กำแพงเพชร - มูเซอหนุ่มช่วยพี่ขายทุเรียนในตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชร งัดลูกล่อลูกชนคุยเล่นกับลูกค้าไม่พอ โชว์ลูกคอร้องเพลงลูกทุ่งให้ฟังพร้อมสรรพ จนคนติดใจแห่รอคิวซื้อตรึมทุกวัน
ร้านขายผักเจ๊ขวัญ ตั้งอยู่ในโซนขายผักตลาดศูนย์การค้า ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร ขณะนี้กล่าวได้ว่าคึกคักผิดหูผิดตากันเลยทีเดียว จากปกติร้านนี้จะขายแต่ผักหลากหลายชนิด แต่ช่วงที่ทุเรียนออกสู่ตลาดทางร้านจะนำทุเรียนมาขายด้วย ซึ่งทุเรียนที่ร้านนี้นำมาขายเป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ลูกเล็กราคาถูกกิโลกรัมละ 120 บาท ขนาดกลางขายกิโลกรัมละ 150 บาท ถูกกว่าทุเรียนลูกใหญ่ซึ่งขายกันกิโลกรัมละประมาณ 180- 200 บาท
นอกจากราคาถูกแล้ว คนที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามารุมคือคนขายที่ชื่อนายวรภาส เดชบรรพต อายุ 39 ปี หนุ่มชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอ และเป็นน้องชายของเจ้าของร้าน ซึ่งมีเทคนิคและลูกล่อลูกชนในการขาย สามารถสร้างความสนุกสนานให้ลูกค้าที่มายืนรอซื้อเต็มหน้าร้าน ช่วงที่กรีดทุเรียนให้ลูกค้าก็จะร้องเพลงลูกทุ่งไปด้วย ซึ่งซุ่มเสียงก็มีความไพเราะไม่แพ้นักร้องมืออาชีพ
นายวรภาสจะพูดคุยกับลูกค้าแบบเป็นกันเอง เอาใจลูกค้าด้วยการเลือกทุเรียนเสร็จก็กรีดให้ดูเนื้อพร้อมบอกว่าทุเรียนร้านของตนแค่เห็นเนื้อก็อร่อยติดใจแล้ว เลือกจนพอใจชั่งน้ำหนักแล้วบอกราคา ถ้าลูกค้าต่อราคานายวรภาสก็จะบอกว่า..อย่าต่อเลยครับ ผมเป็นแค่ลูกจ้างรับจ้างขายทุเรียนได้เงินวันละ 350 บาทเท่านั้น ลูกค้าก็เลยไม่ต่อ แต่นายวรภาสก็จะตัดเศษให้บ้างตามสมควร
ช่วงที่กรีดลูกทุเรียนเพื่อให้ลูกค้านำกลับพร้อมรับประทาน นายวรภาสจะร้องเพลงซึ่งเป็นเพลงลูกทุ่งที่ติดหูคนฟังด้วยน้ำเสียงที่เพราะพริ้ง ลูกค้าบางคนที่ชอบใจถึงกับปรบมือให้ด้วย ในช่วงที่จ่ายเงินถ้าเป็นแบงก์ 500 บาท หรือ 1,000 บาท นายวรภาสก็จะมีลูกเล่นว่า เห็นมั้ยครับนี่เป็นตัวอย่างที่ดี ซื้อของไม่ถึงส่วนที่เหลือลูกค้าจะทิปให้ด้วย ทำให้ลูกค้าต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในลูกเล่นของคนขาย และจากเทคนิคการขายของนายวรภาส ทำให้คนซื้อมารุมเต็มหน้าร้านต้องใช้คนมาช่วยขายถึง 4-5 คนยังกรีดไม่ทันขาย
ส่วนสาเหตุที่ทางร้านนำทุเรียนลูกเล็กมาขายในราคาถูก เนื่องจากช่วงนี้สภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ประกอบกับช่วงนี้ใกล้เปิดเทอมแล้ว ผู้ปกครองต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าเทอม ค่าเสื้อผ้าและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ทำให้ต้องประหยัดการใช้เงิน ดังนั้นแทนที่จะหาซื้อทุเรียนเกรดเอลูกใหญ่ จึงหันมาซื้อทุเรียนลูกเล็กแทน และนอกจากลูกเล็กแล้วบางคนทก็นิยมซื้อลูกขนาดกลางๆ
นายวรภาสเปิดเผยว่า เดิมตนเป็นพนักงานบริษัทขายเครื่องเสียงและลำโพงไปทั่วประเทศ ในการขายเครื่องเสียงและลำโพงต้องทดลองให้ลูกค้าฟัง จึงต้องใช้เทคนิคในการพูด และยังต้องร้องเพลงอีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้ฟังเสียงก่อนซื้อ ดังนั้นจึงติดการพูดและร้องเพลง ส่วนที่มาขายทุเรียนครั้งนี้เป็นการขายครั้งแรก ที่สามารถขายทุเรียนได้เนื่องจากแฟนอยากกินทุเรียน จึงให้ตนเป็นคนเลือกคนแกะ ประกอบกับไปยืนดูพ่อค้าเลือกทุเรียน ฟังเสียงเคาะลูกทุเรียนแล้วจำมา สำหรับการร้องเพลงตนอยากให้ลูกค้าที่มายืนรอนานๆ แล้วรู้สึกเบื่อ จึงร้องเพลงเป็นการเอนเตอร์เทนลูกค้า เพราะอย่างน้อยก็มีลูกเล่นให้ลูกค้าไม่เบื่อและได้ฟังเพลงบ้าง ส่วนใหญ่ลูกค้าก็พอใจ