บุรีรัมย์ - ญาติหนุ่มพนักงานเทศบาลคลองหาดที่ตกเป็นจำเลยที่ 1 คดีฆ่าเศรษฐินีโรงเกลือ ปี 61 หอบหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในสำนวนและนำขึ้นสู่ชั้นศาล บุกร้องทนายอั๋นช่วยรื้อคดี พร้อมแฉคลิปทนายดัง จนท.รัฐวางแผนปั้นพยานและจำเลยให้การเท็จ ทำให้ถูกตัดสินประหารชีวิต ทั้งที่ยืนยันความบริสุทธิ์มาตลอด อดีตภรรยาเผยช่วงเวลาเกิดเหตุอยู่กับสามี มีเพื่อนเป็นพยานหลายคนไม่เคยเรียกสอบ
วันนี้ (10 มี.ค.) น.ส.จุฑามาศ เจริญสุข อายุ 55 ปี พร้อมด้วยนายวิเชียร พุ่มเรือง อายุ 52 ปี และ น.ส.น้ำผึ้ง อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพี่สาว พี่ชาย และอดีตภรรยา ของนายวิชัย พุ่มเรือง ที่ตกเป็นจำเลยที่ 1 คดีฆ่าโหดเศรษฐินีตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2561 ที่เป็นข่าวโด่งดัง ได้นำเอกสารหลักฐานทั้งข้อความการสนทนา คลิปวิดีโอ และคลิปเสียง ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ที่ยังไม่เคยปรากฏในสำนวน และไม่เคยนำขึ้นสู่ชั้นศาล เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับนายภัทรพงศ์ สุภักษร หรือทนายอั๋น ที่สำนักงานกฎหมายนิติศุภักษร อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ช่วยเหลือรื้อคดีใหม่
หลังจากเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมาศาลฎีกาได้พิพากษาประหารชีวิต นายวิชัย พุ่มเรือง จำเลยที่ 1 พร้อมกับจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลคลองหาด และจำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นอดีต ส.จ. น้องชายนายก ส่วนจำเลยที่ 3 คือนายวิชิต อินทร์แก้ว ให้จำคุกตลอดชีวิต และให้ยกฟ้องเจ๊เยาว์ จำเลยที่ 6 ส่วนจำเลยที่ 2 เสียชีวิตระหว่างพิจารณาคดี
โดยญาติ และอดีตภรรยาที่มาร้องขอให้ทนายอั๋นช่วยรื้อคดีเพราะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายวิชัย จำเลยที่ 1 เนื่องจากมั่นใจว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมเศรษฐินีเจ้าของโรงเกลือตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด แต่ที่ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ 1 เพียงเพราะมีภาพชายคนหนึ่งปรากฏในวงจรปิดลักษณะคล้ายกับนายวิชัยเท่านั้น ไม่ได้มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และไม่มีจำเลยคนใดซัดทอดว่านายวิชัยร่วมในการกระทำผิด กระทั่งญาติมาทราบภายหลังว่ามีการสร้างพยานและจำเลยที่ 6 มาให้การเท็จ จนทำให้ศาลเชื่อว่านายวิชัยมีส่วนร่วมกระทำผิด จนถูกศาลตัดสินประหารชีวิต
นอกจากนี้ ญาติยังได้เปิดคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นหลักฐานในการวางแผนปั้นแต่งจำเลยมาให้การเท็จ จนทำให้คดีบิดเบือน ซึ่งในคลิปก็จะมีเจ้าหน้าที่รัฐ ทนายความชื่อดัง ผู้ติดต่อประสานจำเลย และตัวจำเลยที่ 6 ปรากฏในคลิปดังกล่าว ทั้งยังเปิดคลิปเสียงที่มีการสนทนาตกลงกันระหว่างผู้ประสานจำเลย และทนายความด้วย สำหรับหลักฐานที่ทางญาติของจำเลยได้มานั้น เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ทำตามที่ตกลงกันหรือมีการหักหลังกัน
