xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เปิดศูนย์เรียนรู้สาธารณสุขชายแดนแห่งแรก รพ.แม่สอด ฝึกคนทำงาน "พื้นที่พิเศษ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ชลน่าน" เปิดศูนย์เรียนรู้การแพทย์และสาธารณสุขชายแดนแห่งแรกของไทย ที่ รพ.แม่สอด เป็นแหล่งฝึกอบรม เพิ่มศักยภาพบุคลากรปฏิบัติงานสาธารณสุขชายแดน-พื้นที่เฉพาะ ดูแลรักษาควบคุมโรคคนไทยและต่างด้าว พร้อม MOU ร่วม 6 หน่วยงาน

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ รพ.แม่สอด จ.ตาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานพิธีเปิดและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดตั้งและดำเนินงานศูนย์การเรียนรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขชายแดน กระทรวงสาธารณสุข ระหว่าง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ศ.พิเศษ นพ.วิชัย เทียนถาวร อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก (สบช.) นายวัฒนวิทย์ คชเสนี รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรศ.) Dr.Francois Nosten ประธานมูลนิธิ เดอะ บอร์เดอร์แลนด์ เฮลท์ และ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานมูลนิธิสุวรรณนิมิต


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สธ.กำหนดให้ประเด็นสาธารณสุขชายแดน เป็น 1 ใน 13 นโยบาย เนื่องจากมีบริบทพื้นที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ มีความซับซ้อน เชื่อมโยงกับหลายปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ อีกทั้งยังเป็นด่านหน้าในการป้องกัน ควบคุมโรคระบาดที่จะเข้าสู่ประเทศ เช่น จ.ตาก มีประชากรทั้งชาวไทย ชาวไทยภูเขา และชาวต่างชาติ มีโรคระบาดที่พบบ่อย ได้แก่ มาลาเรีย วัณโรค และโรคไข้เลือดออก ซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขในพื้นที่ โดยเฉพาะอัตรากำลังและศักยภาพของบุคลากร ที่ต้องมีทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการจัดการกับปัญหาสุขภาพของประชากรไทยและต่างด้าว การลงนามความร่วมมือเปิดศูนย์การเรียนรู้ฯ ที่ จ.ตาก จะทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาสาธารณสุข พัฒนาระบบบริการในพื้นที่ชายแดนของ จ.ตากอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

"จะมีความร่วมมือและการสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นในการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอน ทั้งภาคทฤษฎีและการฝึกภาคสนามที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาในพื้นที่ชายแดน ช่วยพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุขให้พร้อมรับมือกับปัญหาสาธารณสุขชายแดน ส่งผลให้สามารถดูแลสุขภาพประชากรในพื้นที่ชายแดนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้” นพ.ชลน่าน กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น