กาญจนบุรี - คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ห้องประชุมแควใหญ่ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง และคณะลงพื้นที่ศึกษาดูงานและติดตามการดำเนินงานความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยมี นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอุดม เพชรคุต รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาญจนบุรี เขต 3 หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและนำเสนอข้อมูลการดำเนินงาน
นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่ชายแดนกับการรองรับ AEC ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ
จึงเห็นว่าควรจะมีแผนการรองรับในระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปถึงในอนาคต และสิ่งที่ประเทศไทยจะต้องเตรียมการรองรับคือด้านการคมนาคมมายังจังหวัดกาญจนบุรี และโครงการทวายโปรเจกต์ จึงได้มีการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการและการใช้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรมาในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้
ทั้งนี้ ได้ติดตามในด้านการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการทั้งการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของจังหวัดกาญจนบุรี ในโครงการเศรษฐกิจพิเศษทวายเพื่อเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก โครงการเศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน และความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรที่บ้านพุน้ำร้อน ด้านการคมนาคม ได้แก่ โครงการมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และส่วนต่อขยายไปโครงการทวายโปรเจกต์ โครงการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคใต้ เชื่อมโยงกับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภายใต้กรอบ GMS เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ
หน่วยงานที่ดำเนินการได้นำเสนอความคืบหน้าในการดำเนินการ ทั้งด้านการคมนาคมโครงการมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ในเส้น M 81 ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 72% คาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ภายในปี 2566 นี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถใช้เป็นเส้นทางหลักเชื่อมโยงในการขนส่งสินค้าจากชายแดนจังหวัดกาญจนบุรีไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้
ส่วนพื้นที่ด่านชายแดน ได้มีการตั้งส่วนของพื้นที่ที่ใช้ในราชการ ทั้งอาคารที่ทำการสำนักงานด่านศุลกากร ศูนย์ประสานงานเพื่อความมั่นคง นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการก่อสร้างที่ทำงานของส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านสาธารณูปโภค ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ โครงข่ายคมนาคม เครือข่ายโทรคมนาคม และจุดจำหน่ายสินค้าในโครงการก่อสร้างตลาดการค้าชายแดนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย