เชียงใหม่ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่เชิญตัวหนุ่มผู้เสียหายเหยื่อแก๊งเงินกู้นอกระบบข่มขู่ทวงหนี้รีดจ่ายวันละ 40,000 บาท เข้าพบ ยืนยันให้การช่วยเหลือดูแลเต็มที่ พร้อมเตรียมเรียกกลุ่มเจ้าหนี้เข้าเจรจาไกล่เกลี่ย ย้ำชัดในพื้นที่เชียงใหม่จะต้องไม่มีการเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและทวงหนี้โหดอย่างเด็ดขาด
ความคืบหน้ากรณีนายเอ(นามสมมติ) อายุ 37 ปี เจ้าของร้านประดับยนต์แห่งหนึ่งในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ร้องขอความช่วยเหลือขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย จากการที่ถูกแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบตามติดข่มขู่คุกคามทวงหนี้ถึงหน้าร้านทุกวัน ทำให้ลูกค้าหนีหายและหวาดกลัวจนต้องปิดร้านหนี รวมทั้งเครียดถึงขั้นเกือบคิดฆ่าตัวตาย หลังจ่ายรายวันให้เจ้าหนี้ 31 ราย เป็นเงินรวมกันวันละ 40,000 บาท ให้ทุกวันนาน 2 เดือน รวมกว่า 1.4 ล้านบาทแล้ว แต่ยอดหนี้ 700,000 บาท ไม่ลดลงเลย
ล่าสุดวันนี้(8 มี.ค.67) พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญตัว นายเอ (นามสมมติ) เข้าพบหลังเพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และได้ประสานติดต่อกับนายเอ เพื่อให้ความช่วยเหลือติดตามเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว โดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับต้องยอมรับว่านายเอ เป็นผู้ไปกู้เงินนอกระบบจริง แต่ดอกเบี้ยอาจจะไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และเวลานี้ตรวจสอบจนทราบตัวเจ้าหนี้ทั้งหมดแล้ว
โดยเตรียมที่จะประสานเจ้าหนี้มาให้ข้อมูล และเจรจาไกล่เกลี่ยกันทั้งสองฝ่ายในวันนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทางลูกหนี้ และเจ้าหนี้ด้วย ทั้งนี้รายใดที่ลูกหนี้ผ่อนส่งเกินเงินต้น และผ่อนดอกเบี้ยได้จนอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว จะเจรจาเจ้าหนี้ให้ยุติการผ่อนชำระ ส่วนรายใดที่ยังอยู่ในช่วงผ่อนจ่ายก็จะเข้าไปดูเรื่องของดอกเบี้ยให้เป็นตามที่กฎหมายกำหนด และผ่อนจ่ายต่อจนครบ สำหรับรายใดที่คิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด และหากไม่ยินยอมไกล่เกลี่ย รวมทั้งรายที่มีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามทวงหนี้ จะใช้กฎหมายเข้าดำเนินคดีทันที ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำว่า กรณีเงินกู้นอกระบบนั้นจะต้องไม่มีการเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จะต้องไม่มีแก๊งเงินกู้ที่มีพฤติกรรมทวงหนี้ในลักษณะขู่คุกคามโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตามก็ต้องย้ำไปยังลูกหนี้ด้วยว่าให้ระมัดระวังเรื่องของการตัดสินใจกู้เงิน โดยเฉพาะแก๊งเงินกู้ออนไลน์ ซึ่งมีการหลอกลวงให้หลงเชื่อในการกู้เงิน แต่มีการเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งนายทุนที่อยู่เบื้องหลังนั้นค่อนข้างจะติดตามตัวยาก
ด้านนายเอ(นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้พบทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่แล้ว รู้สึกสบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก จากการที่ทางตำรวจรับปากว่าจะเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ ซึ่งตัวเองยินดีที่จะจ่ายเงินกู้คืนทุกบาททุกสตางค์อยู่แล้ว เพียงแต่ขอทางเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดูแลให้ความเป็นธรรมทั้งในเรื่องอัตราดอกเบี้ยและไม่มีการข่มขู่คุกคามกัน เพื่อให้ตัวเองและครอบครัวไม่ต้องอยู่ในสภาพหวาดกลัวและสามารถทำมาหากินได้ตามปกติแล้วมีเงินมาใช้หนี้ได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ยืนยันว่าจากนี้จะไม่ขอกู้เงินนอกระบบมาใช้อีกอย่างเด็ดขาด