บุรีรัมย์ - “ ป้าวรรณ” แม่ค้าวัย 54 ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ปรี๊ดหนักรับไม่ได้ถูกแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบตะโกนด่าหยาบประจานต่อหน้าคนนับสิบ เหตุแค่ขาดส่งดอก 2 วัน ปั่นจักรยานบุกร้องศูนย์ดำรงธรรม เผยไม่เคยคิดเบี้ยววันไหนขายของไม่ดีก็แค่ขอผัดผ่อน ยันใช้คืนตามที่กู้ แต่รับไม่ได้ที่ถูกด่าหยาบคาย จนท.รุดตรวจสอบแต่ไม่เจอตัว
วันนี้ (13 มี.ค.) น.ส.ธนภรณ์ หรือป้าวรรณ อายุ 54 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแม่ค้าขายขนม เครื่องดื่ม ของเล่นเด็ก ได้ปั่นจักรยานไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง หลังถูกแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายขณะกำลังขายของต่อหน้าผู้คนนับสิบทำให้เกิดความอับอาย สาเหตุเพราะค้างจ่ายดอกเบี้ย 2 วัน เนื่องจากขายของไม่ค่อยดีจึงขอผัดผ่อนไปก่อน แต่ที่ผ่านมาก็จ่ายทั้งต้นและดอกเบี้ยมาตลอดไม่เคยเบี้ยว แม้ดอกเบี้ยจะสูงกว่ากฎหมายกำหนด
ป้าวรรณให้ข้อมูลว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ได้กู้เงินนอกระบบจากแก๊งดังกล่าวเพื่อมาหมุนในการซื้อของขายจำนวนเงิน 6,000 บาท โดยจะหักล่วงหน้าก่อน 600 บาท ได้รับเงินเพียง 5,400 บาท จากนั้นต้องจ่ายทั้งต้นและดอกเบี้ยวันละ 300 บาททุกวัน เป็นระยะเวลา 24 วัน สรุปได้เงิน 5,400 บาท แต่ต้องจ่ายคืนทั้งต้นดอกเบี้ย 7,200 บาท ที่ผ่านมาก็จ่ายวันละ 300 บาทมาตลอดไม่เคยค้าง
แต่พอเดือนนี้ มี.ค. เป็นช่วงสอบและโรงเรียนใกล้ปิดเทอมจึงขายของไม่ค่อยได้ จึงไม่ได้จ่ายดอก 2 วัน แล้วแก๊งทวงหนี้ก็มาตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อหน้าคนจำนวนมากทำให้รู้สึกอับอายมาก ส่วนตัวยืนยันว่าหนี้ที่กู้มาพร้อมใช้คืนให้แต่รับไม่ได้ที่ถูกด่าประจานแบบนี้ จึงได้มาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยด้วย
หลังรับเรื่อง นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง ได้มอบหมายให้นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม พร้อมกับนายธนธรณ์พล ไขว้พันธ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายอัมรินท์ ทิพย์อักษร ปลัดอำเภอ และนางรัชนีกร สวัสดิ์พูล ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ แต่ไม่เจอแก๊งทวงหนี้คาดว่าน่าจะไหวตัว อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบและติดตามแก๊งทวงหนี้ดังกล่าวมาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย หากมีการข่มขู่ หรือปล่อยเงินกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนด