กาญจนบุรี - “บิ๊กต่อ” บินลงพื้นที่เมือกาญจน์ หลังนายกฯ เรียกเข้าพบสั่งแก้ปัญหาสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายหารือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.พ.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.เข้าพบ พร้อมกับนำภาพขณะหารือมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin พร้อมกับระบุว่า “ก่อนบินลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมเชิญท่าน ผบ.ตร.มาติดตามการทำงานของตำรวจภูธรภาค 7 กรณีการปราบปรามยาเสพติด ไฟป่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การพนันออนไลน์ และการลักลอบขนของเถื่อนบริเวณชายแดน จ.กาญจนบุรี ครับ”
“โดยปัญหาหนี้นอกระบบผมอยากให้มีการเร่งรัดจัดตลาดนัดแก้หนี้ให้ครอบคลุม ขณะที่ปัญหาบริเวณแนวชายแดนที่ผ่านมามีความหละหลวมไปหน่อย ผมอยากให้มีการกำชับให้เข้มงวดมากกขึ้น ผมต้องการให้ทุกภาคส่วนบูรณาการการทำงาน และเอาจริงกับการแก้ไขปัญหาทุกเรื่องที่กล่าวมาเพื่อให้ปัญหาซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิต และความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนหมดไปโดยเร็วครับ”
จากกรณีข้างต้นนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (27 ก.พ.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางโดย เฮลิคอปเตอร์มาลงที่สนามจอด ฮ.กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประชุมวางแผนการแก้ปัญหาตามข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
โดยมี พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม อดีตรอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเนย์ ผกก.ตม.กาญจนบุรี พ.ต.ท.กฤษฎา จันทร์อุทัย สวญ.ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 (กาญจนบุรี) และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ภ.จว.กาญจนบุรี เข้าร่วมประชุม
โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 และ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้ร่วมรายงานบรรยายสรุปข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์และแผนปฏิบัติการปราบปรามสิ่งของผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และผลการปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามยาเสพติด การป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดนด้านอำเภอสังขละบุรี รวมถึงการบูรณาการแก้ไขปัญหาการลักลอบขนยางพาราเถื่อนข้ามแดนและการนำยางทรานสิทผ่านแดนบริเวณช่องทางบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
จากนั้น เวลา 15.30 น.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.พร้อมคณะเดินทางไปประชุมร่วมกับร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่ห้องประชุม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี พ.อ.อัษฎาวุธ ปันยารชุน รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 กกล.สุรสีห์ รวมทั้งผู้แทนเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
ร้อยโททศพล กล่าวในที่ประชุมว่า สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องแก้ปัญหายางพาราทรานสิท หรือยางพาราที่ผู้ประกอบการขออนุญาตนำมาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้เส้นทางของประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อส่งไปประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ
โดยเป็นหน้าที่ของกรมศุลกากรในการพิจารณาดำเนินการ ส่วนทางจังหวัดกาญจนบุรีได้เข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านการขนส่งและผลกระทบที่เกิดขึ้นในชุมชนและด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และได้มีการประสานต่อกรมศุลกากรเพื่อขอให้ทบทวน และย้ายการขนยางพาราทรานสิท จากที่ใช้เส้นทางด่านชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ให้เปลี่ยนมาใช้เส้นทางด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรีแทน เพราะด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อนมีความพร้อมในทุกด้าน
ส่วนสถานการณ์ไฟป่า จังหวัดกาญจนบุรีได้ร่วมกับกรมอุทยานฯ และผู้นำท้องถิ่นชุมชนในทุกพื้นที่ทำการประชาสัมพันธ์และร่วมกันดับไฟป่า ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้นำเฮลิคอปเตอร์มาร่วมบินทิ้งน้ำในจุดที่เกิดไฟไหม้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเริ่มลดน้อยลงไปมาก ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการป้องกันและปราบปรามขบวนการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดตามแนวชายแดนนั้น จังหวัดกาญจนบุรีได้ร่วมกับกองพลทหารราบที่ 9 โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สนธิกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในการบูรณาการป้องกันและปราบปรามตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเริ่มตั้งแต่จุดตรวจความมั่นคงน้ำเกริ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู จุดตรวจร่วมสะพานรันตี หมู่ 1 ต.หนองลู จุดตรวจสามแยกปรังเผล หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี มาจนถึงด่านตรวจ ตม.บ้านวังกะ ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้ท่านายกรัฐมนตรีได้เรียกเพื่อให้ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีในการกำชับการปฏิบัติ แต่ก่อนหน้านี้ท่านได้สั่งการลงในพื้นที่มาก่อนแล้ว ซึ่งวันนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีในฐานะที่ท่านเป็นผู้บัญชาการในพื้นที่ท่านจึงรู้งานดี ซึ่งท่านได้แถลงแผนการที่ท่านนายกฯ ใส่ใจด้วยความห่วงใยประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี นโยบายที่หนึ่งเลยคือปัญหาเรื่องของยาเสพติด สองเรื่องปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
สำหรับปัญหาเรื่องยาเสพติดนั้นที่ผ่านมาจังหวัดกาญจนบุรีสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางมากถึง 50 ล้านเม็ด และบรรจุภัณฑ์ที่เราเจอมันเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตมาจากทางตอนเหนือของประเทศเพื่อนบ้านของเรา แต่ปัญหาคือยาเสพติดมันได้ไหลลงสู่ทางพื้นที่ภาคใต้ของเรา นั่นแสดงว่าทางด้านเหนือที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านไปถึงทางภาคใต้คือระนองประมาณ 2,800 กว่ากิโลเมตร ซึ่งทางภาคเหนือเจ้าหน้าที่ของเราบล็อกขบวนการค้ายาเสพติดเอาไว้ได้ ส่วนชายแดนฝั่งประเทศลาวเจ้าหน้าที่ของเราสามารถบล็อกขบวนการค้ายาเสพติดเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งยาเสพติดจากด้านตอนเหนือของประเทศเพื่อบ้านไหลลงไปที่ภาคใต้ไปถึงระนอง แสดงว่าจังหวัดกาญจนบุรีสามารถบล็อกขบวนการขนยาเสพติดผ่านเข้ามาในพื้นที่ได้เช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้จะกลับไปเตรียมแผนการรองรับการไหลของยาเสพติดจากประเทศเทศเพื่อนบ้านต่อไป
ซึ่งปัญหายาเสพติดต้องเข้าใจตรงกันว่ามันไม่ได้ผลิตในประเทศของเรา ซึ่งปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านมีสถานการณ์การสู้รบ จึงจำเป็นต้องหาเงินทุนในการนำไปซื้ออาวุธด้วยการผลิตยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในประเทศของเรา จึงกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้ถือว่าโชคดีที่มีฝนตกในพื้นที่ และทุกหน่วยงานได้ร่วมกันลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทำให้ปัจจุบันพบจุดความร้อนอยู่ที่ 3 จุดเท่านั้น จากที่เมื่อวันก่อนพบจุดความร้อนมากถึง 100 จุด อยากให้คงมาตรฐานตรงนี้เอาไว้ ซึ่งผมได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมนำ ฮ.ออกบินสำรวจด้วย แต่ที่สำคัญลักษณะภูมิประเทศของผืนป่าจังหวัดกาญจนบุรีนั้นเป็นป่าไผ่สภาพอากาศร้อนและแห้งทำให้มีโอกาสที่จะเกิดไฟขึ้นมีสูง และเมื่อเกิดไฟป่าขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่เสือไฟ และ อส.อส.เข้าไปในพื้นที่ได้ยากมาก ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีแจ้งให้ทราบว่าทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำ ฮ.มาบินทิ้งน้ำเพิ่มเป็น 2 ลำ ซึ่งจะทำให้ปัญหาไฟป่าเบาบางลง ซึ่งเป็นไปตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ลงมาพื้นที่เพื่อทราบแผน และหลังจากเดินทางกลับจะรีบรายงานสถานการณ์ให้ท่านนายกรัฐมนตรี ทราบโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชุมแล้วเสร็จ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ร้อยโททศพล พร้อมคณะได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจุดตรวจดังกล่าวเป็นจุดตรวจที่มีเส้นทางมารวมกันที่จุดเดียว ที่ผ่านมาจุดตรวจดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาขับรถบรรทุกขนยาบ้าได้มากถึง 50 ล้านเม็ดมาแล้ว