แห่งแรกของอีสาน แพทย์ มข.ทำสำเร็จ! รักษาโรคหนังแข็งด้วยวิธีปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ทีมแพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ทำสำเร็จ รักษาโรคหนังแข็ง ด้วยวิธีปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด เป็นแห่งแรกของภาคอีสาน เผยผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายฯอาการดีขึ้นมาก สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ


โรคผิวหนังแข็ง กลุ่มโรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่มีการกระตุ้นเซลล์คอลลาเจนเพิ่มมากขึ้นทั้งในผิวหนังและอวัยวะภายในอื่นๆ ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติขึ้น ผู้ป่วยกำมือลำบาก บางรายอาจมีแผลที่ปลายนิ้ว ซึ่งพบผู้ป่วยในหญิงมากกว่าชาย ที่สำคัญในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหนังแข็ง คิดเป็นอัตรา 24 คนต่อประชากร 1 แสนคน และในภาคอีสานพบมากถึง 40 คนต่อประชากร 1 แสนคน

ล่าสุดทีมแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประสบผลสำเร็จในการรักษาโรคหนังแข็ง ด้วยวิธีปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดขาว เป็นแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีการแถลงข่าว ณ ห้องประชุมหนองแวง อาคารเรียนรวมคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยรศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ศ.นพ.ทรงศักดิ์ เกียรติชูสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์,

พร้อมด้วย ศ.พญ.ชิงชิง ฟูเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคข้อและรูมาติสซั่ม สาขาวิชาอายุรศาสตร์การ แพทย์เจ้าของไข้, ผศ.นพ.ชินดล วานิชพงษ์พันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา สาขาวิชาอายุศาสตร์ และ นางสาวธนวรรณ โตภูเขียว ผู้ป่วยโรงพยาบาลศรีนครินทร์

รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงความก้าวหน้าของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ว่า ปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความก้าวหน้าทางการแพทย์ ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้และพัฒนา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วย ซึ่งการรักษาผู้ป่วยโดยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด นับเป็นวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงในปัจจุบันและอนาคต

ด้าน ศ.พญ.ชิงชิง ฟูเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคข้อและรูมาติสซั่ม ในฐานะแพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยถึงโรคหนังแข็ง ว่าโรคหนังแข็ง (Scleroderma ) เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ กระตุ้นให้เซลล์ร่างกายผลิตเส้นใยคอลลาเจนออกมาอย่างต่อเนื่องและกระตุ้นการสร้างพังผืด ส่งผลให้พังผืดไปเกาะตามอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย เกิดผิวหนังตึงแข็ง บริเวณใบหน้า นิ้วมือ นิ้วเท้า แขนขา หน้าอก หน้าท้อง ซึ่งหนังแข็งไม่ได้เกิดขึ้นกับอวัยวะภายนอกเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงอวัยวะภายในด้วย เช่นภาวะปอดเป็นพังผืด และกล้ามเนื้อหัวใจเป็นพังผืด ซึ่งเป็นอันตรายอาจพิการและเสียชีวิต

โรคหนังแข็งส่วนใหญ่พบในวัยกลางคน-วัยสูงอายุ (ราว 40-50 ปี) และพบในคนอายุน้อยได้น้อยมาก โดยทั่วประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหนังแข็ง คิดเป็นอัตราผู้ป่วย 24 คน ต่อประชากร 1 แสนคน สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ป่วยโรคหนังแข็งมากที่สุดในประเทศ คิดเป็นผู้ป่วย 40 คน ต่อประชากร 1 แสนคน

ด้านนางสาวธนวรรณ โตภูเขียว ผู้ป่วยหญิง วัย 18 ปี ที่เข้ารักษาเมื่อเตือนมกราคม 2565 เปิดเผยว่า อาการเจ็บป่วยโรคหนังแข็ง จะเกิดอาการผิวหนังตึง การยืดเหยียดของร่างกายทำได้ไม่เต็มที่ จะยกแขนก็ทำไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว จะเกิดแผลขึ้นตามข้อนิ้ว ข้อศอก จะเจ็บมาก ทำให้การไปเรียนหนังสือ ทำได้ยากลำบาก ทั้งช่วงหน้าหนาวเมื่อเกิดแผล จะไปเรียนไม่ไหวต้องขาดเรียนบ่อยๆ

