กำแพงเพชร - เกิดไฟปริศนาไหม้บ้านหลังงามท้องที่ท่าขุนราม..เปลวเพลิงคลอก จนท.สาวการเงิน กกต.กำแพงเพชรเมืองกล้วยไข่ ภรรยาเจ้าของบ้านเสียชีวิตคาห้องครัว พร้อม จม.ระบุข้อความสั่งเสีย-ตัดพ้อมือที่สาม วางหน้าศาลพระภูมิเจ้าที่
พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ ปาณะคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 198 หมู่ที่ 6 ต.ท่าขุนราม อ.เมืองกำแพงเพชร เย็นวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ไพศาล คล้ายแก้ว รอง ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร และประสานสถานีดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำ-องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่ใกล้เคียง นำรถน้ำ 5 คัน และอาสาสมัครกู้ภัยสมาคมหน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชรเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด พบเพลิงไหม้ลุกลามรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ พบเพลิงเผาบ้านวอดเสียหายทั้งหลัง จากการตรวจสอบภายในห้องครัวชั้นล่างด้านหลังบ้านพบศพนางสาวทรรฒพร บุญเปี่ยม ชื่อเล่นว่า "เอ" อายุ 49 ปี ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่พนักงานการเงินและบัญชี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำแพงเพชร
สภาพศพนอนหงาย ถูกไฟคลอกไหม้ดำเป็นตอตะโก มีอวัยวะภายในออกมาบริเวณหน้าท้อง เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมข้อมูลที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะให้อาสาสมัครกู้ภัยสมาคมหน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชรนำร่างผู้เสียชีวิต ส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชรเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
ตรวจสอบโดยรอบพบว่าบริเวณด้านหน้าของบ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ตรงศาลพระภูมิทางเข้าหน้าบ้านมีแผ่นกระดาษหลายแผ่นวางซ้อนกันไว้ โดยใช้แจกันปักธูปวางทับด้านบน ในแผ่นกระดาษตรวจสอบคาดว่าจะเป็นลายมือของผู้ตาย
แผ่นแรกเขียนไว้ว่า.."ในเมื่อเอเหลือแต่ตัว เพราะอะไรพี่ลองเป็นแบบเอบ้างนะ" สองแผ่นต่อมาจะเป็นการเขียนในเชิงตัดพ้อต่อว่า ตั้งแต่ชีวิตอยู่ร่วมกันมา กับการก่อร่างสร้างตัวเพื่อครอบครัวที่มีพ่อแม่และลูก แต่ต่อมามีมือที่สาม ทำให้เกิดปัญหามาอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายตนเองต้องย้ายออกจากบ้านที่ร่วมสร้างกันมา พร้อมกับหลายเหตุการณ์ที่มีปัญหาเกิดจากบุคคลที่สาม ทำให้ตนเคยคิดกินยาฆ่าตัวตายมาแล้ว
จนตอนนี้ตนเองเครียดซึมเศร้าจากปัญหาที่ถาโถมเข้ามา สามีที่รักก็ขอหย่า จนถึงวันนี้คิดแล้วว่าเอไม่เหลืออะไร คนอื่นก็ไม่ต้องเหลืออะไร บ้านหลังนี้สร้างเพื่อสามคนจะเอาคนอื่นมาอยู่ไม่ได้ พร้อมทั้งขอจองเวรเอาเลือดเขียนลงดินและสาปแช่งบุคคลที่สามที่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน
นอกจากนั้นยังมีการเขียนประวัติของตนเอง และข้อสั่งเสียอีก 7 ข้อ มีทั้งข้อความถึงลูกและตัดพ้อขอไม่เกิดร่วมกันในชาติต่อไป และแผ่นสุดท้ายเขียนกำชับว่า “ที่ดินจะเป็นของน้องอิ่ม (หมายถึงบุตรสาว) คนเดียว จะไม่มีใครมาซื้อได้ ซื้อก็จะอยู่ไม่ได้ พาผู้หญิงใหม่มาอยู่ก็จะฉิบหายตายไป”
เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐาน พร้อมสอบถามนายปิยะชัย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 6 ต.ท่าขุนราม อ.เมืองกำแพงเพชร ซึ่งมีฐานะเป็นน้องชายของสามีผู้ตาย เล่าว่า ตนได้อาศัยอยู่ร่วมกับพี่ชาย ซึ่งเป็นรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่และหลานสาว รวม 3 คน ก่อนเกิดเหตุนายราเชนทร์ได้พาบุตรสาวไปเที่ยวต่างจังหวัด โดยให้ตนเฝ้าบ้าน กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. ได้เข้ามาตรวจสอบและเปิดไฟในบ้านก็ไม่พบสิ่งที่ผิดปกติ จึงได้ล็อกประตูด้านนอกไว้แล้วเดินทางไปข้างนอก
จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น.เศษ มีคนแจ้งว่าเกิดไฟไหม้ภายในบ้าน ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าผู้ตายได้เข้ามาตั้งแต่ตอนไหน ตอนมาเปิดไฟก็ไม่พบ น.ส.เอ พี่สะใภ้เช่นกัน มาพบอีกทีก็กลายเป็นศพและไฟได้เกิดลุกไหม้จนทำให้เกิดความเสียหาย และจากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงได้บันทึกภาพโดยพบว่ามีการระเบิดของถังแก๊สและเปลวไฟพุ่งโชยขึ้นมาอย่างน่ากลัว
เจ้าหน้าที่ได้จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ทำการตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป