจิตร หัวหน้ากลุ่มงานประสานความมั่นคง กอ.รมน.จังหวัดกาญจนบุรี ร.ต.ท.ทัศเทพ เพร็ชศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ร้อยเวรเจ้าของคดี ลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานรอยรั่วของถังน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (15 พ.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มอบหมายให้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ ที่ปรึกษา พร้อมด้วย นางสมนึก สิทธิการณา พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี นายธนานนท์ ศรีสำราญ วิศวกรปฏิบัติการสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี เมื่อมาถึง พ.ต.อ.สรวิชญ์ บัวกลิ่น ผกก.สภ.หนองปรือ จึงเชิญคณะเข้าประชุมหารือที่ห้องประชุม ศปก.สภ.หนองปรือ โดยมี พ.ต.ท.เกรียงไกร นาคแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ร.ต.ท.ทัศเทพ เพร็ชศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ร้อยเวรเจ้าของคดีเข้าร่วม
โดยในที่ประชุม ดร.หิมาลัย ได้สอบถามถึงความคืบหน้าของคดี โดยทาง ผกก.สภ.หนองปรือได้แจ้งว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายเอาไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งได้ส่งหมายเรียกครั้งที่ 1 ไปถึงเจ้าของปั๊มน้ำมันให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมให้นำเอกสารต่างๆ มามอบให้ โดยหมายเรียกได้ส่งไปที่ปั๊มน้ำมัน 1 หมาย และส่งไปตามภูมิลำเนาที่อยู่ตามบัตรประชาชน 1 หมาย และกำหนดให้เจ้าของปั๊มมาพบพนักงานสอบสวนไม่เกินวันที่ 23 พ.ค.ที่จะถึงนี้ หากเจ้าของปั๊มไม่มากจะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 โดยหากครบกำหนดยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีกจะออกหมายจับทันที
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีข้อสงสัยว่าน้ำที่เข้าไปปนเปื้อนกับน้ำมัน จำนวน100 ลิตร นั้น น้ำเข้าไปได้อย่างไร ซึ่ง ดร.หิมาลัย ได้กำชับให้ ผกก.สภ.หนองปรือ รวมทั้งพนักงานสอบสวนเร่งรัดหาข้อเท็จจริงมาให้ได้โดยเร็ว ซึ่งการประชุมหารือใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ดร.หิมาลัย กล่าวภายหลังว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อต้องการติดตามผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจาก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีข้อสงสัยอยู่ในหลายประเด็น และต้องการทราบข้อเท็จจริงมาในน้ำมันดีเซล B7 ที่เติมรถยนต์ให้ลูกค้านั้นมีน้ำเข้ามาปนในขั้นตอนไหน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการไม่ให้เป็นข่าวด้วยซ้ำไป แต่ต้องการให้หาคำตอบให้ได้ เพราะรองนายกฯ ให้ความสำคัญมาก เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการทุกรายให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ พลังงานจังหวัดทุกจังหวัดให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะต้องมาหาสาเหตุให้ได้ว่าน้ำเข้าไปปนกับน้ำมันได้อย่างไร
โดยในวันนี้ได้ความคืบหน้ามาในระดับหนึ่งจากการสอบถามน้องชายของเจ้าของปั๊มรวมทั้งเจ้าหน้าที่ แต่จนถึงขณะนี้ทางเจ้าของปั๊มน้ำมันยังไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากทางพนักงานสอบสวนยังต้องการเอกสารอีกหลายอย่าง เช่น เอกสารยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุบริษัทหรือใครเป็นผู้มาส่งน้ำมัน เพื่อพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ว่าใครเป็นคนขับรถ และรถบรรทุกน้ำมันมีสภาพอย่างไร ต้นทางของน้ำมันมาจากที่ใด เพื่อจะได้ทราบว่าน้ำถูกนำเข้าไปที่ถึงในช่วงใด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องหาคำตอบให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้เสนอการตั้งยุทธศาสตร์น้ำมันแห่งชาติ สำรองน้ำมันแห่งชาติ เพื่อที่จะได้มีน้ำมันสำรองของประเทศ เพื่อที่จะใช้น้ำมันสำรองนั้นพยุงราคาน้ำมันต่อไป โดยจะได้ชวนนักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาตั้งโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเพื่อทำการส่งออก อีกทั้งยังมีแนวคิดการเก็บภาษีเป็นน้ำมันเพื่อนำมาเป็นน้ำมันสำรองเอาไว้ใช้ในยามประเทศเกิดวิกฤต ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับนโยบายและพยายามที่จะแก้ไขอยู่
ในวันนี้ได้พยายามแก้ไขประกาศแจ้งไปยังกองทุนน้ำมันสำรองแล้ว อาหาร เช่น มาม่า ปลากระป๋อง หมู เห็ด เป็ด ไก่ หรืออาหารทั่วไปยังมีการควบคุมราคา ซึ่งผู้ผลิตอาหารยังต้องแจ้งต้นทุน ดังนั้นน้ำมันเป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนต้องใช้และเป็นพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ แล้วทำไมจึงไม่มีการแจ้งต้นทุน
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องน้ำเป็นจำนวนมากที่เข้าไปปะปนกับน้ำมันนั้นทางพนักงานสอบสวน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือจะต้องเร่งหาคำตอบมาให้ได้ ถามว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการรู้ว่าการกระทำแบบนี้มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับรัฐบาลชุดนี้ และนายพีระพันธุ์ มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องติดตามให้ถึงที่สุด และเราไม่ได้มองว่าเป็นเคสเล็กๆ และไม่ได้มองว่าเงินเติมน้ำมันไปไม่กี่บาท ใช่ว่าผู้ประการจะชดใช้ให้ผู้เสียหายแล้วเรื่องก็จบกันไป ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้น แต่มันจะต้องตอบสังคมให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เจ้าของปั๊มตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เพื่อที่ต่อไปนั้นจะได้พึงระวัง
ที่ผ่านมา พลังงานจังหวัดและพนักงานสอบสวนได้พยายามอย่างเต็มที่แต่ผู้ตัดสินก็คือท่านผู้พิพากษา โดยท่านจะพิจารณาเองว่า ผู้กระทำควรจะได้รับโทษมากน้อยแค่ไหน ส่วนกล้องวงจรปิดที่มีไม่รู้เป็นอะไรอยู่ๆ ก็เสีย หรือว่าเป็นเป็นระบบของประเทศไทยเรา ในเรื่องที่ดีกล้องวงจรปิดจะใช้ได้ แต่เมื่อถึงเรื่องที่ไม่ดีกล้องวงจรปิดจะเสียทุกที