แต่หลังจากทำการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ตลอดระยะเวลาการรักษามีทีมแพทย์ พยาบาล เอาใจใส่ดูแลตลอด ตั้งแต่ก่อนรักษา ระหว่างรักษา มาติดตามอาการเป็นระยะ ตรวจเช็คอาการผิดปกติต่างๆ จะมีแพทย์และพยาบาลมาดูแลรักษาจนอาการดีขึ้น ปัจจุบันหายจากอาการเจ็บป่วย ทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เช่น ไปทำกิจกรรมกับเพื่อน ไปออกกำลังกายได้มากขึ้น ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก




สำหรับนางสาวธนวรรณ ได้ถูกส่งตัวมาเพื่อรักษากับอายุรแพทย์โรคข้อและรูมาติสชั่ม โรงพยาบาลศรีนครินทร์ อาการในขณะที่มาพบอายุรแพทย์ พบว่ามีภาวะพังผืดลามไปที่ปอดผิวหนังแข็งตึง จึงได้วางแผนรักษาทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดของตนเอง หลักจากรักษา 14 วัน พบว่า ผู้ป่วยมีผิวนุ่มขึ้น และในเดือนที่ 3 พบว่าข้อต่อดีขึ้น สามารถเหยียดนิ้วมือ ข้อศอกได้สะดวก และสีผิวกลับเป็นปกติอย่างเห็นได้ชัด

การทำงานของอวัยวะภายในคงที่ อาการของผู้ป่วยดีขึ้นตามลำดับ สามารถช่วยเหลือตนเองได้และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ โรคหนังแข็งเป็นโรคที่พบได้น้อยผู้ป่วยหลายคนยังไม่ทราบแหล่งที่จะหาข้อมูลเรื่องโรคและการปฏิบัติตัว หากท่านมีอาการผิดปกติที่ผิวหนังหรือสงสัยว่าจะเป็นโรคหนังแข็ง แนะนำให้รีบมาพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรกย่อมเป็นผลดีต่อการรักษา

ด้านผศ.นพ.ชินดล วานิชพงษ์พันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา กล่าวถึงขั้นตอนการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด ปัจจุบันมีนวัตกรรมการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดโดยใช้เซลล์ของตนเอง เป็นหนึ่งทางเลือกรักษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้โรคสงบหรือหายขาด และสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติ โดยแพทย์จะกระตุ้นเก็บเซลล์ตันกำเนิดเม็ดเลือดของผู้ป่วยไว้ หลังจากนั้นจะให้ยาเคมีบำบัดขนาดสูง เพื่อกำจัดเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ และรีเซ็ตระบบภูมิคุ้มกัน แล้วนำเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดกลับมาให้แก่ผู้ป่วย เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว

ขั้นตอนหลักการรักษา ประกอบด้วย 1.ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินความแข็งแรงของร่างกาย 2.แพทย์จะทำการกระตุ้นเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากผู้ป่วย 3.ผู้ป่วยจะได้รับยาเคมีบำบัดขนาดสูงเพื่อกำจัดเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติและรีเช็ตระบบภูมิคุ้มกัน 4.นำเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดกลับมาฉีดให้แก่ผู้ป่วยให้ร่างกายพื้นตัว

ปกติแล้วการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจะทำให้กับผู้ป่วยที่อายุไม่มากเกินไปและการทำงานของอวัยวะต่างๆยังดี โดยเลือกผู้ป่วยอาการของโรครุนแรงและลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนในผู้ป่วยหนังแข็งที่อายุสูงวัยและอาการไม่รุนแรงมากนัก ไม่จำเป็นต้องปลูกถ่าย


ด้าน ศ.นพ.ทรงศักดิ์ เกียรติชูสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ กล่าวว่าขอบคุณผู้บริจาคสมทบทุนกองทุนวันศรีนครินทร์ทุกท่าน เพราะเงินจากการบริจาคทางโรงพยาบาลศรีนครินทร์ได้นำมาช่วยเหลือผู้ป่วยโรคที่ซับซ้อน มีรายได้น้อยที่มีค่าใช้จ่ายเกินสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล และพัฒนาเทคโนโลยีในการรักษาผู้ป่วย

กรณีของผู้ป่วยรายนี้เป็นตัวอย่าง ที่เราได้นำเงินบริจาคของประชาชนทุกท่านมาช่วยเหลือให้สามารถใช้ชีวิตต่อได้อย่างปกติ ชีวิตยังมีหวังด้วยพลังแห่งการให้ ร่วมเป็นผู้ให้ได้ที่กองทุนวันศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น