น.ส.จุฑามาศ พี่สาว นายวิชัย จำเลยที่ 1 บอกว่าที่มาร้องขอให้ทนายอั๋นช่วยเพราะมั่นใจว่าน้องชายเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งน้องเองก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้ทำ จึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้น้อง ซึ่งตอนนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่ง ที่ผ่านมาก็พยายามยื่นร้องไปหลายที่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ สงสารน้องมากไม่ได้ทำผิดแต่กลับโดนโทษประหารชีวิต
ขณะที่ น.ส.น้ำผึ้ง อดีตภรรยา บอกว่า ที่เชื่อว่าอดีตสามีไม่ได้ร่วมกระทำผิดเพราะช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุอดีตสามีอยู่กับตนเองที่บ้าน ซึ่งที่บ้านเปิดเป็นโต๊ะสนุ้กก็มีญาติพี่น้องหลายคนเล่นสนุ้กด้วยกันก็เป็นพยานได้ แต่ตำรวจไม่เคยเรียกไปสอบปากคำเลย ก็ติดใจเพราะสามีไม่ได้กระทำผิดแต่กลับโดนโทษประหารชีวิต แม้กระทั่งคนที่เขาก่อเหตุฆ่าจริงๆ เขาก็บอกว่าอดีตสามีตนเองไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ ก็อยากจะขอความเป็นธรรมให้อดีตสามีด้วย
ด้านทนายอั๋นกล่าวว่า หลังจากญาติของจำเลยที่ 1 คดีฆ่าเศรษฐินีสระแก้ว มาร้องขอความช่วยเหลือ เพราะญาติเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำผิด ประกอบกับมีพยานหลักฐานใหม่ซึ่งไม่เคยปรากฏในสำนวน และไม่เคยนำขึ้นสู่ศาล ซึ่งโผล่ในชั้นศาลฎีกา ซึ่งญาติได้นำไปยื่นศาลแต่ศาลไม่รับ เพราะเป็นเงื่อนไขทางกฎหมายที่มีข้อห้ามว่าไม่ให้ส่งพยานหลักฐานต่างๆ ในชั้นศาลฎีกา ถ้าหากไม่เคยมีการนำขึ้นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ดังนั้นหลักฐานดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานใหม่ ทางญาติของจำเลยที่ 1 จึงได้มาร้องขอให้ตนเองช่วยรื้อคดีอาญา
เพราะมีพยานหลักฐานใหม่ที่อาจจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในคดีนี้ ซึ่งหลังจากตนดูหลักฐานที่ญาตินำมาร้องแล้ว ก็เป็นหลักฐานที่น่าสนใจมาก เช่น คลิปเสียง คลิปวิดีโอ สลิปการโอนเงิน เอกสารการถอดเทปเสียงสนทนา
ซึ่งคดีนี้ญาติของผู้ตายได้ไปว่าจ้างทนายความชื่อดังท่านหนึ่ง แล้วทนายความคนดังกล่าวก็ไปติดต่อกับชายคนหนึ่ง เพื่อให้ช่วยประสานนำตัวจำเลยที่ 6 ข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน มีการต่อรองผลประโยชน์กันในคลิปเสียง เพื่อให้จำเลยที่ 6 มาเป็นพยานซัดทอดและชี้จุดต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ตาย แต่สุดท้ายกลับตกเป็นจำเลยร่วม และไม่ได้มีการทำตามที่ตกลงกันไว้ จนเริ่มมีการบันทึกวิดีโอและคลิปเสียงต่างๆ ไว้ ซึ่งหลักฐานดังกล่าวก็ได้มาจากทนายของจำเลยที่ 6 ในคดีนี้ที่ศาลสั่งยกฟ้องไปแล้ว ซึ่งในคลิปภาพมีการพูดคุยวางแผนในการสร้างพยานหลักฐานเท็จ พยานหลักฐานในคดีนี้จึงเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าเป็นการปั้นแต่งขึ้นเพื่อใส่ร้ายจำเลยคนใดคนหนึ่งในคดีนี้
ทำให้เชื่อว่าพยานหลักฐานที่นำขึ้นสู่ศาลอาจถูกปั้นแต่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นเหตุผลสนับสนุนที่จะขอรื้อฟื้นคดีอาญา ตาม พ.ร.บ.รื้อฟื้นคดีอาญา